18 พ.ค. 2020 เวลา 07:59 • ประวัติศาสตร์
The American Civil War สงครามกลางเมืองอเมริกา
..... สงครามกลางเมืองอเมริกา (The American Civil War) เป็นสงครามที่เกิดจากความขัดแย้ง ระหว่างรัฐเกษตรกรรมทางใต้ของสหรัฐอเมริกา ที่มีการทำไร่ขนาดใหญ่ใช้แรงงานทาสชาวผิวดำ กับรัฐอุตสาหกรรมทางเหนือระหว่าง ค.ศ. 1861-1865 (พ.ศ. 2404 - 2408) ในสมัยรัชกาลที่ 4 ของไทย
สืบเนื่องจากข้อโต้แย้งยืดเยื้อเกี่ยวกับการถือครองทาส ระหว่างฝ่ายหนึ่งเป็นกลุ่มชาตินิยมสหภาพ ซึ่งประกาศความภักดีต่อรัฐธรรมนูญสหรัฐ กับกลุ่มแบ่งแยกดินแดนสมาพันธรัฐ ซึ่งสนับสนุนสิทธิของมลรัฐในการคงไว้ซึ่งสถาบันทาสอีกฝ่ายหนึ่ง
The American Civil War 1861 - 1865
..... ในบรรดา 34 รัฐของสหรัฐ ในเดือนกุมภาพันธ์ 1861 เจ็ดรัฐทาสในภาคใต้ประกาศแยกตัวออกจากสหรัฐ เพื่อตั้งเป็นสมาพันธรัฐอเมริกา (the Confederate States of America) หรือ "ฝ่ายใต้" สมาพันธรัฐเติบโตจนมี 11 รัฐทาส รัฐบาลสหรัฐไม่เคยรับรองทางการทูตซึ่งสมาพันธรัฐ เช่นเดียวกับประเทศอื่นทุกประเทศ (แม้สหราชอาณาจักรและฝรั่งเศสจะให้สถานภาพคู่สงครามแก่สมาพันธรัฐ) ส่วนมลรัฐที่ยังภักดีต่อสหรัฐ (รวมทั้งรัฐชายแดนซึ่งทาสชอบด้วยกฎหมาย) เรียกว่า "สหภาพ" หรือ "ฝ่ายเหนือ"
== มูลเหตุของการเกิดสงครามกลางเมือง ==
..... ปัญหาเรื่องทาสเป็นสาเหตุให้เกิดสงครามกลางเมือง ทำความเสียหายมากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา ทำให้เกิดการสูญเสียชีวิตพลเมือง และทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก สงครามกลางเมืองครั้งนี้มีสาเหตุของสงครามกลางเมือง 2 ประการ ดังต่อไปนี้
2
@ ประการแรก ... เกิดความขัดแย้งด้านเศรษฐกิจและสังคม ของฝ่ายมลรัฐทางภาคเหนือ และฝ่ายมลรัฐทางภาคใต้ ซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจน คือเศรษฐกิจของฝ่ายทางภาคใต้ขึ้นอยู่กับเกษตรกรรมเป็นหลัก ที่สำคัญได้แก่ ยาสูบ ฝ้าย ข้าวและน้ำตาล ผลผลิตเหล่านี้ต้องส่งไปขายยังต่างประเทศ ส่วนเศรษฐกิจของฝ่ายมลรัฐทางภาคเหนือมีการทำเกษตรกรรมบ้าง และมีอุตสาหกรรมทั้งหนักและเบา ซึ่งแรงงานที่ใช้เป็นพวกกรรมกร ผลผลิตทางอุตสาหกรรมของมลรัฐภาคเหนือ จึงต้องการตลาดภายในประเทศ ทำให้มลรัฐภาคใต้เสียผลประโยชน์ การซื้อขายสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ทางภาคใต้ต้องเผชิญกำแพงภาษีของต่างประเทศทำให้ได้รับผลกระทบ 2 ด้าน
