20 พ.ค. 2020 เวลา 08:32 • ครอบครัว & เด็ก
เหยื่อของความเกลียดชัง
เรื่องราวต่อไปนี้ที่ผู้เขียนจะนำเสนอล้วนเกิดขึ้นจริงในชีวิตของผู้เขียนเองขอให้เป็นอุทาหรณ์แก่ทุกท่านที่มีลูกหลาน
ได้โปรดเถอะครับจงฟังเสียงของลูก ๆ จงสังเกตอาการของลูกที่มีอาการก้าวร้าวต่อใครคนใดคนหนึ่งในบ้านมากจนผิดสังเกต
ได้โปรดเถอะครับไม่ว่าจะถูกหรือผิดจงตั้งใจฟังเสียงของเจ้าตัวเล็กก่อนแล้วค่อยตัดสิน
ได้โปรดเถอะครับอย่าเพิ่งด่วนตัดสินหากยังไม่ได้รับฟังเหตุและผลของเจ้าตัวเล็ก
ได้โปรด
จุดเริ่มต้นที่ทำให้ผู้เขียนต้องมาเขียนเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวัยเด็กเพราะมีเหตุการณ์เกิดขึ้นที่มันกระทบกระเทือนจิตใจของผู้เขียนมากเพราะมันทำให้ผู้เขียนนึกย้อนไปในวัยเด็ก ความขมขื่นความเจ็บปวดทั้งทางกายและทางใจความน้อยเนื้อต่ำใจมันย้อนกลับมาวนเวียนในหัวของผู้เขียน
ในช่วงวัยเด็กผู้เขียนมักมีปัญหากับยายตั้งแต่ผู้เขียนจำความได้ในวัยอนุบาลผู้เขียนมักถูกตีแบบไม่มีเหตุผลทำอะไรก็ผิดในสายตาของผู้เป็นยายเสมอ ในยามที่ผู้เขียนเริ่มที่จะเรียนรู้ในการช่วยเหลือตัวเองเช่นติดกระดุมเสื้ออนุบาลด้วยตัวผู้เขียนเอง แต่ดันติดผิดเม็ด ผู้เขียนกลับถูกผู้เป็นยายตีราวกับว่าผู้เขียนนั้นไปขโมยของหรือทำอะไรที่ผิดอย่างร้ายแรง ผู้เขียนร้องไห้วิ่งไปหาพ่อ
เป็นอะไรมาล่ะ
ยายตีครับพ่อ
ทำไมถึงตีล่ะลูก
ผมติดกระดุมผิดเม็ดครับ
"ช่างยายเขาเถอะลูก"
แล้วพ่อก็พาผู้เขียนไปส่งที่โรงเรียนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นความรุนแรงทวีขึ้นเรื่อย ๆ จากทำร้ายร่างกายก็เพิ่มเป็นทำร้ายจิตใจ ย้ายมักจะห้ามไม่ให้เด็กคนอื่นมาเล่นกับผู้เขียนในตอนนั้น ผู้เขียนมีน้าอยู่ 2 คนที่อายุห่างกันคนละปีและเป็นลูกของคุณยาย(คุณยายมีลูก7คน) หากสิ่งของในบ้านแตกพังหรือเสียหายผู้เขียนก็จะถูกกล่าวโทษเสมอทั้ง ๆ ที่ผู้เขียนไม่ได้เป็นคนทำ แล้วพอผู้เขียนอธิบายสิ่งที่ยายมักพูดกับผู้เขียนก็คือ
เถียงหรอก้าวร้าวใหญ่แล้วเหมือนพ่อไม่มีผิด อวดดีเหมือนพ่อมึง
แม่ของผู้เขียนไม่ค่อยได้รับรู้ตรงส่วนนี้เพราะแม่ต้องทำงานหาเช้ากินค่ำ เช้ามาก็ไปทำงานตกเย็นมาผู้เขียนก็หลับแล้วจึงทำให้ไม่ค่อยได้คุยกันสักเท่าไหร่บวกกับแม่ชอบสอนผู้เขียนเสมอว่า
"ยายเป็นผู้ให้กำเนิดแม่มาถ้าไม่มียายก็ไม่มีแม่ในวันนี้ หนูอยู่กับยายต้องเป็นเด็กดีนะลูกอย่าดื้ออย่าซนนะ"
คำเหล่านี้จะคอยผุดขึ้นมาในหัวเสมอยามที่ผู้เขียนพยายามจะบอกแม่แต่ก็ไม่เป็นผลเลยครับผู้เขียนต้องกลืนคำเหล่านั้นให้หายลงคอไปทำราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเพื่อไม่อยากให้แม่เสียใจ กลัวจะเป็นคนที่อกตัญญู
