19 พ.ค. 2020 เวลา 03:50
ฝากแง่คิดให้พ่อแม่ New Normal....
ช่วงนี้หลายคนวิตกกังวลเรื่องการศึกษาของลูกกันมาก เราเองก็คิดหนักเช่นกัน บทความชิ้นนี้ขอแบ่งปัน "แง่คิด" จากประสบการณ์เลี้ยงลูกและทำงานกับเด็กๆ มาหลายปีสู่กันนะคะ
เรามองว่าถ้าโควิดจะทำให้พ่อแม่เปลี่ยนวิธีคิดใหม่เกี่ยวกับเรื่องการศึกษาของลูกในเรื่องต่อไปนี้ด้วยก็คงจะดีเหมือนกันนะ
เรื่องแรก เรื่อง "การเร่งเรียน" เพื่อล้ำหน้ากว่าเพื่อนวัยเดียวกัน เรามักจะเห็นพ่อแม่ภาคภูมิใจว่า ลูกอ่านหนังสือออกตั้งแต่ 2 ขวบ พูดภาษาอังกฤษได้ตั้งแต่ยังไม่เข้าอนุบาล พอถึง ป. 1 ก็พูดได้ 3 ภาษามากกว่าเพื่อนวัยเดียวกัน (ยกเว้นภาษาเดียวคือ ภาษาคน ฟังคำสั่งพ่อแม่ไม่รู้เรื่อง...ฮา)
เรื่องที่สอง คือ เรื่อง "การเร่งรัด" เพื่อให้ลูกเรียนจบเร็วกว่าคนอื่น ยิ่งสอบเทียบจบ ม. 6 ก่อนใคร เข้ามหาลัยเรียน ตรี โท เอก แบบรวดรัดกว่าคนอื่นได้ยิ่งดีเข้าไปใหญ่ จนไม่มีเวลาเรียนรู้มหาลัยชีวิตทำกิจกรรมร่วมกับคนอื่นเลย
เรื่องที่สาม คือ เรื่อง "การเร่งแข่งขัน" เพื่อให้ลูกได้รางวัลชนะเลิศมีถ้วยเกียรติยศเต็มตู้ จนชีวิตแพ้ไม่เป็น
เรื่องที่สี่ คือ เรื่อง "การเร่งรู้" ให้ลูกเรียนติวตำราเรียนก่อนเปิดเทอมจริง เพราะลูกจะได้รู้ "ก่อนเพื่อน" แต่พอถึงเวลาสอบจริงก็ลืมเสียหมดเพราะเรียนก่อน..ลืมก่อน..ฮา
เราอยากบอกพ่อแม่ทุกคนที่ได้อ่านโพสต์นี้ว่า
เมื่อลูกเรียนจบและไปสมัครงาน ไม่มีใครสนใจอยากรู้ว่า
....ลูกของคุณเริ่มอ่านหนังสือเป็นตั้งแต่อายุกี่ขวบ เพราะพอถึง ป. 3 เด็กทุกคนจะอ่านหนังสือได้เท่ากันหมด (ผอ. โรงเรียนแห่งหนึ่งเคยบอกเอาไว้)
....ลูกของคุณสอบเทียบเรียนจบปริญญาเร็วกว่าลูกของคนอื่นกี่ปี เพราะถ้าเรียนจบเร็วกว่า แต่ขาดทักษะชีวิตทำงานร่วมกับคนอื่นไม่เป็น งานก็อาจไม่ก้าวหน้า
.....ลูกของคุณมีถ้วยเกียรติยศอยู่ในตู้โชว์กี่ใบ เพราะถ้วยเหล่านั้นอาจทำให้ลูกของคุณแพ้ใครไม่เป็น และมีแนวโน้มป่วยเป็นโรคซึมเศร้าในวันที่เขาพ่ายแพ้เพื่อนร่วมงานก็เป็นได้
.....ลูกของคุณตอบคำถามครูเก่งกว่าลูกคนอื่นหรือเปล่า เพราะถ้าลูกตอบปัญหาในชีวิตจริงไม่ได้ก็ไม่มีความหมาย
สิ่งที่จะทำให้ลูกของคุณประสบความสำเร็จในชีวิตไม่ได้มาจากการเร่งเรียน..เร่งรัด ...เร่งแข่งขัน...เร่งรู้
แต่มาจาก "ความสุขจากการเรียนรู้" ต่างหากที่เป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จในชีวิต
ดังนั้น พ่อแม่โปรดอย่าได้กังวลใจไปใย
....หากลูกของคุณจะเข้าเรียนช้ากว่าลูกคนอื่น
....หากลูกของคุณจะชอบวิ่งเล่นมากกว่าเรียนออนไลน์
....หากลูกของคุณจะชอบเล่นกีฬามากกว่าเรียนตำรา
....หากลูกของคุณจะชอบทำอาหารมากกว่าภาษาอังกฤษ
....และหากลูกของคุณจะไม่เคยมีถ้วยเกียรติยศใดๆ ในตู้โชว์เลยสักใบ
สงครามโรคโควิดครั้งนี้ สอนให้พ่อแม่ New Normal อย่างเรารู้ว่า สิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้ลูกรอดจากความอดอยากยามต้องปิดประเทศล็อคประตูบ้านตนเอง คือ "ทักษะชีวิต"...สอนลูกให้ทำอาหาร...สอนลูกให้ปลูกผัก...สอนลูกให้ปีนต้นไม้...สอนลูกให้เล่นขายของบวกลบคูณหารกับเด็กข้างบ้าน ฯลฯ
เมื่อโรงเรียนปลอดภัยจากเชื้อโรคเมื่อไหร่ ค่อยให้ลูกของคุณกลับไปเรียนรู้ในห้องเรียนก็ได้ เพราะการเรียนรู้ไม่มีคำว่าสาย....อายุของเด็กที่เรียนจบเร็วกว่าใครเป็นเพียงแค่ตัวเลขและภาพลวงตาของความสำเร็จในชีวิตลูกคุณเท่านั้น
โฆษณา