2
@ ประการที่สอง ... มลรัฐภาคใต้ใช้แรงงานจากทาสเป็นสำคัญซึ่งเป็นวิถีชีวิตของชาวภาคใต้ ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ และความเป็นหน้าเป็นตาทางสังคม มลรัฐทางภาคเหนือโจมตีการใช้แรงงานทาสว่าเป็นเรื่องผิดศีลธรรม
อับราฮัม ลินคอล์น ประธานาธิบดีคนที่ 16 ของสหรัฐ (1861–1865)
..... ดังนั้น เมื่ออับราฮัม ลินคอร์น จากพรรครีพับลิกัน ซึ่งต่อต้านการใช้แรงงานทาสอย่างรุนแรงได้รับการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีในปี ค.ศ.1861 ได้ประกาศไม่รับรองการแยกตัวของมลรัฐทางภาคใต้ โดยให้เหตุผลว่าไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และให้สัญญาว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับปัญหาเรื่องทาสในมลรัฐที่มีทาสอยู่แล้ว แต่มลรัฐทางภาคใต้มิได้ยอมรับฟังเหตุผล และได้เข้าโจมตีค่ายทหารของรัฐบาลกลางที่ประจำการอยู่ในมลรัฐทางภาคใต้ซึ่งนับว่าเป็นการจุดชนวนที่ทำให้เกิดสงครามกลางเมืองขึ้นในวันที่ 21 เมษายน ค.ศ.1861 ดังนั้น ประธานาธิบดีลินคอร์นจึงประกาศใช้กำลังเข้าปราบปรามมลรัฐทางภาคใต้ที่แยกตัวออกไป
..... Confederate States of America : สมาพันธรัฐอเมริกา
เป็นชื่อทางการของรัฐที่แยกตัวออกระหว่างสงครามกลางเมืองอเมริกัน ระหว่าง ค.ศ.1860-1861 ประกอบด้วยรัฐเวอร์จิเนีย, นอร์ท คาโรไลนา, เซาท์ คาโรไลนา, จอร์เจีย, ฟลอริดา, เทนเนสซี, อะลาบาม,า มิสซิสซิปปี, หลุยส์เซียนา, เท็กซัส และอาร์คันซอ มีประธานาธิบดีคือนายเจฟเฟอร์สัน เดวิส (Jefferson Davis) แห่งรัฐมิสซิสซิปปี ส่วนรัฐทาสอื่นๆ คือ เดลาแวร์, มารีแลนด์, เคนทักกี กับบางส่วนของรัฐเวอร์จิเนีย ซึ่งปัจจุบันคือเวสต์ เวอร์จิเนีย ไม่ได้แยกออกมาเป็นสมาพันธรัฐด้วย
1
แผนที่แสดงระหว่างฝ่ายเหนือ และฝ่ายใต้
Jefferson David ประธานาธิบดีแห่งสมาพันธรัฐ, ฝ่ายใต้
..... สงครามกลางเมืองอเมริกาเป็นสงครามอุตสาหกรรมที่แท้จริงครั้งแรก ๆ ของโลก มีการใช้ทางรถไฟ, โทรเลข, เรือกลไฟ, ปืนไรเฟิล, บอลลูนสังเกตุการณ์, เรือดำน้ำ และการใช้สนามเพลาะ พร้อมทั้งอาวุธซึ่งผลิตเป็นจำนวนมาก แบบของสงครามเบ็ดเสร็จ
1
..... สงครามนี้เกิดขึ้นก่อนสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ในทวีปยุโรป และสงครามครั้งนี้ยังเป็นสงครามที่นองเลือดที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ ซึ่งส่งผลให้ทหารเสียชีวิตกว่า 620,000 นาย และพลเรือนเสียชีวิตไม่ทราบจำนวน
