เช็กลิสต์ 3 ข้อ ของความเป็นโลโก้ที่ดี
โลโก้ที่ดี ควรประกอบไปด้วยอะไรบ้าง ?
คำถามที่มักจะเกิดขึ้นเสมอก่อนการเริ่มคิดจะทำ โลโก้
รู้หรือไม่ว่าพลังของสิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่า "โลโก้" นั้น ส่งผลต่อองค์รวมภาพ
ใหญ่ของธุรกิจได้เป็นอย่างมาก !
ดังนั้น ในวันนี้เราจึงอยากจะขอให้คุณลบนิยามมุมมองที่มีต่อคำว่าโลโก้ ว่าเป็นเพียงสัญลักษณ์กราฟิกอย่างหนึ่ง ให้เป็นหนึ่งในองค์ประกอบหลักที่สำคัญ ของการสื่อสารตัวตนธุรกิจของคุณให้ผู้คนในสังคมได้รับรู้
เชื่อได้เลยว่า หนึ่งในคำถามที่มักจะเกิดขึ้นเสมอก่อนการเริ่มคิดจะทำ โลโก้ คือ "ต้องจ่ายเงินเท่าไหร่ ถึงจะเหมาะสม ?" อีกหนึ่งปัญหาโลกแตกไม่แพ้กับการทายว่า ไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนเสียอย่างไรอย่างนั้น นั่นก็เพราะว่า
นิยามของคำว่าเหมาะสมของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน จึงไม่แปลกที่ในทุก
วันนี้ เราจะสามารถพบเห็นราคาของการออกแบบโลโก้ที่มากมายหลาก
หลาย ตั้งแต่ถูกมาก ๆ จนเหลือเชื่อ และแพงมาก ๆ จนต้องขยี้ตาดู เช็ก
ความมั่นใจอีกครั้งว่าดูไม่ผิด
แต่ผลสรุปจบสุดท้ายแล้ว ก็ปฏิเสธไม่ได้หรอก
ว่าเราก็ยังตอบคำถามไม่ได้อย่างชัดเจนว่า ราคาเท่าไหร่ถึงจะเหมาะสม
...วันนี้เราได้มีหลักเกณฑ์ที่สามารถให้คุณเอาไปอ้างอิงได้ว่า "โลโก้คุณภาพดี" ต้องมีองค์ประกอบอะไรบ้าง เอาเป็นว่าเอาไว้ให้เป็นหนึ่งในตัวเช็ก
ลิสต์ดีกว่า ว่างานโลโก้ที่คุณทำ หรือ ที่คุณได้นั้นมีคุณภาพขนาดไหน
.
1. โลโก้ที่ดี ต้องมี “ความหมาย” ซ่อนอยู่เบื้องหลัง
เหตุผลของการที่โลโก้ต้องมีความหมาย หากเปรียบกับคนคงเหมือนกับ
“ชีวประวัติ” ที่สื่อถึงตัวตน และที่ไปที่มาของการเกิดขึ้น โดยต้องเลี่ยงการ
ออกแบบโลโก้ที่ใช้เพียงแค่อารมณ์เข้ามาสร้างสรรค์ โดยที่ไม่ได้ใช้การ
แทรกความหมายเข้ามาร่วมอย่างเด็ดขาด
เพราะ โลโก้ที่ดี ไม่ใช่โลโก้ที่สวยที่สุด แต่เป็นโลโก้ที่สื่อความหมายไปถึงธุรกิจได้มากที่สุด
และอีกหนึ่งประเด็นสำคัญ เมื่อทำการออกแบบมาแล้ว ก็ควรที่จะไปลองเช็กกับคนรอบตัวด้วยว่า ความหมายที่เราต้องการสื่อ มันสามารถเข้าใจได้อย่างสากลหรือไม่ เพราะในบางครั้งนักออกแบบก็มักจะใช้ความติสท์ ความอินดี้
แทรกเข้าไปในงานจนมากเกินไป ที่เปลี่ยนจากการแทรกความหมายที่เป็น
นัยยะเล็ก ๆ ไปสู่การเติมความหมายจนล้น
ซึ่งแน่นอนว่าต้องหาความพอดีของการใส่ความหมายด้วย เพราะอย่างที่รู้กันดีว่าน้อยไปก็อาจจะไม่พอ มากไปก็อาจจะล้น ดังนั้นหาตรงกลางให้ได้ แล้วผลลัพธ์ที่ได้คืออัตลักษณ์ของโลโก้ที่ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือน
และมีความหมายในตัวของมันเองด้วย
2. โลโก้ที่ใช่ ต้อง “ทันสมัย” อยู่เสมอ
ในแต่ละปี แน่นอนว่ามันจะมีเทรนด์การออกแบบออกมาอยู่สม่ำเสมอ ยกตัว
อย่างง่าย ๆ อย่างเทรนด์การใช้สีจาก PanTone ที่ได้มีการประกาศสีแห่งปี
ออกมา จนทำให้นักออกแบบหลายต่อหลายคนนำมาใช้ประกอบในการออกแบบของตน หรือแม้ว่าลูกเล่นต่าง ๆ ของการออกแบบในช่วงเวลานั้น ๆ ไม่ว่าจะเป็น การไล่สี หรือ Gradient เป็นต้น
แต่จงท่องจำไว้เสมอว่า เทรนด์การออกแบบ มีมาแล้วก็ย่อมที่จะหายไป แต่โลโก้เมื่อถูกสร้างขึ้นมา มันจะอยู่กับเราตลอดไป เพราะคงไม่มีแบรนด์ หรือ ธุรกิจไหนที่จะเปลี่ยนโลโก้ไปทุกปี ตามเทรนด์การออกแบบในแต่ละปีนั้น ๆ
