17 พ.ค. 2020 เวลา 17:04
Homestay เมื่อสวรรค์ให้โอกาสเกิดใหม่ครั้งที่สองหลังจากการ "คิดสั้น"
ขอบคุณภาพจาก https://1th.me/j52cH
โฮมสเตย์ ( Homestay) ภาพยนตร์ไทยแนวดราม่า-แฟนตาซี-ระทึกขวัญ ร่วมเขียนบทและกำกับโดย ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ ซึ่งบทภาพยนตร์ได้รับแรงบันดาลใจจากนวนิยายญี่ปุ่นเรื่อง เมื่อสวรรค์ให้รางวัลผม (Colorful) โดย เอโตะ โมริ พูดถึงเรื่องราวของวิญญาณที่ได้กลับมามีชีวิตอีกครั้งในร่างของเด็กมัธยม และต้องสืบหาสาเหตุการตายของร่างตัวเองก่อนที่จะต้องตายอย่างถาวร
เชื่อว่าหลายคนคงจะเคยดูภาพยนตร์เรื่องนี้กันไปบ้างแล้ว เพราะภาพยนตร์ได้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ตั้งแต่ปี 2561 แต่สำหรับเรา เพิ่งได้มาดูผ่านแอปพลิเคชั่น AIS PLAY บทความนี้จึงอยากเผยให้เห็นมุมมองในความคิดของเราที่มีต่อภาพยนตร์เรื่องนี้พร้อมกับเรื่องราวในชีวิตจริงของเรา
หนังทุกเรื่องมักแฝงไปด้วยข้อคิดเตือนใจผ่านเรื่องราวของตัวละครอยู่เสมอ Homestay ก็เช่นกัน ประเด็นที่หนังพยายามสอนอย่างเห็นได้ชัดคือ การฆ่าตัวตาย
การฆ่าตัวตาย แน่นอนว่าเป็นสิ่งที่สังคมไม่ยอมรับและจะรู้สึกทั้งเสียใจ สงสาร และเวทนาคนคนนั้น และเริ่มตั้งคำถามว่าทำไมถึงทำไปแบบนั้น ทำไมถึงต้องทำร้ายตนเอง ทำไมไม่รักตัวเองบ้าง ไปจนถึงทำไมไม่คิดถึงคนที่อยู่บ้างว่าเขาหรือพวกเขาจะรู้สึกอย่างไร จนนำไปสู่การกล่าวโทษคนคนนั้นว่า เห็นแก่ตัว โดยเฉพาะกับผู้ที่เป็นโรคซึมเศร้า ที่นอกจากเขาจะต้องต่อสู้กับความคิดลบๆ ที่วนเวียนอยู่ในหัว การคิดฆ่าตัวตายเพราะอยากหายไปซ้ำๆ ยังจะต้องมาทนกับความคิดของบางคนอีกว่า โรคซึมเศร้าคือเป็นโรคของคนที่ชอบเรียกร้องความสนใจ ถ้าวันหนึ่งเขาหายไป แทนที่สังคมจะเห็นใจ บางครั้งกลับกลายเป็นว่า สังคมไม่แม้แต่คิดจะพยายามเข้าใจเหตุผลของเขาด้วยซ้ำ
สำหรับเรา ถึงแม้จะไม่ได้ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า แต่ความคิดฆ่าตัวตายนั้นก็เกิดขึ้นบ่อยครั้งในเวลาที่เจอปัญหา ชีวิตเราอาจไม่ได้แย่ในแบบที่ มิน ตัวละครหลักในเรื่องต้องพบเจอ ไม่ใช่การคิดสั้นเพราะทนอยู่กับสิ่งที่คนอื่นกระทำให้ตนเองไม่ได้อีกต่อไปแล้ว แต่กลับเป็นเพราะ ทนกับสิ่งที่ตัวเองเป็นจนเหนื่อย ทนกับความคิดฟุ้งซ่านจนเหนื่อย และทนดูคนที่เรารักต้องคอยเป็นห่วงจนเหนื่อยอยู่ตลอด จะเรียกว่าเป็นคนขี้แพ้และอยากหนีปัญหาโดยวิธีการที่ไม่มีใครเห็นด้วยก็เป็นได้ สุดท้ายเราก็ยังไม่เคยทำจริงๆ แต่การที่ความคิดแบบนี้แวะมาทักทายอยู่บ่อยๆ ทำให้เราคิดว่าเราเข้าใจคนที่ตัดสินใจแบบนั้น ทั้งที่ยังไม่ได้ทำ และทำไปแล้ว ว่าอารมณ์ความรู้สึก ณ ตอนนั้นมันเป็นอย่างไร อย่างที่ใครหลายคนเปรียบเทียบว่าความรู้สึกแบบนั้นมันเหมือนกับ การตกอยู่ในหลุมดำ หลุมที่คนภายนอกมองเห็นวิธีการมากมายในการแก้ปัญหา แต่ความรู้สึกของเราหรือคนที่ตกอยู่ในหลุมดำในตอนนั้น คือ ไม่มีทางแก้ไขแล้ว และเราเหนื่อยแล้ว หัวใจของเราไม่มีพลังเหลือพอแล้ว มันอาจจะลึกลับซับซ้อนแบบที่ว่าเข้าใจได้ยากอยู่พอสมควร
