18 พ.ค. 2020 เวลา 16:46 • ประวัติศาสตร์
สุนัขทรงเลี้ยง ย่าเหล
ย่าเหล (พ.ศ. 2448 - 2456) เป็นสุนัขพันทางที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเลี้ยงและโปรดปรานเป็นอย่างยิ่ง
สำหรับชื่อย่าเหลนั้น พระองค์ทรงตั้งจากชื่อตัวละครเอก เอมิล ยาร์เลต์ (Emile Jarlet) จากบทละครฝรั่งเศสเรื่อง "My friend Jarlet" ซึ่งได้ทรงพระราชนิพนธ์แปลเป็นบทละครภาษาไทย ชื่อ "มิตรแท้" และยังทรงพระราชนิพนธ์ละครพูดเรื่อง "เพื่อนตาย" ตามเค้าโครงภาษาอังกฤษด้วย
ย่าเหลเป็นสุนัขที่ฉลาดแสนรู้ และช่างประจบ คอยถวายความจงรักภักดีพระเจ้าอยู่หัวเสมือนเป็นทหารรักษาพระองค์ ทำให้เป็นที่โปรดปรานอย่างยิ่ง และด้วยเหตุนี้จึงสร้างความอิจฉาและเกลียดในหมู่ข้าราชบริพารบางคน หากข้าราชบริพารคนใดแต่งกายไม่เรียบร้อย ก็จะถูกย่าเหลกัดต่อหน้าพระที่นั่ง สร้างความละอายและเจ็บแค้นแก่ผู้ที่ถูกกัดนั้นเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นเมื่อพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินโดยลำพัง โดยมิได้นำย่าเหลไปด้วย จึงมีมหาดเล็กบางคนคอยทำร้ายเอาก็มี
ด้วยเหตุนี้ผู้เขียนจึงคิดว่า คงมีคนหมั่นไส้ อิจฉา ไม่ก็โกรธเคืองย่าเหล ที่เขาว่า คนอิจฉาหมา ก็คงไม่ผิด
ในปีที่ 5 ที่ย่าเหลเข้ามาเป็นสุนัขหลวงในพระราชวัง วันหนึ่งมีผู้ไปพบย่าเหลนอนตายข้างกำแพงพระบรมมหาราชวัง ด้านวัดโพธิ์ ท่าเตียน มีรอยถูกปืนยิง ตามรูปการณ์เชื่อว่าคนที่ฆ่าย่าเหลต้องมิใช่มหาดเล็กธรรมดา เพราะผู้ที่มีปืนในสมัยนั้น จะต้องมียศฐาชั้นเจ้าคุณขึ้นไป หรืออาจเป็นชั้นเจ้านายก็เป็นได้
ในหลวงรัชกาลที่ 6 ทรงโทมนัสอย่างยิ่ง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดงานศพแก่ย่าเหล มีหีบใส่ศพอย่างดี ปิดทองที่มุมโลง และโปรดฯ ให้แกะสลักรูปย่าเหลวางไว้บนโลงด้วย ทั้งยังให้มหาดเล็กแต่งตัวเป็นสัตว์นานาชนิดเข้าร่วมขบวนแห่ศพด้วย นอกจากนี้ยังมีของชำร่วยแจกในงานศพ เป็นผ้าเช็ดหน้าพิมพ์รูปย่าเหล และมีตราวชิระที่มุมด้านขวา พระราชทานเป็นของที่ระลึกแก่ทุกคนที่ไปร่วมงานด้วย
ผ้าเช็ดหน้าพิมพ์ลายเป็นรูปย่าเหลพร้อมของพระราชทานที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานในงานพระราชทานเพลิงศพย่าเหล
