20 พ.ค. 2020 เวลา 07:53 • ประวัติศาสตร์
ลงขอน(สู่ผีลง).......
"ลงขอน" หรือเรียกการสู่ผีลง ในทางล้านนา มีความเชื่อเรื่องโลกหลังความตายว่าเป็นอีกโลกหนึ่ง หากต้องการพบปะกับคนตาย สามารถทำพิธีลงขอนได้ โดยจะมีคนทรงเจ้าเป็นตัวสื่อสารกับวิญญาณที่โลกหลังความตายให้พามาสิ่งร่างสู่ในร่างของคนทรง
ญาติจะเชิญวิญญาณผู้ตายมา ทรงร่างม้าขี่ติดต่อถามความเป็นอยู่ในเมืองผี
ความผูกพันในเครือญาติ ความห่วงหาอาลัยรักยิ่งแก่ผู้จากไปอยู่ในปรโลก ทำให้ญาติผู้ที่ยังอยู่เป็นคนต้องเสียใจ โหยหาอาลัยยิ่งอยากทราบข่าวว่าผู้ที่ตายจาก ไปมีความเป็นอยู่อย่างไรบ้าง มีสุขหรือทุกข์อย่างไรจึงต้องเชิญวิญญาณผู้ตายมาลงขอน หรือทำการสู่ผีลง โดยการที่ญาติต้องเตรียมเสื้อผ้าของผู้ตายและเสื้อผ้าคนอื่นปะปนกัน เพื่อทดสอบว่าเป็นวิญญาณผู้ตายมาเข้าทรงจริงหรือไม่
เมื่อถึงเวลาญาติผู้ตายไปพบกับม้าขี่หรือคนทรงเจ้าบอกชื่อผู้ตาย พร้อมวันเดือนปีที่ตายและอายุ เสร็จ. ตั้งเข้า(คนเชิญ)ก็จะทำพิธีเชิญเจ้าพ่อให้มาเข้าม้าขี่(คนทรง) เมื่อเจ้าพ่อได้เข้ามาประทับร่างทรง แล้วก็จะทำพิธีเชิญวิญญาณผู้ตาย เจ้าพ่อที่เป็นสื่อก็จะไปตามเอาวิญญาณผู้ตายมาเข้าร่างม้าขี่(คนทรง)เป็นสื่อกลาง เมื่อวิญญาณผู้ตายเข้าร่างสิงม้าขี่แล้ว ร่างม้าขี่เกิดอาการเหมือนกับศพผู้ตายนอนกระด้างอยู่ ลักษณะนี้เองผู้คนเรียกกันว่า ผีขอนกระด้าง รอเวลาพอสมควรผู้ที่เป็นตั้งเข้า(ผู้ช่วยม้าขี่)ก็เรียกชื่อผู้ตาย ผีขอนกระด้างก็จะลุกขึ้นโดยมีวิญญาณผู้ตายอยู่ในร่างทรงพูดกับญาติๆ หากญาติต้องการถามอะไรก็ถามไป วิญญาณในคราบร่างทรงก็พูดจาเหมือนดังตัวคนธรรมดาๆนั่งพูดคุยกันที่แน่ๆ ญาติจะนำเอาเสื้อผ้าปะปนกันที่เตรียมไว้แล้ว ให้ร่างทรงเลือกว่าอันใดเป็นของผู้ตายวิญญาณผู้ตายในร่างของเจ้าทรงก็เลือกเสื้อผ้าของตนเอง ที่ยังใช้เมื่อยังเป็นคนหากเลือกได้ถูกต้องก็เป็นอันว่าผีที่พูดอยู่กับญาติๆนั้นเป็นวิญญาณของผู้ตายจริง
5
ลักษณะการเข้าร่างทรงของวิญญาณผู้ตายมักมีอาการเหมือนกับการสิ้นใจตาย เช่น ตายเพราะรถคว่ำพุ่งคอหัก ตอนที่วิญญาณเข้าร่าง ตัวเจ้าทรงก็จะหกพุ่งเหมือนอาการที่ตาย หรือ คนที่ถูกยิงดิ้นพลาดๆแล้วตาย เมื่อวิญญาณเข้าร่างก็ดิ้นพลาดๆบอกอาการที่ตายให้เห็น ขณะที่ญาติกำลังพูดกับวิญญาณผ่านร่างทรงอาจมีการนำอาหารของที่ถููกใจมาร่วมวง คนที่ชอบดื่มเหล้า เบียร์ก็ดื่มกันไปพูดคุยประทานกันเหมือนดั่งเป็นคน เมื่อถึงเวลาหมดการขออนุญาตจากผีเจ้าพ่อที่พาวิญญาณมา วิญญาณก็จะรีบลาญาติพี่น้อง บอกให้ทำบุญ ต้องการอะไรก็บอกเสียตอนที่จะจากกันไกลไม่พบกันอีกแล้วชาตินี้ เพื่อว่าญาติจะได้นำสิ่งที่ผู้ตายต้องการอุทิศทำบุญส่งกุศลไปให้อยู่ในปรโลกอย่างเป็นสุข ถึงเวลาพรากกันวิญญาณก็เกิดอาการเหมือนกับตอนตายนั่นแหละ บางคนก็ดิ้นพลาดๆ บางคนก็ร้องเหมือนถูกต้มสุก บางคนที่มีจิตสงบดีก็นอนอย่างสงบ สิ้นลมหายใจไปตามธรรมชาติของสังขาร ให้ญาติพี่น้องได้เห็นทบทวนความจำลักษณะอาการตายครั้งสุดท้าย ...... สุดท้ายจริงๆ
เมื่อนำวิญญาณผู้ตายไปลงผีขอนกระด้างเสร็จ ญาติๆก็กลับมาบ้านหาสิ่งของที่ผู้ตายสั่งมาทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ผู้ตายตามต้องการ
คนเหนือที่ยังค้างคาใจเมื่อมีญาติเสียชีวิตไปแบบฉับพลัน มักจะไปทำพิธีกรรมนี้กันครับ ซึ่งก็แล้วแต่ว่าเจ้าพ่อม้าขี่ที่ไหนมีชื่อเสียง ขั้นตอนนั้นค่อนข้างเยอะและมีรายละเอียดปลีกย่อยมาก
พิธีทั้งหมดนี้อาจจะทำเพื่อให้คนที่และคนที่ตายได้เจอกันอีกครั้ง เหมือนได้บอกลากันอย่างเป็นทางกัน ไม่ให้อาวรณ์กันอีก ผู้ตายอยากได้สิ่งไหนก็จะสั่งเสียและให้ทำบุญไปให้
เพื่อให้ตรงกับความต้องการของคนตาย
# Lanna
โฆษณา