เมื่ออารมณ์ที่สะสมมานานมีมากขึ้นก็ก่อเกิดเป็นความขัดแย้งด้วยความที่ถูกกระทำซ้ำ ๆ ซาก ๆ จนนานวันก่อเป็นก้อนตะกอนของความเจ็บช้ำ เจ็บปวด ทั้งกายและจิตใจ "เก็บกด" ผู้เขียนเริ่มแสดงออกกับยายด้วยพลังงานด้านลบมากขึ้น เถียงทุกคำที่ยายกล่าวว่า แสดงอาการบึ้งตึงไม่พอใจทุกครั้ง ไม่ทำตัวเงียบเหมือนก่อน
มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เงินในบ้านหายและเป็นเงินของแกคนที่โดนเพ่งเล็งคนแรกคือผู้เขียนครับ
มึงเอาเงินกูไปใช่ไหม
ผมไม่ได้เอาไป
ถ้าไม่ใช่มึงแล้วจะเป็นใคร
สันดารชั่วเหมือนพ่อมึงไม่มีผิด"ระยำจริง ๆ"
และก็ตบหน้าผู้เขียนหนึ่งครั้ง
ผู้เขียนไม่ได้ตอบโต้ผู้เขียนเลือกเดินหันหลังออกจากบ้าน ขณะที่กำลังจะก้าวพ้นบ้านนั้นผู้เขียนก็พบกับพ่อที่กลับมาพอดี
เป็นอะไรทำไมร้องไห้
ยายตบหน้าผมหาว่าผมขโมยตังยาย
พ่อลูบหัวผู้เขียนแล้วพูดว่า"ช่างยายเขาเถอะลูก"
อีกเช่นเคยครับแม่ของผู้เขียนไม่เคยรู้เรื่องนี้เลยไม่เคยระแคะระคายเรื่องเหล่านี้เลยด้วยซ้ำพ่อไม่เคยบอกแม่ และ ผู้เขียนก็ไม่เคยบอกแม่เลยสักครั้งเดียวเพราะนอกจากกลัวเป็นลูกอกตัญญูแล้วมันมีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและสำคัญมากเพราะมันทำให้ผู้เขียนเป็นคนขี้ขลาดหวาดกลัวไปเลยครับ
ช่วงเย็นทางช่อง 9 โมเดิร์นไนน์การ์ตูนจะมีสารคดีในช่วงนั้นผู้เขียนชอบดูสารคดีมากจึงเปิดโทรทัศน์เพื่อดูสารคดี ดูได้ไม่นานช่องก็ถูกเปลี่ยนไปผู้เขียนรู้ได้ทันทีว่าใครที่เป็นคนเปลี่ยน
ผมขอดูสารคดีก่อนได้ไหมยาย
แกหันมามองหน้าผมแล้วก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ผมเริ่มมีความรู้สึกว่ามันไม่แฟร์แล้วเพราะอย่างน้อยสลับกันดูมันก็ไม่น่าจะมีปัญหาแต่เล่นครองช่องแบบนี้ไม่แฟร์อย่างแรง เกิดการโต้เถียงระหว่างผู้เขียนกับยายขึ้นและเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ คุณแม่ของผู้เขียนที่ซักผ้าอยู่ข้างนอกบ้านเดินเข้ามาดูตอนไหนไม่รู้ผู้เขียนไม่ทราบได้
"กูเป็นยายมึงนะอายุมากกว่ามึงอาบน้ำร้อนมาก่อนมึงกูจะทำอะไรก็ได้"
"อยากดูก็ดูไปเลย"
อารมณ์ตอนนั้นผู้เขียนยอมรับครับโมโหสุดขีดพอสิ้นประโยค แม่ของผู้เขียนเดินเข้ามากดผู้เขียนให้นอนลงและนั่งคร่อมผู้เขียนตบปากผู้เขียนไม่ยั้ง
ต่อหน้าผู้เป็นยาย แกนั่งดูผู้เขียนถูกตีแล้วก็หันไปดูทีวีต่อ บาดแผลในคราวนั้นทำไห้ผู้เขียนไม่กล้าเลยครับ ไม่กล้าแม้แต่จะบอกแม่
เพราะกลัวเหลือเกินกลัวแม่ไม่เชื่อ และกลัวแม่จะตีผู้เขียนซ้ำอีกหากแม่คิดว่าผู้เขียนโกหก การนั่งร้องไห้กับตัวเองเงียบ ๆ คนเดียวคงเป็นทางที่ดีที่สุด ณ ตอนนั้น
