16 พ.ค. 2020 เวลา 16:15 • ปรัชญา
อดีต-สู่ปัจจุบัน
เมื่อ12ปีที่แล้วผมเป็นเด็กคนนึงที่เรียนอยู่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ปี1 เข้ากรุงมาครั้งแรกในชีวิตไม่รู้เรื่องอะไรเลยงงไปหมด ช่วงแรกเดินไปเรียนทุกวันด้วยความประหยัดค่ารถวินมอไซด์เพราะแม่ให้เดือนละ10,000บาทโครตเยอะเลยต้องประหยัดหน่อย ไหนจะค่าหอค่ากินค่าซักผ้าแทบจะไม่เหลือแต่ด้วยความที่ผมอยากหาอะไรทำเพิ่ม ส่วนตัวก็มีวิชาเทนนิสติดตัวมา(ขอโม้หน่อยสมัยรุ่นๆมือ2เยาวชนของประเทศไทยในรุ่นอายุ17ปี)ผมเลยได้ไปสอนเทนนิสในโรงเรียนสาธิตเกษตรซึ่งอยู่ในมหาลัยอยู่แล้ว มีรายได้เพิ่มมาอีกเดือนละ4พัน รวมกับที่แม่ให้มาเป็น14,000บาท
สอนเทนนิสไปได้สักพักมีเพื่อนมาแนะนำให้รู้จักกับธุรกิจขายตรงบริษัทนึงผมก็ได้เข้าไปเรียนรู้ดูแต่รู้สึกว่ามันยากแล้วโดยนิสัยส่วนตัวผมเป็นคนไม่พูดเลยถามคำตอบคำ ใครไม่ถามผมก็ไม่พูดเป็นแบบนี้เลย แต่เนื่องด้วยอยากมีรายได้เพิ่มก็พยายามพัฒนาตัวเองในเรื่องการพูดการแต่งตัว พอทำตัวนั้นไปได้สักระยะมาเจอตัวใหม่ เห็นแล้วว้าวเรื่องแผนการตลาดมันง่ายกว่ากันเยอะวิเคราะห์ทุกอย่างเสร็จคราวนี้ผมก็ตัดสินใจมาทำตัวนี้ชื่อว่าaim... ไม่ขอเอ่ยชื่อเต็มนะครับ ทำไปสักระยะผมก็มีรายได้กับธุรกิจตัวนี้พีคสุดเดือนละ126,000บาทฟังไม่ผิดครับ(หนึ่งแสนสองหมื่นหกพันบาท) ตอนนั้นผมอายุ19 อยู่ประมาณปี2รายได้เฉลี่ยต่อเดือนประมาณเดือนละแสนต้นๆเพราะบางเดือนมันเหวี่ยงขึ้นลงหลังจากนั้นผมก็ไม่ได้ให้ทางบ้านส่งเงินมาเลยแม้แต่บาทเดียวคือผมส่งตัวเองเรียนจนจบมหาลัย
และสิ่งที่ผมคิดเลยถ้าผมเรียนอย่างเดียวผมจบออกมาคงไม่ได้อะไรนอกจากใบปริญญาวิชาความรู้ในสายที่ผมเรียนคือพลศึกษาเพียงอย่างเดียว แต่ผมกลับได้ทักษะในการทำงานขั้นสูงเรียกว่าขั้นสูงเพราะผมเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างมากฝึกฝนตัวเองอย่างมากธุรกิจตัวนี้มันพัฒนาขัดเกลาผมให้เปลี่ยนตัวเองไปมากๆๆ จากไม่ค่อยคุยกับคนสามารถพูดต่อหน้าคนบนเวทีได้เป็นพันๆคน จากพูดไม่ค่อยรู้เรื่องติดๆขัดๆเรื่องสื่อสารก็พูดได้ดีมากขึ้น
และหลังจากที่ผมจบมหาลัยมาผมก็มาศึกษาอาชีพอสังหาริมทรัพย์เพิ่มเติม (ในขณะเรียนและทำงานอยู่ผมก็ศึกษาอยู่บ้างแล้วชอบอ่านหนังสือด้านการลงทุนมากโดยเฉพาะหุ้น อสังหาริมทรัพย์ หนังสือเรียนแทบไม่อ่านเลยนี่คือความจริงที่ผมมาพูดวันนี้😅) เกี่ยวกับซื้อขายที่ดิน อาชีพนายหน้า ปล่อยเงินกู้แบบรับโฉนดที่ดิน ผมมีทุนอยู่ก้อนนึงหลังจากแบ่งซื้อรถไปแล้วปัจจุบันผมก็ยังใช้รถคันเดิมมาถึงทุกวันนี้อีกก้อนนึงผมเอามาซื้อที่ดินเก็บ สาเหตุที่ผมเริ่มผันตัวมาศึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์เพราะเห็นว่ามันมีโอกาสเติบโตแบบก้าวกระโดดคือผมเป็นคนนึงเวลามองงานมองธุรกิจอะไรผมจะมองว่าเราจะทำอะไรงานนั้นต้องมีโอกาสให้เราเติบโตแบบก้าวกระโดดได้ แล้วความเสี่ยงต้องต่ำที่สุดไม่งั้นผมไม่ทำ(แล้วประเมินตัวเองว่าเราทำได้ไหม)