นักประวัติศาสตร์ จอห์น ฮัดเดิลสตัน ประเมินยอดผู้เสียชีวิตว่า ชายรัฐฝ่ายเหนืออายุระหว่าง 20–45 ปีเสียชีวิตไป 10% และชายรัฐฝ่ายใต้อายุระหว่าง 18–40 ปีเสียชีวิตไป 30% ชัยชนะของฝ่ายเหนือ หมายถึงจุดจบของสมาพันธรัฐและทาสในสหรัฐ และเสริมอำนาจแก่รัฐบาลกลาง ปัญหาทางสังคม การเมือง เศรษฐกิจและเชื้อชาติของสงครามมีอิทธิพลต่อยุคบูรณะ ซึ่งดำเนินไปจนถึงปี 1877
..... เมื่อเปรียบเทียบสมรรถนะของทั้งสองฝ่ายแล้วในด้านพื้นที่ทั้งสองฝ่ายต่างมีพื้นที่หรือดินแดนที่ใกล้เคียงกัน แต่หากเปรียบเทียบด้านกำลังคน และทรัพยากรธรรมชาติตลอดจนเทคโนโลยีแล้ว มลรัฐทางภาคเหนือได้เปรียบกว่ามลรัฐทางภาคใต้เป็นอย่างมาก แต่มลรัฐทางภาคใต้มีผู้นำทางทหารที่มีความสามารถคือ นายพล โรเบิร์ต อี.ลี (Robert E. Lee) นอกจากนี้ทหารทางมลรัฐภาคใต้มีขวัญกำลังใจและมีความเด็ดเดี่ยวมากกว่าทหารของมลรัฐทางภาคเหนือ
..... ส่วนมลรัฐทางฝ่ายเหนือนั้น อับราฮัม ลินคอล์น ใช้เวลาอยู่หลายปีกว่าจะได้นายพลผู้เก่งกาจมาบัญญาชาการ ชื่อว่า นายพล ยูลิซิส เอส. แกร๊นท์ (Ulysses S. Grant) เป็นผู้บังคับบัญชาการทหารที่มีความสามารถเหนือกว่านายพลโรเบิร์ต อี.ลี. จึงสามารถพลิกสถานการณ์ความเสียเปรียบทางการทหารมาเป็นความได้เปรียบและทำให้มลรัฐทางภาคเหนือได้รับชัยชนะในการทำสงครามกลางเมืองในที่สุด
2
Ulysses S. Grant ผู้บังคับบัญชาการทหารฝ่ายเหนือ และ Robert E. Lee ผู้บังคับบัญชาการทหารของฝ่ายใต้
..... ฝ่ายสมาพันธรัฐยอมจำนน .....
นายพลโรเบิร์ต อี. ลี ได้รับสารจากนายพลแกรนต์ ขอให้ยอมจำนนเสีย ลียังพยายามสู้ต่อ และพยายามจะฝ่ากองกำลังของเชอริแดนที่ปิดถนนใกล้กับ แอพโพแมตท็อกซ์ คอร์ทเฮ้าส์ไว้ แต่เมื่อพบว่าทางเลือกเดียวที่เหลือคือต้องรบแบบกองโจรในป่า ลีจึงตัดสินใจยอมวางอาวุธ แล้วส่งสารถึงแกรนต์ว่ากองทัพเวอร์จิเนียเหนือขอยอมจำนน สงครามกลางเมืองอเมริกาเป็นอันสิ้นสุดลง เมื่อวันที่ 9 เมษายน ค.ศ. 1865 ณ บ้านของ วิลเมอร์ แม็คลีน (McLean House) หรือแอพโพแมตทอก คอร์ทเฮาส์ (Appomattox Courthouse) ในรัฐเวอร์จีเนีย กองกำลังสมาพันธรัฐที่ยังไม่ยอมทิ้งอาวุธ ก็ทยอยกันยอมจำนนเมื่อข่าวการยอมแพ้ของนายพลลีทราบไปถึง
..... ประธานาธิบดีลินคอล์น ถูกลอบสังหาร .....
