18 พ.ค. 2020 เวลา 12:00 • ประวัติศาสตร์
เบียร์กับไวน์อะไรเกิดก่อน
สืบเนื่องมาจากช่วงที่ผมต้องเก็บตัวอยู่บ้าน เพื่อหยุดเชื้อ เพื่อชาติ เลยเกิดอาการฟุ้งซ่านทางความคิดขึ้นมาว่า บรรดาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประเภทต่างๆ ที่ผมกักตุนเอาไว้ดื่มในช่วงไวรัสล้างโลกระบาดอยู่ตอนนี้นั้นเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประเภทใดกันแน่ที่อุบัติขึ้นมาบนโลกเน่าๆใบนี้เป็นชนิดแรก..
ด้วยความที่ผมกักตุนเครื่องดองของเมาเอาไว้หลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น วิสกี้, บรั่นดี, วอดก้า รวมทั้งเบียร์และไวน์ แต่ด้วยความที่พอจะรู้อยู่แล้วว่า บรรดา วิสกี้, บรั่นดี และวอดก้านั้นผลิตมาจากการกลั่น เพราะฉะนั้นแล้ว พวกมันจึงไม่น่าจะใช่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดแรกๆที่ถือกําเนิดเกิดขึ้นมาบนโลกนี้ เนื่องจากการทําสุรากลั่นจําเป็นต้องมีขั้นตอนพิเศษคือ “การกลั่น” ซึ่งกว่ามนุษย์กลุ่มแรกจะคิดค้นวิธีการกลั่นได้ก็น่าจะซักประมาณ 2,000 ปีก่อน และกว่าจะใช้ในการกลั่นสุราก็น่าจะหลังจากนั้นอีกนาน
ดังนั้น เบียร์และไวน์ซึ่งผลิตจากกระบวนการหมักจึงควรจะเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดแรกๆที่ อุบัติขึ้นบนโลกนี้ แต่ว่าจะเป็นเบียร์หรือไวน์กันหล่ะที่ถือกําเนิดขึ้นก่อน ก่อนอื่นต้องทราบก่อนว่า การผลิตแอลกอฮอล์นั้นจะใช้จุลินทรีย์หรือยีสต์เพื่อทําหน้าที่เปลี่ยนนํ้าตาลให้เป็นแอลกอฮอล์ แต่ผมจะไม่เขียนถึงรายละเอียดของยีสต์และเอนไซม์ชนิดต่างๆนะครับ เอาเป็นว่ากระบวนการทําให้เกิดแอลกอฮอล์ต้องใช้ยีสต์ดูดซึมนํ้าตาลกลูโคสจากนํ้าผลไม้หรือธัญพืชเพื่อเปลี่ยนเป็นแอลกอฮอล์ขึ้นมาก็แล้วกัน
Photo from: https://pixabay.com/photos/wine-glass-white-grapes-drinks-1761613/
ซึ่งจากประวัติศาสตร์ระบุเอาไว้ว่า “ไวน์” น่าจะเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดแรกที่เกิดขึ้นได้เอง จากการหมักของธรรมชาติ นั่นก็คือ เมื่อฝนตกนํ้าได้เกิดการชะล้างหน้าดินใต้ต้นองุ่นจนเกิดเป็นแอ่งนํ้า เมื่อองุ่นสุกได้ที่ก็ร่วงหล่นมาใส่ในแอ่งนํ้านั้น จึงเกิดการเปลี่ยนนํ้าตาลให้กลายเป็นแอลกอฮอล์และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เมื่อมนุษย์มาสังเกตพบเห็นเข้าจึงทดลองชิมดูและคงจะชื่นชอบในรสชาติจึงซัดไปเต็มเหนี่ยวจนมึนเมา เมื่อรู้สึกตัวอีกทีจึงเกิดอาการกลัวและหวาดผวากับอาการที่เกิดขึ้นกับตัวเองแล้วก็เข็ดขยาดจนไม่กล้าข้องแวะแตะต้องกับแหล่งนํ้านี้อีกเลย
หลังจากนั้นอีกนานทีเดียวกว่าที่มนุษย์เราจะเริ่มกระบวนการหมักด้วยตัวเอง ซึ่งหลักฐานที่เก่าแก่ที่สุดคือไหที่พบในมนฑลเฮอนาน ประเทศจีน ซึ่งพบร่องรอยของ “กรดทาร์ทาริก” ที่เกิดขึ้นในขั้นตอนของการหมักไวน์จากองุ่นหรือผลไม้ตระกูลเบอรี่ จากการวิเคราะห์พบว่าไหนี้มีอายุประมาณ 9,000 ปี
