17 พ.ค. 2020 เวลา 13:45
เรื่องเล่าจากห้องก็บศพ ตอนที่ 3 ศพไร้ญาติ
สวัสดีท่านผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน เรื่องเล่าจากห้องเก็บศพได้ดำเนินมาจนถึง ตอนที่ 3 แล้วจากเสียงตอบรับที่ดีของทุก ๆ ท่านผู้เขียนขอกล่าวคำว่าขอบ คุณจากใจครับ ถ้ามีบางคำผิด บางคำซ้ำ บางคำไม่สละสลวยขอโปรดจงให้อภัยถือว่าเป็นการเล่าสู่กันฟังไม่ได้ประชันขันแข่งแต่อย่างใดครับ
ผีหรือวิญญาณมีจริงหรือไม่ผมก็ไม่อาจทราบได้เพราะตลอดระยะเวลาที่ทำงานกับศพมา 11 ปีบอกได้เลยว่าไม่เคยเจอแม้แต่ครั้งเดียว แต่ผมก็เชื่อว่า บาปบุญมีจริงและเชื่อในการทำความดีครับ เมื่อใกล้วันสิ้นเดือนพวกเราจะมี กิจกรรมหนึ่งคือการเคลียร์ตู้เย็น ไม่ใช่ตู้กับข้าวแต่เป็นตู้เก็บศพเพื่อเป็นการ เพิ่มพื้นที่ให้เพียงพอต่อการเก็บศพลงใหม่แต่ละเดือน โดยทั่วไปศพจะถูก เก็บไว้นานไม่เกิน 1- 2 วันก็จะมีญาติมารับไปแล้ว อาจมีบ้างที่ต้องเก็บไว้ เป็นสัปดาห์แต่ก็ไม่เกิน 1 เดือน หลังจากนั้นแล้วพวกเราจะทำการคัดแยก แล้วส่งศพที่ตกค้างต่อให้มูลนิธินำไปฝัง ขั้นตอนเริ่มจากจดรายชื่อศพคงค้างเกิน 1 เดือน ไปขอรับใบมรณะบัตรรวบรวมจนครบแล้วติดต่อไปยังมูลนิธิเพื่อนัดวันมารับไป แต่ก่อนจะถึงขั้นตอนสุดท้ายนั้นพวกเราต้องเข้าไปในห้องเย็นหรือตู้เย็นเก็บศพหรือห้องดับจิตแล้วแต่ทุกคนจะเรียกกันแต่สำหรับพวกเรา แล้วห้องนี้เปรียบเสมือนหัวใจหลักของหน่วยงานเพราะเป็นที่เก็บร่างอันถือ ว่าเป็นสมบัติของญาติถึงแม้บางร่างจะไร้ซึ่งญาติก็ตามแต่ ผมกับพี่แดงช่วย กันยกศพผู้ชายรายหนึ่งออกมาจากห้องเย็นขนาดใหญ่ที่ใช้สำหรับเก็บรักษาศพมีพัดลมทำความเย็นขนาดมหึมาอยู่ที่ปลายสุดของผนังทั้งสองข้างเพื่อ รักษาอุณหภูมิให้ได้ 0 – 4 องศาเซลเซียสตลอดเวลา ข้างในเต็มไปด้วยชั้น วางติดอยู่ที่ฝาผนังห้องนับรวมได้เกือบ 20 ชั้น บนชั้นจะมีถาดรองศพวางทับอีกที (นึกถึงเตียงนอน 2 ชั้น) ทางเข้าถูกปิดด้วยประตูขนาดใหญ่หนามาก กว่าหนังสือ 700 หน้า 2 เล่มรวมกันขอบประตูถูกซีลด้วยยางกันความเย็น โดยรอบ สามารถเก็บรักษาสภาพของที่อยู่ข้างในได้เป็นอย่างดี แต่ถึงอย่าง ไรก็ตามเมื่อเกิดความแออัดความเย็นก็ไม่สามารถไปได้ทั่วถึงก็มีโอกาสเกิดการเน่าสลายได้อย่างแน่นอน ชายคนนี้เขาเป็นชาวต่างด้าวที่นอนในห้องเย็นมานานสักพักชุดสุดท้ายที่ติดตัวมาก็คือเสื้อและกางเกงกีฬาสีเขียวที่ตอนนี้ เปียกชุ่มไปด้วยคราบน้ำเหลือง ผิวหนังบริเวณแขนแห้งติดกับถาดรองศพซึ่งถ้ายกขึ้นเร็ว ๆ แผ่นหนังคงหลุดติดกับถาดออกมาแน่ ๆ จึงต้องค่อย ๆ ใช้สันมีดแซะอย่างระมัดระวัง ผมกับพี่แดงจึงต้องย้ายศพผู้ชายรายนี้ออกมาจาก