การที่ มิน ได้โอกาสกลับมาเกิดใหม่เพื่อกลับไปคิดอีกครั้งว่า "ต้องการให้มันจบแบบนี้จริงๆ เหรอ ต้องการจบชีวิตตัวเองแล้ว จริงๆ เหรอ" และเมื่อ มิน ได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ก็ได้พบว่า แท้จริงแล้ว ยังมีคนที่รักและหวังดีกับ มิน เสมอ ซึ่ง มิน อาจจะมองข้ามมันไป สุดท้าย เรื่องราวก็ลงเอยที่ทุกอย่างในชีวิต มิน ดูเหมือนจะกลับมาสดใส เหมือนได้เริ่มต้นใหม่กับชีวิตเดิมที่อาจจะดีกว่าเดิม เป็นการบอกกับผู้ชมว่า ก่อนจะคิดตัดสินใจทำอะไร ให้ลองมองในหลายมุมมอง รวมทั้งมองในมุมของคนอื่นว่าเป็นแบบที่ความคิดลบๆ ของเราควบคุมเราไว้จริงๆ หรือเปล่า และถ้าเราหายไปจริงๆ แน่ใจแล้วใชไหมว่าเป็นทางแก้ที่ทำให้เราหลุดออกจากปัญหาจริงๆ เพราะไม่มีใครรู้อย่างมีหลักฐานยืนยันหรอกว่า หนทางหลังจากการดับสลายนั้นคือที่ใดและจิตวิญญานจะต้องเผชิญกับอะไรต่อไป
แต่อย่างไรก็ตาม เราก็พอจะคาดเดาตอนจบของหนังได้ก่อนหนังจะจบ และหลายคนก็คงคาดเดาได้เหมือนกัน หนังต้องลงเอยด้วยดี เพื่อสื่อว่า การฆ่าตัวตาย อาจจะทำให้พลาดสิ่งดีๆ ในชีวิตที่เราไม่ได้สนใจ แต่ชีวิตจริง อาจไม่ใช่อย่างนั้นเสมอไป คนทุกคนย่อมมีปัญหาที่แตกต่างกัน ปัญหาใหญ่บ้าง เล็กบ้าง ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคน การแก้ปัญหาก็แตกต่างกันตามไปด้วย แม้แต่การหายไป ก็ถือว่าเป็นการแก้ปัญหา แต่เราอยากให้เปิดใจว่า ไม่ว่าใครก็ตามที่ได้ตัดสินใจอย่างนั้นไปแล้ว หรือใครก็ตามที่ยังตกอยู่ในหลุมดำ พวกเขาต่างก็มีเหตุผลด้วยกันทั้งนั้น ถ้าไม่คิดที่จะพยายามเข้าใจความรู้สึกของพวกเขา ก็อย่าทำเหมือนว่าเข้าใจและตัดสินชีวิตใครด้วยมุมมองของตนเอง อย่าโลกแคบและปล่อยให้ตัวเองอยู่เพียงแค่ในกรอบความคิดของตนเองที่ไม่มีใครทำลายได้ เพราะโลกมันกว้างและซับซ้อน ฉะนั้น ขอให้เปิดใจให้กว้างเพื่อโลกที่น่าอยู่มากขึ้น
เปรียบดังทุกชีวิตมี Homestay เป็นของตนเอง Homestay ที่มีลักษณะ รูปแบบ เครื่องอุปโภคบริโภค สิ่งอำนวยความสะดวก ที่ไม่เหมือนกัน และแน่นอน เวลาในการได้เข้าอยู่อาศัยก็ไม่เท่ากันอีกด้วย แต่ Homestay สามารถปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้นและน่าอยู่ขึ้นได้ ฉะนั้น ขอให้ดูแลรักษา Homestay แห่งนี้ต่อไปถ้าเกิดว่าหัวใจยังไหวอยู่ เพราะวันใดวันหนึ่ง Homestay ก็ต้องหายไป และคนเราไม่ได้มีโอกาสให้กลับไปมีชีวิตใหม่อีกครั้ง เพราะนี่คือชีวิตจริง ไม่ใช่ภาพยนตร์
Seqptember.
ขอบคุณข้อมูลภาพยนตร์จาก https://1th.me/6Wveo
โฆษณา