กลับมาแล้วค่าาา กับ📍ตอนที่ 2.4 เรื่องยาแก้แพ้📍
ก่อนอื่น เหมือนเดิมเลยเราต้องมาทำความรู้จักกันก่อนว่าแก้แพ้ นี่แพ้ คือ อะไร
แก้แพ้แล้วจะชนะไหม ตึ่งโป๊ะ (ยังกล้าจะเล่นนะมุกนี้)
😅
มาค่ะ แพ้ ในที่นี้ก็มาจากพวกภูมิแพ้นี่แหละค่ะ เพราะฉะนั้นยาแก้แพ้ส่วนใหญ่แล้วใช้ “ลดอาการ” ที่เกิดจากพวกโรคภูมิแพ้ที่เป็นไม่ได้เยอะมากอะนะคะ
(เหมือนเดิม! ยาพวกนี้ใช้ลดอาการ ไม่ได้ใช้รักษาให้หายขาดจากโรคนะคะ👍)
กับอีกอย่างคือใช้ลดน้ำมูก
มาดูตัวอย่างเพิ่มความเข้าใจกันดีกว่า
นางสมสมร เวลาเจอฝุ่น เจอควัน เจออากาศเย็น ๆ จะชอบจาม น้ำมูกไหล แต่! ไม่ได้ไหลธรรมดา ไหลเป็นน้ำก๊อก 💧 แถมคัดจมูกอีกด้วย 🤧
อ่า คงคุ้น ๆ อาการนี้กันใช่ไหมคะ คิดว่าหลาย ๆ คนที่อ่านก็เป็นอยู่ด้วย
โรคนี้ก็คือ “โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้” (Allergic rhinitis : Allergic อัล-เลอ-จิก แปลว่า ภูมิแพ้ Rhinitis ไร-ไน-ติส แปลว่าจมูกอักเสบ) หรือภาษาง่าย ๆ ที่เรียกกันคือ แพ้อากาศ ซึ่งอาการแต่ละคนก็หลากหลายมาก ๆ บางครั้งก็เป็นหนัก บางครั้งก็เป็นนิด ๆ หน่อย ๆ เดี๋ยวก็หาย
ซึ่งเจ้า “ยาแก้แพ้” ของเราสามารถช่วยลดน้ำมูกจากการแพ้ลักษณะนี้ได้ค่ะ
การแพ้อีกแบบที่พบบ่อย คือ พวก ”ลมพิษ“ ค่ะ ซึ่งยาแก้แพ้ก็ช่วยลดอาการได้บ้างเหมือนกัน
🚑แต่! ถ้าแพ้หนัก ๆ (แพ้จนหายใจไม่ออก จะช็อกแล้วจ้า) เช่น แพ้ยา แพ้อาหารรุนแรง หรือว่าคนโดนผึ้งต่อย แล้วแพ้พิษผึ้ง ตาบวมฉึ่ง หายใจไม่ออก ให้รีบไปโรงพยาบาลนะคะ เพราะยาแก้แพ้ธรรมดา ๆ เอาไม่อยู่จริง ๆ ค่ะ แถมภาวะนี้เป็นภาวะที่อันตรายถึงชีวิตด้วยค่ะ
🍤สำหรับคนแพ้กุ้งและพวกอาหารทะเล “ไม่”ควรกินยาแก้แพ้ดักอาการนะคะ เพราะว่ายาไม่ช่วยป้องกันการเกิดการแพ้ค่ะ แถมหลายคนยังมีความเชื่อว่าถ้ากินยาแก้แพ้ดักแล้วจะกินกุ้งได้ ทีนี้ยิ่งกินกุ้งหนักเลยสิคะ ยิ่งอันตรายค่ะ ดังนั้นคนที่แพ้กุ้ง แพ้อาหารควรหลีกเลี่ยงกุ้งและอาหารที่แพ้มากกว่า ทั้งนี้แนะนำว่าควรตรวจยืนยันการแพ้ที่โรงพยาบาลด้วย เพราะบางทีเราอาจจะคิดว่าแพ้กุ้ง แต่จริงๆ เราอาจจะแพ้สารอื่น ๆ ที่ติดมากับกุ้งก็ได้ค่ะ และถ้าตรวจยืนยันจนทราบว่าแพ้อะไรบ้างแล้ว จะได้ระมัดระวังตัวหลีกเลี่ยงสิ่งที่แพ้ได้ถูกค่ะ
สามารถศึกษาเพิ่มเติมจากลิงก์นี้ค่ะ : 1.https://youtu.be/gwNEnLLOa0E
ต่อมา เรามาทำความรู้จักกับ “ยาแก้แพ้” แบบลงรายละเอียดกันนะคะ