ห้องเย็นเข้าไปในห้องแยกอีกห้องหนึ่งเพื่อให้ง่ายต่อการจัดการที่สำคัญตอนนี้ศพเริ่มมีกลิ่นซึ่งแปลกมากขนาดที่รูปร่างผอมแต่ส่งกลิ่นแรงเกินจะรับไหว ต้องขอพี่แดงออกไปเปิดหน้ากากหายใจข้างนอกห้องก่อนแล้วค่อยเข้าไป ใหม่ ผมทำแบบนี้อยู่ 2 รอบกว่าจะแพ็คศพเสร็จ พี่แดงบอกว่าห้ามบอกว่า เหม็นนะเพราะจะทำให้เหม็นมากขึ้นและยังแนะนำให้ผมสูดลมหายใจเข้าไปแรง ๆ จะรู้สึกดีขึ้น ซึ่งขอบอกว่าผมทำไม่ได้จริง ๆ สาเหตุของกลิ่นเน่าน่าจะมาจากการที่ไม่มีญาติมาติดต่อจึงไม่ได้ทำการฉีดฟอร์มาลิน พอเวลาผ่านไปจึงเกิดการเน่าเปื่อยตามกลไกของธรรมชาติแม้จะอยู่ในตู้เย็นก็ตาม ตามกล ไกการเน่านั้นหลังจากเสียชีวิต 12 ชั่วโมงแรกศพจะเริ่มเย็นและแข็ง (Rigor Mortis) อีก12 ชั่วโมงหลังจากนั้นจะเริ่มคลายและค่อย ๆ เน่าในที่สุด (Livor mortis) กระบวนการนี้สามารถชะลอหรือยับยั้งได้ด้วยการเก็บไว้ในที่เย็น หรือฉีดฟอร์มาลิน ซึ่งรายนี้มีสภาพเน่าอย่างเห็นได้ชัดผมถามพี่แดงว่าควรทำอย่างไรดีเพราะกลิ่นแรงมากตอนอยู่ในตู้เย็นก็ไม่ได้กลิ่นขนาดนี้เลย พี่แดง บอกว่าต้องไปหาซื้อถุงซิปมาใส่ถึงจะช่วยได้ เราก็ไปซื้อถุงซิปขนาดใหญ่ ราคาใบละ 300 บาทมาและช่วยกันยกศพใส่ในถุงและรูดซิปปิดจึงเป็นการ เสร็จสิ้นภาระกิจการจัดการศพรายนี้ถือว่าเรื่องกลิ่นหนักสุดตั้งแต่ทำงานมา เลย หลังจากทำการคัดแยก และจัดการเตรียมศพเสร็จแล้วก็ทำการจดชื่อ นามสกุลในใบผูกข้อมือของศพทุกรายซึ่งมีทั้งทั้งศพเด็กและศพผู้ใหญ่ลงในแบบบันทึกเพื่อรอส่งมอบให้มูลนิธิต่อไป
เมื่อถึงวันที่เจ้าหน้าที่ของมูลนิธิมารับศพจะมาพร้อมกับรถตู้ 1 คันและเจ้า หน้าที่ 2 คน มาถึงก็ทำการปูผ้าดิบห่อศพลงบนพื้นหน้าห้องเย็น ก่อนปูทับ ด้วยกระดาษฟางหนา ๆ จนทั่วผืนผ้า เช็คชื่อศพเป็นครั้งสุดท้ายและจดหมายเลขหลุมไว้ในใบบันทึกก่อนที่จะช่วยกันยกศพมาวางไว้บนผ้าผืนนั้น และห่อศพอย่างมิดชิดขั้นตอนนี้กระทำโดยเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิด้วยความชำนาญ โดยเฉพาะตอนใช้เชือกมัดห่อผ้าให้เป็นปล้อง ๆ ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้ายบอกได้เลยว่าเป็นความสามารถพิเศษเฉพาะอาชีพจริง ๆ ผู้เขียนเคยลองทำครั้ง หนึ่งปรากฏว่าทำได้ไม่แน่นพอจนเจ้าหน้าที่ต้องมาทำให้ใหม่ เมื่อเรียบร้อยก็ใช้ปากกาเมจิกเขียนเลขหลุมตัวใหญ่ ๆ ไว้ที่ห้อผ้า และเขียนเลขเดียวกันไว้ที่ใบมรณบัตรก็เป็นอันเสร็จหนึ่งราย ทำแบบนี้จนครบทุกรายแล้วจึงช่วยกัน ยกไปใส่รถตู้ของมูลนิธิ เราส่งมอบทุกอย่างให้มูลนิธิหมดเลย ทั้งศพและใบ มรณะบัตรเนื่องจากว่าศพอยู่ที่ไหน ใบมรณบัตรก็ต้องอยู่ที่นั่น เก็บไว้เพียง