แต่ที่ผู้เขียนอ่านแล้วฃาบฃึ้งถึงความรักของพระองค์ท่านที่มีต่อสุนัขตัวนึงคือ ทรงพระราชนิพนธ์บทกลอนไว้อาลัยแก่ย่าเหล จารึกไว้ที่ด้านข้างของอนุสาวรีย์ ดังนี้
"อนุสาวรีย์นี้เตือนจิตต์
ให้กูคิดคำนึงถึงสหาย
โอ้อาลัยใจจู่อยู่ไม่วาย
กูเจ็บคล้ายศรศักดิ์ปักอุรา
ยากที่ใครเขาจะเห็นหัวอกกู
เพราะเขาดูเพื่อนเห็นเป็นแต่หมา
เขาดูแต่เปลือกนอกแห่งกายา
ไม่เห็นลึกตรึกตราถึงดวงใจ
เพื่อเป็นมิตรชิดกูอยู่เนืองนิตย์
จะหามิตรเหมือนเจ้าที่ไหนได้
ทุกทิวาราตรีไม่มีไกล
กูไปไหนเจ้าเคยเป็นเพื่อนทาง
ช่างจงรักภักดีไม่มีหย่อน
จะนั่งนอนยืนเดินไม่เหินห่าง
ถึงยามกินเคยกินกับกูพลาง
ถึงยามนอนก็นอนข้างไม่ห่างไกล
อันตัวเพื่อนเหมือนมนุษย์สุจริต
จะผิดอยู่แต่เพียงพูดไม่ได้
แต่เมื่อกูใคร่รู้ความในใจ
ก็มองดูรู้ได้ในดวงตา
โอ้อกกูดูเพื่อนอยู่หลัดหลัด
เพื่อนมาพลัดพรากกูไปไม่เห็นหน้า
กูเผลอเผลอก็ชะเง้อเผื่อเพื่อนมา
เสียงกุกกักก็ผวาตั้งตามอง
อันความตายเป็นธรรมดาโลก
กูอยากตัดความโศกกมลหมอง
นี่เพื่อนตายเพราะผู้ร้ายมันมุ่งปอง
เอาปืนจ้องสังหารผลาญชีวี
เพื่อนมอดม้วยด้วยมือทุรชน
เอารูปคนสวมใส่คลุมใจผี
เป็นคนจริงหรือจะปราศซึ่งปรานี
นี่รากษสอัปรีย์ปราศเมตตา
มันยิงเพื่อนเหมือนกูพลอยถูกด้วย
แทบจะม้วยชีวังสิ้นสังขาร์
จะหาเพื่อนเหมือนเจ้าที่ไหนมา
ช้ำอุราอาลัยไม่วายวัน
เมื่อยามมีชีวิตสนิทใจ
ยามบรรลัยลัยล่วงดวงใจสั่น
ด้วยอำนาจจงรักภักดีนั้น
ขอให้เพื่อนขึ้นสวรรค์สำราญรมย์
ถึงจะมีหมาอื่นมาแทนที่
กูก็รักเพื่อนนี้เป็นปฐม
ที่ไหนเล่าจะสนิทและชิดชม
ที่ไหนเล่าจะนิยมเท่าเพื่อนรัก
ถึงแม้จะไม่มีรูปนี้ไว้
รูปเพื่อนฝังใจกูตระหนัก
แต่รูปนี้มีไว้เป็นพยานรัก
ให้ประจักษ์แก่คนผู้ไมตรี
เพื่อนเป็นเยี่ยงอย่างมิตรสนิทยิ่ง
ภักดีจริงต่อกูอยู่เต็มที่
แม้คนใดเป็นได้อย่างเพื่อนนี้
ก็ควรนับว่าดีทีสุดเอย"
ถึงตอนนี้ มีกฎหมายคุ้มครองสัตว์เกิดขึ้น ก็ขอให้การทารุณสัตว์น้อยลง ทุกชีวิตมีค่า พวกเขาต่างจากมนุษย์ก็ตรงที่ไม่สามารถพูดได้ แต่เขาก็มีชีวิตจิตใจเช่นเดียวกับมนุษย์
เพื่อนร่วมโลกที่เราควรใส่ใจ ...
โฆษณา