ส่วนทางฝั่งของเบียร์นั้นก็มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ระบุว่าน่าจะเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดแรกที่มนุษย์ผลิตได้ ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเกิดจากความบังเอิญที่เกิดจากการจัดเก็บผลผลิตทางการเกษตรในยุคนั้นยังไม่ดีนัก จึงทําให้ธัญพืชจําพวกข้าวบาเลย์และข้าวสาลีที่เก็บเกี่ยวมากองๆรวมกันไว้ได้รับความชื้นจากอากาศจึงทําให้เกิดการหมักโดยเชื้อจุลินทรีย์จนมีแอลกอฮอล์เกิดขึ้นทำให้ได้ข้าวที่มีกลิ่นและรสชาติที่เปลี่ยนไปและมนุษย์ในยุคนั้นคงจะพอใจในรสชาติที่ได้โดยความบังเอิญจึงถ่ายทอดกรรมวิธีการผลิตและก็ได้ปรับปรุงวิธีการผลิตต่อมาเรื่อยๆ
photo from: https://pixabay.com/photos/beer-barley-drink-bar-foam-party-4893536/
ส่วนหลักฐานทางโบราณคดีพบหลักฐานการผลิตเบียร์ที่เก่าแก่ที่สุดคืออ่างศิลาขนาดใหญ่ในสถานที่ ที่น่าจะเป็นวิหารรูปแบบหนึ่งซึ่งสร้างขึ้นเมื่อประมาณ 11,500 ปีก่อน ในประเทศตุรกีในยุคปัจจุบัน ในอ่างศิลาที่พบนั้น มีร่องรอยของสารเคมีชื่อ “ออกซาเลต” ซึ่งจะก่อตัวขึ้นเมื่อนําข้าวบาเลย์มาผสมนํ้า หลังจากผสมเข้าด้วยกันจะหมักบ่มจนกลายเป็นเบียร์ตามธรรมชาติ
ที่ผมเล่ามาทั้งหมดนั้นคือประวัติความเป็นมาที่มนุษย์ค้นพบและผลิตแอลกอฮอล์ได้ด้วยความบังเอิญ แต่ในช่วงเวลาต่อมาที่มนุษย์รู้จักการจดบันทึกแล้ว บริเวณประเทศอิรัคในปัจจุบัน เมื่อประมาณ 6,000 ปีก่อน ได้ค้นพบบันทึกที่เกี่ยวกับเบียร์ ซึ่งเป็นบันทึกที่เก่าแก่ที่สุดที่ค้นพบในยุคสุมาเรียน และถ้าจะพูดถึงอารยธรรมโบราณ “อียิปต์” ก็เป็นอีกหนึ่งในอารยธรรมโบราณที่เบียร์มีความสําคัญมาก เนื่องจากอียิปต์นับเป็นชนกลุ่มแรกที่สามารถแยกเชื้อและต่อเชื้อยีสต์ได้ ส่วนอารยธรรม โรมันนั้นจะให้ความสําคัญไปที่ไวน์มากกว่าเพราะภูมิประเทศละแวกแถบเมดิเตอร์เรเนียนเหมาะ สมสําหรับการปลูกองุ่นเพื่อผลิตไวน์ ชาวโรมันจึงนิยมการดื่มไวน์และให้ความสําคัญกับคุณภาพของไวน์มาก
ดังนั้นจากข้อมูลที่ผมนําเสนอมาทั้งหมด ก็น่าจะพออนุมานได้ว่า “ไวน์” น่าจะเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดแรกที่เกิดขึ้นได้เองจากการหมักของธรรมชาติ แต่ถ้าว่ากันตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ “เบียร์” น่าจะเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดแรกที่มนุษย์ผลิตได้ รวมไปถึงหลักฐานทางโบราณคดีที่พบโบราณวัตถุเป็นอ่างศิลาขนาดใหญ่ในวิหารที่สร้างขึ้นเมื่อประมาณ 11,500 ปีก่อน ส่วนหลักฐานทางโบราณวัตถุที่เก่าแก่ที่สุดของทางฝั่งไวน์คือไหที่มีอายุประมาณ 9,000 ปี ดังที่กล่าว ไปแล้ว
เอาหล่ะครับ..ก็ว่ากันไปตามหลักฐานและข้อมูลที่พอจะหาได้นะครับ แต่สำหรับผมแล้วไม่ว่าจะเป็นเบียร์หรือไวน์ก็ล้วนสร้างความสุนทรีในการดื่มทั้งสองอย่างแล้วแต่อารมณ์และบรรยากาศ ประมาณว่า เอาหรูหราก็ไปไวน์..เอาง่ายๆเฮฮาก็มาเบียร์ 555 อย่างไรก็แล้วแต่ ควรดื่มอย่างพอดีมีสติและมีความรับผิดชอบต่อตัวเองและสังคมนะครับ..
References:
หนังสือ เมา: ประวัติศาสตร์แห่งการร่ำสุรา (A Short History of Drunkenness) โดย Mark Forsyth
แปลโดย ลลิตา ผลผลา, 2561. สำนักพิมพ์ Bookscape
โฆษณา