ผู้เขียนยอมรับครับว่าในช่วงชีวิตตอนนั้นข่มขืนมากผู้เขียนไม่เข้าใจว่าผู้เขียนทำอะไรผิดนักหนาจนเมื่อผู้เขียนโตขึ้นผู้เขียนจึงรู้ต้นสายปลายเหตุทั้งหมดว่าเหตุใดยายถึงเกลียดผู้เขียนนัก
เพราะพ่อของผู้เขียนเป็นคนเจ้าชู้ เคยติดยามาก่อนไม่เอาการเอางาน หลัก ๆ เลยก็เหตุเพราะ
พี่เขยน้องเมีย"น้องสาวของเมียก็ไม่เว้น"
น่าจะเป็นต้นสายปลายเหตุที่ทำให้ผู้เป็นยายเกลียดพ่อผู้เขียน และรวมถึงผู้เขียนด้วย ประโยคนึงที่ผู้เขียนจำได้ขึ้นใจ
"พ่อมันเลว มีลูกก็มีลูกเลว ๆ เหมือนพ่อมัน"
เหตุที่ทำให้ผู้เขียนตัดสินใจเขียนเรื่องราวนี้ขึ้น เพราะยายยังไม่หยุดแต่แค่เปลี่ยนคน ไปลงกับหลานลูกของพี่ชายแม่ผู้เขียน เหตุเพราะไม่ชอบแม่ของหลาน (แม่ของหลานประวัติไม่ต่างจากพ่อของผู้เขียน) มันทำให้รู้สึกเหมือนกระจก เห็นเงาตัวเองอายุเท่ากันและในช่วงเวลาเดียวกัน
"ทำไมถึงยังไม่หยุดจะเกลียดใครจะไม่ชอบใครแล้วทำไมต้องเอามาลงที่เด็กที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ที่ไม่รู้เรื่อง"
จะให้เด็กมาเป็นที่รองรับอารมณ์อย่างนั้นหรือ
ในตอนนี้ผู้เขียนมีครอบครัวจึงมีโอกาสได้เปิดอกคุยกับแม่ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ผู้เขียนเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้แม่ของผู้เขียนฟัง
"ทำไมถึงไม่บอกแม่"
ผู้เขียนจึงบอกเหตุผลไปว่าทำไมถึงไม่บอกแม่
แกนั่งร้องไห้และขอโทษผู้เขียน "เอ็งทำให้แม่เสียใจทำไมเอ็งถึงไม่บอกแม่
"แม่เสียใจที่แม่ปกป้องเอ็งไม่ได้"
ผู้เขียนถามแม่ว่าระแคะระคายเรื่องนี้บ้างไหม แม่บอกว่าแม่สงสัยอยู่ว่าทำไมถึงก้าวร้าวกับยายนัก แต่แม่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากคิดว่าเอ็งน่ะดื้อตามประสาเด็ก
ขอให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์แก่ครอบครัวทุกท่านหากลูก ๆ มีอาการผิดสังเกตหรือก้าวร้าวกับใครคนใดคนหนึ่งในครอบครัวมากผิดปกติ ให้ถามไถ่เลยครับว่าเป็นอะไรจะผิดหรือจะถูกก็ขอให้รับฟังเหตุผลของเจ้าตัวเล็กเหล่านั้นก่อน และหาทางแก้ไข ไม่งั้นมันจะเป็นภัยเงียบแบบที่ผู้เขียนเจอจิตใจของเจ้าตัวเล็กนั้นเปราะบางมากนะครับ
เขาจะหันหน้าไปพึ่งใครได้ถ้าไม่ใช่พ่อและแม่ได้โปรดอย่าทำร้ายลูกทางอ้อมเลยครับ จงใส่ใจกับปัญหานั้นให้มาก
"คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง"
คำนี้อาจเป็นดาบทำร้ายลูกคุณโดยไม่รู้ตัว ผู้ใหญ่ทำอะไรแล้วไม่ผิดอย่าได้ใช้คำนี้เลยครับ ผู้ใหญ่ก็ผิดได้เช่นกันอย่าเอาอีโก้ของคำว่าโตกว่ามาตัดสินก่อนจะรู้เหตุรู้ผลเหล่านั้น ผู้เขียนยอมรับแบบแมน ๆ เลยครับว่าขณะที่นั่งเขียนบทความนี้น้ำตาก็ยังคงไหลอยู่
ผู้เขียนตั้งปณิธานว่าจะไม่ให้เจ้าตัวน้อยต้องพบกับเหตุการณ์แบบนี้เป็นอันขาดครับ
โฆษณา