เพราะฉะนั้นแล้ว อีกหนึ่งหลักสำคัญของการออกแบบโลโก้ ก็คือการพึงคิด
ไว้เสมอว่า โลโก้ที่เราได้ออกมานั้น ต่อให้ระยะเวลาผ่านไปอีกสัก 5 หรือ 10 ปี โลโก้ของเราก็จะยังดูดีและดูทันสมัยอยู่ทุกเมื่อ ซึ่งแม้ว่ามันฟังดูอาจจะทำออกมาได้ยาก แต่จริง ๆ แล้วมันสามารถทำได้ง่าย ๆ โดยอาศัยหลักการ
"Less is More" น้อยแต่มาก เรียบแต่โก้
กล่าวคือ หากอยากให้โลโก้ดูทันสมัยตลอดกาล ให้ออกแบบโลโก้ที่มีความ
เรียบง่าย ไม่ซับซ้อนมากจนเกินไป หรือ จะกล่าวอีกนัยว่าเป็นโลโก้แนว
มินิมอลสไตล์ก็คงจะไม่ผิดไปเสียทีเดียว และวิธีการเช็กว่าโลโก้ที่เราออกแบบมานั้นจะดูทันสมัยอยู่ตลอดเวลาหรือไม่ ให้ทดสอบด้วยการปล่อยทิ้งโลโก้ไว้สักครู่เมื่อดำเนินการออกแบบเสร็จก่อนนำไปส่ง หรือ ใช้จริง แล้วเปิดดู โลโก้เหล่านั้นทุก ๆ วัน จากนั้นก็ดูว่าเรารู้สึกเบื่อ หรือรู้สึกว่ามันเชยไหม
เพราะถ้าเราเกิดความรู้สึกเบื่อ หรือคิดว่าโลโก้ที่
เราออกแบบขึ้นมานั้นมันดูเชยขึ้นทุก ๆ วัน แปลว่าความตลอดการและความทันสมัยของโลโก้ คงมีอยู่ไม่เพียงพอแล้วล่ะ
3. โลโก้ที่เพอร์เฟค ต้องมี “เอกลักษณ์” ประจำตัว
คงไม่ใช่เรื่องดีแน่ ๆ หากการออกแบบของโลโก้ของเรานั้น ไม่มีความเป็น
เอกลักษณ์ในตัวเองเลย ซึ่งแน่นอนว่าอย่าให้เหตุการณ์นี้กับโลโก้โดยเด็ด
ขาด
เพราะหนึ่งประเด็นสำคัญของความจำกัดความของโลโก้ที่ดี ต้องมี
เอกลักษณ์ ที่ดูแล้วเป็นลักษณะเฉพาะ ไม่เหมือนใคร และสามารถจดจำได้
โดยง่าย ยกตัวอย่างง่าย ๆ
หากเปรียบโลโก้เป็นคนที่เหมือนดังฝาแฝด โจทย์ที่เราต้องตีให้แตก คือการออกแบบอย่างไร ที่ทำให้เราสามารถแยกแยะได้ว่า เอกลักษณ์อะไร ที่
สามารถสื่อและแยกความแตกต่างของฝาแฝดแต่ละคนได้อย่างชัดเจน
เป็นโจทย์ง่าย ๆ ที่ทำได้ยากพอสมควร แต่เชื่อได้เลยว่ามันไม่ได้ยากเกินความพยายามของคุณอย่างแน่นอน ดังนั้น ให้พึงระลึกไว้เสมอว่า การออก
แบบโลโก้ที่เพอร์เฟคนั้น ต้องมีความเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวนั้น ๆ ด้วย
เพราะคงไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่ในวงการธุรกิจ ที่ลูกค้าจะมองเราไปเหมือนกับ
ธุรกิจอื่น เพราะเราต้องเป็นเรา และเป็นเราที่ไม่เหมือนใครอีกด้วย
ลองเช็กลิสต์ดูว่า โลโก้ที่คุณจ้างหรือออกแบบมานั้น ได้มี 3 ข้อเหล่านี้ที่
เราได้กล่าวมาข้างต้นหรือไม่ เพราะถ้ามีครบทั้งสามข้อ เรื่องราคาที่เหมาะสมก็ควรที่จะอยู่ในอัตราที่สูงขึ้นเช่นเดียวกัน
แต่หากว่ายังมีไม่ครบ หรือ มีเพียงหนึ่งในสามข้อเพียงเท่านั้น ก็ลองให้ปรับและพิจารณาใหม่ว่าควรปรับแก้ไข อย่างไร ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อเป็นทั้งการยกระดับของโลโก้ และเพิ่มมูลค่าของราคาการออกแบบให้เพิ่มอีกขึ้นอีกด้วย
สุดท้ายแล้ว คำตอบของความเหมาะสมของราคาที่ใช้จ่ายในด้านของการออกแบบโลโก้ ก็คืออยู่กับการเอาคุณภาพทั้ง 3 ข้อเหล่านี้ไปแลกกับจำนวน
เม็ดเงินที่เหมาะสมนั่นเอง ... แล้วการออกแบบของคุณล่ะ มีครบทั้งหมดนี้
แล้วหรือยัง !?
ติดตามอ่านบทความสร้างสรรค์ สร้างแรงบันดาลใจ และ แบ่งปันทริคง่าย ๆ
ผ่านบทความ การสร้างแบรนด์ ธุรกิจ ดีไซน์ เพิ่มเติมได้ที่ :
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
