19 พ.ค. 2020 เวลา 08:31 • การศึกษา
อย่างที่รู้กันว่าเมื่อ 18 พฤษภาคม 2563 ได้มีการเรียนการสอนออนไลน์เป็นวันแรกผ่านช่อง DLTV ซึ่งมีข้อวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมากถึงความพร้อมของผู้เรียนที่ไม่สามารถเข้าถึงได้เป็นจำนวนมาก รวมถึงผู้สอนที่มีความผิดพลาดให้เห็น จึงเกิดคำถามว่า "การเรียนออนไลน์คือทางออกจริงๆหรือไม่?"
ก่อนที่จะเข้าเรื่อง ผมขอเล่ารูปแบบการสอนที่ผมได้ประสบพบเจอมาตั้งแต่ระดับประถมศึกษาจนถึงระดับอุดมศึกษา
1.กระดานดำ
การเรียนโดยผู้สอนใช้ชอล์กและกระดานดำเป็นความทรงจำในวัยเด็กของผมในสมัยเรียนชั้นประถม
2.กระดานไวท์บอร์ด
ในช่วงปลายของชั้นประถมจนถึงมัธยมเริ่มมีการเปลี่ยนเป็นใช้กระดานไวท์บอร์ดซึ่งข้อดีคือ ทำให้มีสีสันและเขียนได้ดีขึ้น อีกทั้งยังลบและเขียนง่าย ซึ่งสะดวกกว่าใช้กระดานดำพอสมควร
3.เครื่องโปรเจคเตอร์
การใช้เครื่องโปรเจคเตอร์ช่วยเพิ่มความสะดวกมากขึ้น ครูไม่ต้องยืนเขียน และเขียนได้ถนัดมากขึ้น
4.สไลด์
การใช้สไลด์ทำให้ผู้สอนออกแบบการสอนได้อย่างอิสระและสามารถใส่รูปประกอบการสอนเพื่อเพิ่มความเข้าใจได้อีกด้วย
จะเห็นได้ว่าการใช้สื่อการสอนของครูมีวิวัฒนาการเรื่อยๆ มีความทันสมัยมากขึ้น เช่นเดียวกับผูเรียนที่มีการใช้เทคโนโลยีมากขึ้น เช่น คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต (อาจมีบางส่วนที่ยังเข้าไม่ถึง) อีกทั้งในสถาบันกวดวิชาต่างๆก็ได้มีการทำวิดีโอเพื่อเป็นสื่อในการเรียนการสอนทั้งการเรียนที่สถาบัน และเรียนจากที่บ้าน อีกทั้งในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมาการเรียนของนิสิต นักศึกษา ก็เป็นการเรียนออนไลน์ รวมถึงการทำงานก็เป็น work from home กันมากขึ้น แล้วนักเรียนล่ะ ควรจะปรับเป็นการเรียนออนไลน์แล้วหรือยัง? ซึ่งผมวิเคราะห์ได้ ดังนี้
1.นักเรียนมีจำนวนเยอะ มีความแตกต่างและหลากหลาย บางคนมีความพร้อมที่จะเรียนออนไลน์ แต่บางคนไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้เลย ซึ่งหากจะเปลี่ยนเป็นออนไลน์จริงๆ ภาครัฐควรที่จะสนับสนุนในส่วนนี้
2.การเรียนออนไลน์ผ่าน DLTV ส่งผลต่อสมาธิของผู้เรียน เนื่องจากมีสิ่งเร้ารอบข้าง อีกทั้งไม่เข้าใจก็ถามไม่ได้ ประสิทธิภาพการเรียนจึงไม่เท่ากับเรียนในห้อง
อย่างไรก็ตาม หากโควิด-19 ระบาดอีกรอบ การเรียนการสอนก็จะต้องเป็นแบบออนไลน์ ผมจึงขอเสนอวิธีแก้ปัญหา หากเกิดเหตุการณ์นี้
1.ควรให้ครูในแต่ละท้องที่ศึกษาวิธีการสอนผ่านระบบออนไลน์มากกว่าที่จะพึ่งพาการสอนผ่าน DLTV เนื่องจากสามารถถามได้เมื่อไม่เข้าใจ
2.รัฐบาลควรสนับสนุนอุปกรณ์การเรียน เช่น สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต ให้กับเด็กที่ไม่มี โดยจากข้อมูลของ กลส. ได้บอกว่ามีเด็กนักเรียนกว่า 86% เข้าถึงสมาร์ทโฟน ซึ่งรัฐบาลควรที่จะสนับสนุนใน 24% ที่ไม่มี
ในความคิดของผมแล้ว การเรียนการสอนออนไลน์จะมีมากขึ้นในอนาคต เพียงแต่มีโควิด-19 เป็นตัวเร่ง ทำให้ต้องมี DLTV เป็นหนูทดลอง โดยการที่จะปรับการเรียนออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพนั้น ครูจะต้องมีการเรียนรู้รูปแบบการสอนใหม่ๆ รวมถึงมีการสนับสนุนจากภาครัฐ
สุดท้ายแล้วก็ขอเป็นกำลังใจให้ครูวังไกลกังวล และครูทุกๆท่านครับ
โฆษณา