แต่มีสิ่งนึงที่ผมติดใจจากวันนั้นเมื่อ10ปีที่แล้วมีผู้ใหญ่ท่านนึงโทรมาบอกผมว่าจะไปทำไรนักหนา หาไปทำไมเงิน พ่อแม่ก็มีให้เยอะแยะตั้งใจเรียนดีกว่า ผมได้ยินคำพูดนี้ตั้งแต่วันนั้นถึงวันนี้มันยังติดอยู่ในหัวผม เพราะผมคิดมากับตัวเองตลอดว่า ถึงทางบ้านจะไม่ได้ลำบากแต่ผมอยากเป็นคนนึงที่พิสูจน์ตัวเอง และผมคิดว่าการหาเงินเพิ่มมันไม่ใช่เรื่องที่ผิดแถมมันได้ประสบการณ์ให้เราได้เรียนรู้และเติบโตขึ้น 10กว่าปีจากคำพูดนั้นผ่านมาปัจจุบันผู้ใหญ่คนนี้เป็นหนี้พะรุงพะรังเงินไม่พอใช้ นี่คือmindsetของผู้ใหญ่ท่านนึงที่พูดกับผมเมื่อ10ปีที่แล้ว สุดท้ายมันกลับมาทำลายตัวเขาเอง ผมจะบอกว่าmindsetเป็นสิ่งสำคัญมากมันจะดำรงอยู่ติดตัวเราไปชั่วชีวิต ชีวิตเราจะเป็นอย่างไรมันอยู่ที่mindsetวิธีคิดล้วนๆ เพราะฉะนั้นเราอยากมีชีวิตแบบไหนให้คุยกับคนสำเร็จจริงหรือเลือกอ่านหนังสือคนที่สำเร็จจริงที่เขาเขียนแล้วเราจะรู้แนวทางวิธีการของคนที่สำเร็จ คนเก่งมักเรียนรู้จากประสบการณ์ของตัวเองคนฉลาดจะเรียนรู้ประสบการณ์ของคนที่ประสบความสำเร็จแล้วเท่านั้น ซึ่งมันจะช่วยย่นย่อระยะเวลาของกระบวนการทางความคิดได้มากๆ เช่นคนสำเร็จที่เขียนหนังสือเค้ามีประสบการณ์มากกว่า20-50ปี กว่าเค้าจะสำเร็จแต่เค้าเอากระบวนการทางความคิดกลั่นกรองออกมาให้เราอ่านอยู่ในเล่มเดียว แต่เราใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงในการเสพกระบวนการทางความคิดของคนเหล่านี้นี่คือสิ่งที่เราทำได้แบบชาญฉลาด
และที่สำคัญ แม้กระทั่งการอ่านหนังสือสมัยนี้เรายังต้องเลือกอ่านเพราะไม่รู้ว่าคนเขียนสำเร็จจริงไหมบางคนอยู่ในอาชีพนั้นไม่กี่ปีตั้งตัวเป็นกูรูเขียนหนังสือขาย เปิดคอร์สสอนทั้งที่ตัวเองยังไม่ได้สำเร็จอะไรเลย แต่มีแนวคิดที่อ่านหนังสือจากคนสำเร็จมาอีกทีบวกกับพูดจาดูดีก็ทำให้คนหลงเชื่อง่ายๆ และแม้กระทั่งสื่อตามโซเชียลต่างๆอ่านแล้วก็ต้องคิดให้ลึกๆ อย่าไปเชื่อเลยเพราะการสร้างภาพมันสร้างได้ง่ายในสังคมโซเชียลสมัยนี้
สุดท้ายเลยผมจะบอกว่าไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าสุขภาพที่ดีการมีความคิดที่ชาญฉลาดและความต่อเนื่องในการเรียนรู้และทำในสิ่งนั้นๆ......และคุณต้องมีจินตนาการ ภาพความสำเร็จ มาก่อนความสำเร็จที่แท้จริง ซึ่งคนสำเร็จมีสิ่งนี้ทุกๆคน.....หวังว่าเพื่อนๆที่ได้อ่านบทความนี้จะได้รับแรงบันดาลใจหรือประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย😊
Natapon dueansawang
โฆษณา