19 พ.ค. 2020 เวลา 14:47 • ศิลปะ & ออกแบบ
"คิดนอกกรอบ ไม่ออกนอกเกณฑ์"
เทคนิคเคล็ด(ไม่)ลับ ออกแบบโลโก้สินค้าอย่างไร … ให้สินค้ายอดขายปัง !
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ในยุคนี้สมัยนี้เป็นยุคที่เต็มไปด้วยการแข่งขันอย่าง
แท้จริง หากลองสังเกตดูจะพบว่า สินค้าต่าง ๆ มากมายในท้องตลาดไม่ว่าจะออฟไลน์ หรือ ออนไลน์ก็ตามแต่ ล้วนแต่มีสินค้าที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน
เป็นอย่างมาก ซึ่งข้อดีก็คือ ทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกที่มากขึ้นในการเลือกซื้อสินค้า แต่สำหรับผู้ประกอบการแล้วนั้นสิ่งเหล่านี้ก็เป็นเหมือนกับกำแพงสูง
ใหญ่ ที่ขวางกั้นคำว่า “กำไร” ที่ทุก ๆ ธุรกิจต้องการเป็นอย่างมาก
แต่ในเมื่อมันเลี่ยงไม่ได้ เราก็ต้องอยู่กับมันให้ได้
โดยสิ่งแรกที่ผู้ประกอบการ หรือเจ้าของธุรกิจจะต้องตระหนัก และตีโจทย์ให้แตกก็คือ กลยุทธ์ในการขายสินค้า ซึ่งโจทย์หนักที่ว่านี้ ก็คือ “การขายสินค้าที่เหมือนอย่างให้ไร ให้ดูแตกต่าง” …
ซึ่งในวันนี้เราจะพาไปดูกับอีกหนึ่งเคล็ด(ไม่)ลับ ของการแก้ไขปัญหาที่ว่ามานี้นั้น นั่นก็คือการทำ “โลโก้”
หากเปรียบ “โลโก้” สินค้าเป็นเหมือนกับร้านค้าร้านหนึ่ง ก็คงจะเปรียบได้
เหมือนกับหน้าร้าน ที่จะเป็นตัวบ่งบอกและตัดสินใจในขั้นแรกว่า ลูกค้าจะ
ตัดสินใจเดินเข้าไปในร้านไหม กล่าวคือ ลองคิดดูง่าย ๆ หากเวลาที่ต้องการซื้อสินค้าสักหนึ่งอย่าง แล้วเราอยู่ท่ามกลางร้านค้ามากมาย ที่ขายสินค้าที่
เราต้องการเหมือน ๆ กัน คำตอบของร้านที่เราจะเลือกเดินเข้าไป คงหนีไม่พ้นกับร้านที่ “ดึงดูดความสนใจ” ของเราได้มากที่สุดใช่ไหมล่ะ
ดังนั้นในวันนี้ เราจะพาคุณไปเรียนรู้กับหลักการการออกแบบโลโก้สินค้า
ที่สามารถดึงดูดความสนใจจากลูกค้าให้ได้มากที่สุด ซึ่งไม่ว่าคุณจะเป็น
นักออกแบบโลโก้ หรือ ผู้ประกอบการธุรกิจ
แต่หากคุณคือคนหนึ่ง ที่อยากทำให้ธุรกิจการขายสินค้ามียอดขายที่ปัง
ก็ห้ามพลาดกับบทความนี้ไปโดยเด็ดขาด !
1. คิดให้นอกกรอบ แต่ไม่ออกนอกเกณฑ์
เทคนิคแรกที่เรากำลังจะกล่าวถึงนี้นั้น ถือว่าเป็นหัวใจหลัก สำหรับการออก
แบบโลโก้สินค้าเป็นอย่างมาก เพราะอย่างที่กล่าวไปในข้างต้นว่า เราจะต้องขายสินค้าที่เหมือนให้แตกต่าง
ซึ่งความแตกต่างที่ว่านั้น ต้องมาจากการคิดนอกกรอบอย่างสร้างสรรค์
เพื่อใช้เป็นไอเดียในการออกแบบโลโก้สินค้านั่นเอง
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการคิดนอกกรอบที่ว่านี้ ก็ต้องไม่ออกนอกเกณฑ์จนเกินไป
ซึ่งเกณฑ์ที่ว่านี้นั้น ก็คือ มาได้จากหลายกรณีมาก ไม่ว่าจะเป็นหลักการ
กฏเกณฑ์การออกแบบ ความเข้ากันได้กับสินค้า หรือแม้แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด
อย่าง “บรีพ” จากลูกค้า ที่จะต้องสร้างสรรค์โลโก้ไปพร้อม ๆ กับสิ่งต่าง ๆ
เหล่านี้ด้วย เพราะสุดท้ายแล้วไม่ว่าโลโก้ที่ได้จะออกมาดีสักแค่ไหน แต่หากไม่ตอบโจทย์สินค้า หรือ ถูกใจคนจ้าง ก็ยังถือว่าเป็นโลโก้ที่ยังทำหน้าที่ของมันได้ไม่ดีเช่นเดียวกัน
2. เทคนิคการใช้ “Synonym” หรือ “คำไวพจน์” มาประยุกต์ใช้ในการออกแบบโลโก้สินค้า