ยาแก้แพ้ หรือยาต้านฮิสตามีน (antihistamines) จะไปยับยั้งการออกฤทธิ์ของสารฮิสตามีนซี่งเป็นสารต้นเหตุที่ทำให้เกิดอาการแพ้ต่างๆไม่ว่าจะเป็น คันจมูก จาม คันเยื่อบุตา หรือมีผื่นคันตามตัวค่ะ โดยจะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ ได้แก่
1. ยาแก้แพ้รุ่นเดิม หรือ ยาแก้แพ้ชนิดที่ทำให้ง่วงนอน 😴
2. ยาแก้แพ้รุ่นใหม่ หรือ ยาแก้แพ้ชนิดที่ไม่ทำให้ง่วงนอน 🤗
1. ยาแก้แพ้รุ่นเดิม หรือ ยาแก้แพ้ชนิดที่ทำให้ง่วงนอน 😴
ยาแก้แพ้กลุ่มนี้มักใช้บรรเทาอาการ คัน จาม ไอ น้ำมูกไหล จากการแพ้อากาศ บรรเทาอาการผื่นคัน ลมพิษ สามารถใช้ช่วยลดน้ำมูกเวลาเป็นไข้หวัดได้ค่ะ (ช่วยลดน้ำมูกแต่ไม่ได้ทำให้หายเป็นไข้หวัดนะคะ) และแก้เมารถได้ค่ะ
หลายๆคนคงรู้จักยากลุ่มนี้อยู่แล้วเพราะได้ใช้บ่อยและหาซื้อง่าย ตัวอย่างชื่อยาในกลุ่มนี้ ได้แก่ chlorpheniramine (คลอเฟนิรามีน หรือ ซีพีเอ็ม) ตัวนี้พบผสมในยาดีคอลเจนและทิฟฟี่ด้วยค่ะ เป็นตัวยาคลอเฟนิรามีนผสมกับพาราเซตามอล, dimenhydrinate (ไดเมนไฮดริเนต) , ไฮดรอไซซีน (hydroxyzine) ชื่อการค้า atarax (อาทาแรกซ์)
แต่ว่าถึงจะหาซื้อง่ายก็มีข้อควรระวังอยู่นะคะ เพราะว่า ยากลุ่มนี้จะออกฤทธิ์กดสมอง ทำให้มีอาการ มึนงง ซึม ง่วงนอน ไม่ควรให้คนแก่ หรือผู้ที่ต้องทำงานกับเครื่องจักรรับประทานนะคะ รวมถึงควรงดขับรถด้วย หากไม่สามารถทำได้อาจจะลองพิจารณาเป็นยากลุ่มถัดไปค่า รวมถึงทำให้มีอาการ ปัสสาวะยาก ปากแห้ง ท้องผูก ตาพร่าได้ด้วยค่ะ
2. ยาแก้แพ้รุ่นใหม่ หรือ ยาแก้แพ้ชนิดที่ไม่ทำให้ง่วงนอน 🤗
ยาแก้แพ้กลุ่มนี้ก็สามารถใช้รักษาอาการแพ้ได้เหมือน ๆ กับกลุ่มเก่านะคะ แต่ว่า “ไม่สามารถลดอาการน้ำมูกไหลจากสาเหตุที่ไม่ใช่ภูมิแพ้ และแก้เมารถ” ได้ค่ะ
ส่วนข้อดีก็คือไม่ทำให้ง่วงนอนหรือซึม และมีผลข้างเคียงน้อยกว่าด้านบน ปลอดภัยกว่าสำหรับผู้สูงอายุค่ะ
ตัวอย่างชื่อยาในกลุ่มนี้ได้แก่ cetirizine (เซทิริซีน) ชื่อการค้า zyrtec (ซีร์เทค), fexofenadine (เฟโซเฟนาดีน) ชื่อการค้า telfast (เทลฟาส) และ ลอราทาดีน (loratadine) ค่ะ
อย่างไรก็ตามยาแก้แพ้เป็นเพียงยาบรรเทาอาการแพ้ ไม่ได้ทำให้เราหายแพ้สารก่ออาการแพ้จริงๆค่ะ เพราะวิธีการรักษาอาการแพ้ที่ดีที่สุดคือ สังเกตว่าอาการแพ้เกิดขึ้นเมื่อสัมผัสหรือรับประทานสิ่งใด เมื่อทราบแล้วควรกำจัดหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้นั้นและปรึกษาแพทย์ค่ะ
- 11
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