ในวันที่ 14 เมษายน ค.ศ. 1865 ประธานาธิบดีลินคอล์น ถูกนาย จอห์นวิลค์ส บูธ นักแสดงที่ฝักใฝ่ฝ่ายสมาพันธรัฐลอบยิง (นายจอห์น วิลค์ส บูธชาวผิวขาวที่เคยสนับสนุนการเลิกทาส แต่เมื่ออับราฮัมต้องการให้คนผิวดำมีสิทธิการเลือกตั้งเท่าเทียมกับคนขาว เรื่องนี้ทำให้คนขาวหลายคนไม่พอใจ รวมทั้งมือสังหารคนนี้ด้วย) ลินคอล์นเสียชีวิตในรุ่งเช้าวันถัดไป และ แอนดรูว์ จอห์นสัน กลายเป็นประธานาธิบดีคนต่อมา
ประธานาธิบดีจอห์นสันออกแถลงการณ์ ประกาศจุดสิ้นสุดของการก่อความไม่สงบ เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม ค.ศ. 1865 ประธานาธิบดี เจฟเฟอร์สัน เดวิส ถูกจับกุมในวันถัดมา
การยอมจำนนที่แอพโพแมตทอก คอร์ทเฮาส์ (Appomattox Courthouse)
..... ผลลัพธ์ของสงครามกลางเมือง .....
จากการสู้รบของมลรัฐทางภาคเหนือ และมลรัฐทางภาคใต้ ทำให้เกิดความเสียหายทั้งในด้านทรัพยากรบุคคลและทรัพย์สินต่างๆ อย่างมากมายในที่สุดฝ่ายมลรัฐทางภาคเหนือเป็นฝ่ายชนะอย่างเด็ดขาด และสิ่งที่ตามมาของสงครามกลางเมืองคือ
1) ผลต่อรัฐธรรมนูญ
เนื่องจากสหรัฐอเมริกาได้รับชัยชนะในสงครามกลางเมืองจึงทำให้อำนาจของรัฐบาลกลางมีมากขึ้น และการแยกตัวออกจากสหรัฐอเมริกาของมลรัฐทางภาคใต้ได้ถูกยกเลิกไป ทำให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมอีก ได้แก่
- ให้เลิกทาสทั่วสหรัฐอเมริกา
- อนุญาติให้ชาวอเมริกันทุกคนมีสิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้งหากมีคุณสมบัติเพียงพอ
- อนุญาติให้ชาวอัฟริกันผิวดำที่เคยเป็นทาสมาก่อน มีสิทธิที่จะลงคะแนนเสียงเลือกตั้งได้
1
2) ผลทางการเมือง
ทำให้อำนาจทางการเมืองเปลี่ยนจากบรรดาเจ้าของไร่ขนาดใหญ่ทางมลรัฐทางภาคใต้ มาเป็นบรรดากลุ่มอุตสาหกรรม และธุรกิจทางมลรัฐจากทางภาคเหนือแทน
พรรครีพับลิกันกลายเป็นพรรคการเมืองที่มีบทบาทอย่างมากในทางการเมืองของสหรัฐอเมริกานับแต่นั้นเป็นต้นมา และผลของสงครามทำให้มลรัฐทางภาคใต้เกิดการรวมตัวทางการเมืองอย่างเหนียวแน่น โดยให้การสนับสนุนพรรคเดโมแครท เพียงพรรคเดียวเท่านั้น
3) ความเจริญรุ่งเรือง
มลรัฐทางภาคเหนือมีความเจริญรุ่งเรืองมาก แต่ในขณะเดียวกันมลรัฐทางภาคใต้กลับล้าหลังลง เนื่องจากทรัพย์สินและบ้านเรือนถูกทำลาย อย่างหนักเนื่องมาจากสงครามกลางเมือง
ขอบคุณทุกท่านที่มารับชมกันนะครับ ฝากกดไลค์ กดแชร์ และกดติดตาม
เพื่อเป็นกำลังใจ ที่แบ่งปันสาระเรื่องประวัติศาสตร์จากที่ต่างๆ ที่หลายคนยังไม่ทราบมาก่อนนะครับ :-)
References & Credit :
โฆษณา