หมายเลขหลุมศพเผื่อไว้เวลาญาติมาติดต่อในภายหลังเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่ก็เงียบหายไปเลย ก่อนที่รถมูลนิธิจะวิ่งออกไปเราก็มอบน้ำและเครื่องดื่มเพื่อแสดงมิตรไมตรีอันดีเนื่องจากกิจกรรมนี้ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น ขอร่วมอนุโมทนาสาธุด้วยครับ ถ้าไม่มีพวกท่านพวกเราก็คงต้องลำบากอย่างแน่นอน และอีกคนหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ “พี่แดง” ที่คอยเป็นตัวตั้งตัวตีและรับผิด ชอบหลักทั้งเรื่องเอกสารการตายต่าง ๆ ประสานงานมูลนิธิ ประสานงานเขต พี่แดงถือเป็นอาจารย์ของผมคนหนึ่งและเป็นที่รู้กันในวงการว่าเป็นคนที่เย็บ ศพสวยมาก ฝีเย็บถี่ ละเอียดและที่เจ๋งสุด ๆ คือพี่แดงมีเทคนิคการซ่อน ปลายเงื่อนที่เนียนมาก ๆ ดูไม่ออกเลยว่าฝีเย็บเริ่มจากตรงไหน รอยเย็บของพี่แดงนอกจากจะสวยแล้วยังกักเก็บของเหลวได้เป็นอย่างดี ทุกครั้งที่ทำงานร่วมกันพี่แดงจะสอนว่าให้เคารพต่อศพห้ามลบหลู่เป็นเด็ดขาดเคยมีตัวอย่างว่ามีคนใช้เท้าเขี่ยศพเด็กและหลังจากนั้นก็มีเหตุให้ขาข้างนั้นของเขาใช้งานไม่ได้อีกเลยตลอดชีวิต ซึ่งนี่ก็เป็นความเชื่อของแต่ละคนนะครับ พี่แดงถือว่าเป็นตำนานของพนักงานผ่าศพรุ่นที่สองต่อจากพ่อซึ่งถือว่าเป็นบุคคลร่วม สมัยที่เห็นภาพห้องเก็บศพมาตั้งแต่ยุคต้น ๆ พี่แดงเสียชีวิตหลังจากเกษียณได้ไม่กี่ปีด้วยโรคภัยตามธรรมชาติของทุกชีวิต ขอรำลึกถึงคุณงามความดี ของพี่แดงไว้ ณ ที่นี้และขอให้ดวงวิญณาณทั้งพี่แดงและชายชุดเขียวจงไปสู่สุคติด้วยเทอญ
สุดท้ายสิ่งใดที่พวกเราได้กระทำต่อศพทุกศพ ล้วนเป็นการกระทำด้วยเจตนาอันดี ต้องการให้เขาได้ไปอยู่ในที่ที่ควรอยู่อย่างถูกต้องและเหมาะสมเพราะ ถือว่าเขาเหล่านั้นอย่างน้อยก็เคยมีชีวิตเคยเป็นมนุษย์เหมือนกันกับเราและที่สำคัญวันหนึ่งข้างหน้าเราก็จะเป็นเฉกเช่นเดียวกับพวกเขาเช่นกัน ดังนั้นทุกครั้งที่ปฏิบัติต่อศพเราจะให้เกียรติให้ความเคารพปฏิบัติต่อเขาอย่างสม เกียรติและศักดิ์ศรีที่มนุษย์คนหนึ่งควรจะได้รับ
ก่อนจากกันขอพูดถึงเรื่องทำไมเราจึงส่งศพไร้ญาติไปฝังทำไมจึงไม่เอาไป เผาที่วัด ต้องบอกว่าการทำการฌาปณกิจครั้งหนึ่ง ๆ มีรายละเอียดค่อนข้าง เยอะทั้งพิธีกรรมและค่าใช้จ่ายจึงไม่สะดวกในการดำเนินการกรณีมีจำนวนมากกว่า 1 ราย ดังนั้นการนำไปฝังไว้ที่สุสานของมูลนิธิจึงเป็นทางเลือกที่ เหมาะสมที่สุดที่เราจะกระทำให้เขาได้ภายใต้เงื่อนไขและข้อจำกัดต่าง ๆ เหล่านี้ ไม่แน่ก่อนถึงวันล้างป่าช้าอาจมีใครสักคนตามหาเขาจนเจอก็เป็น ได้...สำหรับคืนนี้ ราตรีสวัสดีครับ แล้วเจอกันใหม่สัปดาห์หน้าครับ
โฆษณา