“Synonym” หรือ “คำไวพจน์” สำหรับทางภาษาแล้วนั้น ความหมายของมันก็คือ “คำเหมือน” หรือ “คำพ้องความหมาย” กล่าวคือ การที่เราจะสื่อสารถึง
สิ่งใดสิ่งหนึ่ง เราไม่จำเป็นต้องใช้คำเฉพาะ ที่ถูกใช้ประจำกับสิ่งนั้นก็ได้
หากแต่สามารถเปลี่ยนมาใช้ คำพ้องความหมายแทนได้
ซึ่งเราสามารถนำเอาเทคนิคนี้ มาประยุกต์ใช้สำหรับการออกแบบโลโก้ของ
เราได้เช่นกัน เพื่อใช้ในการสื่อสารผ่านโลโก้ สำหรับบอกเล่าเป็น
Storytelling ที่สื่อถึงธุรกิจได้
เช่น เราจะออกแบบโลโก้ของสินค้าที่เป็น “น้ำผลไม้” จากเดิมที่เราจะออก
แบบเป็นรูปของขวดน้ำ ที่ข้างในเต็มไปด้วยผลไม้ก็สามารถปรับให้มีความ
น่าสนใจ และน่าดึงดูดมายิ่งขึ้น ไปเป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงความ “สดชื่น” จากการดื่มน้ำผลไม้แทนก็ได้
ซึ่งสุดท้ายแล้วความหมาย ก็จะยังคงสื่อไปถึงน้ำผลไม้ได้อยู่ดี โดยที่แทบ
ไม่ต้องใช้สัญลักษณ์แบบตรง ๆ ซึ่งจุดนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งไอเดียที่สำคัญ
ที่จะทำให้เกิดความแตกต่างบนโลโก้สินค้า ดังนั้นอีกหนึ่งทักษะที่คุณควร
ฝึกฝนเป็นอย่างมาก ก็คือการตีความของความหมายให้ออกมาเป็นรูปภาพ
หรือ สัญลักษณ์
3. จับคู่สีให้เป็น ใช้คุณสมบัติของสีโทนต่าง ๆ ให้ถูก
ประเด็นสุดท้ายนี้ เป็นหนึ่งในสิ่งง่าย ๆ ที่ทำให้นักออกแบบโลโก้หลายต่อ
หลายคน ต้องตกม้าตายมานักต่อนักแล้ว อย่างการจับคู่สีมาใช้ในการออก
แบบโลโก้
ซึ่งแม้ว่าในหลายต่อหลายครั้ง ที่เราได้รับบรีพมานั้น จะมีการ
กำหนดโทนสีที่ต้องการประกอบอยู่แล้ว แต่ก็รู้ใช่ไหมว่า “สี” ที่ว่ามานั้น
หากไม่กำหนดโค้ดสีแบบตรง ๆ มาให้เฉดหรือโทนของสีก็มีมากมาย นับไม่
ถ้วน ให้เลือกใช้จนมึนงง และตาลายไปข้างหนึ่งเลยก็ว่าได้
ซึ่งเทคนิคการจับคู่สี ในการทำโลโก้เพื่อให้ดูโดดเด่น แต่ไม่ดูแปลกตา
จนเกินไป สามารถใช้หลักการของ
• คู่สีใกล้เคียง
• คู่สีตรงข้าม
• คู่สีในโทนเดียวกัน (โทนร้อน - เย็น)
หรืออีกหนึ่งสิ่งที่ง่ายไปกว่านั้น คือให้ลองไปศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ทฤษฎี
การใช้สี และความหมายของสีเป็นขั้นแรกจะเป็นการณ์ที่ดีกว่า เพราะรู้ใช่
ไหมว่า สีทุกสีมีความหมายส่งผลต่อมุมมอง และความรู้สึกเวลาที่มองเข้าไปในโลโก้สินค้า เลือกคู่ชีวิตผิดว่าคิดหนักแล้ว เลือกใช้สีในโลโก้ผิดคิดหนัก
ยิ่งกว่า ดีไม่ดีอาจจะได้โล๊ะทิ้งทำใหม่ทั้งหมดเลยก็ได้
.
สุดท้ายนี้ จงจำไว้เสมอว่า “คนหน้าตาดีแล้วมีคนอยากเดินเข้ามาหามากเท่าไหร่ โลโก้ที่ดีก็ย่อมทำให้ลูกค้าอยากเดินเข้ามามากขึ้นเช่นกัน”
ดังนั้น หากคุณอยากจะทำให้ธุรกิจของคุณ มีลูกค้าที่เยอะและนำไปสู่ยอด
ขายที่ปัง ก็อย่าพลาดกับการนำเทคนิคเคล็ด(ไม่)ลับ ของการออกแบบโลโก้สินค้าเอาไปปรับใช้ด้วยล่ะ เพราะการออกแบบโลโก้ “ความสวยงาม” เพียง
อย่างเดียวอาจจะไม่ตอบโจทย์ธุรกิจได้มากไปกว่า การออกแบบเรื่องราวให้สื่อความหมาย เกิดเป็น “ความน่าดึงดูดใจ”
ติดตามอ่านบทความสร้างสรรค์ สร้างแรงบันดาลใจ และ แบ่งปันทริคง่าย ๆ
ผ่านบทความ การสร้างแบรนด์ ธุรกิจ ดีไซน์ เพิ่มเติมได้ที่ :
โฆษณา