20 พ.ค. 2020 เวลา 11:28 • ประวัติศาสตร์
“ฟาโรห์ตุตันคาเมน (Tutankhamun)” ฟาโรห์อายุกว่า 3,000 ปี” ตอนที่ 5
การฝังพระศพและความสนใจในมัมมี่ของชาวยุโรป
1
สำหรับบทนี้ ผมจะขออนุญาตข้ามเรื่องขั้นตอนการทำมัมมี่ไปนะครับ เพราะผมเคยเขียนไว้ในซีรีส์ชุดพีระมิดแล้ว
สำหรับบทนี้ผมจะเล่าถึงเรื่องการฝังพระศพของฟาโรห์ตุตันคาเมน
ในวันฝังพระศพของฟาโรห์ตุตันคาเมน ผู้คนจำนวนมากเดินทางต่อกันเป็นขบวนยาว ล่องไปตามแม่น้ำไนล์ และเมื่อขึ้นมาบนแผ่นดิน โลงพระศพก็ถูกดึงขึ้นมาด้วยรถเลื่อน
โลงพระศพถูกขนไปยังหลุมฝังพระศพ ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของแม่น้ำไนล์ มีชื่อเรียกว่า “หุบเขากษัตริย์ (Valley of the Kings)”
1
หุบเขากษัตริย์ (Valley of the Kings)
ณ ที่แห่งนี้เป็นที่ฝังพระศพฟาโรห์มาหลายพระองค์ และที่แห่งนี้ก็มีนักบวชคอยตรวจตราทั้งวันทั้งคืน
1
ในบริเวณใกล้เคียงยังมีสุสานที่แยกออกมาต่างหาก เป็นที่ฝังพระศพพระราชินีและศพของข้าราชสำนัก
1
ในขบวนที่เดินทางไปยังหุบเขากษัตริย์นั้น ผู้ที่เดินนำหน้าขบวนคือนักบวช ซึ่งร้องเพลงและสวดมนต์ไปตลอดเส้นทาง โดยมีพระรูปหนึ่งใส่หน้ากากรูปสุนัข เป็นการสื่อถึง “อนูบิส (Anubis)” เทพแห่งมัมมี่
อนูบิส (Anubis)
ผู้ที่เดินถัดมาคือราชินีของฟาโรห์ตุตันคาเมน และมีกลุ่มผู้หญิงอีกจำนวนหนึ่งเดินตามหลัง ร้องไห้และฉีกเสื้อผ้าไปตลอดเส้นทาง โดยหญิงเหล่านี้คือผู้ที่ทำหน้าที่แสดงความโศกเศร้า
ถัดมาคือเหล่าคนรับใช้ ซึ่งมีจำนวนหลักร้อย คนรับใช้เหล่านี้จะแบกข้าวของเครื่องใช้ เสบียง และของจำเป็นต่างๆ ที่จะใส่ไปในโลงศพ
นอกจากข้าวของเครื่องใช้ ยังมีรูปปั้นรูปคนรับใช้ที่จะใส่ลงไปในโลงศพด้วย โดยเชื่อกันว่ารูปปั้นเหล่านี้จะมีชีวิตและคอยรับใช้ฟาโรห์
2
เมื่อมาถึงประตูทางเข้าสุสาน มัมมี่ของฟาโรห์ตุตันคาเมนจะถูกตั้งขึ้น ซึ่งนี่คือเวลาที่สำคัญที่สุด
2
นักบวชทำการสวดมนต์และทำการแตะที่พระเนตร พระโอษฐ์ พระกรรณ โดยเชื่อว่าจะสามารถทำให้ฟาโรห์ฟื้นคืนพระชนม์ขึ้นมาได้อีกครั้ง
2
จากนั้น ก็ทำการฝังฟาโรห์ โดยพระศพของฟาโรห์ถูกเก็บไว้ในสุสาน จากนั้นก็มีการนำหินมาปิดปากทางเข้า
1
จากนั้น ก็มีงานเลี้ยงใหญ่เพื่อรำลึกถึงฟาโรห์
1
ฟาโรห์ตุตันคาเมนได้เดินทางเข้าสู่ดินแดนแห่งความตาย พระองค์จะประทับอย่างสงบสุข
2
ทุกคนเชื่อว่ามัมมี่ของพระองค์จะปลอดภัย ปราศจากการรบกวน
พวกเขาคิดผิด
1
หัวขโมยในสมัยโบราณไม่ใช่คนกลุ่มเดียวที่คิดจะบุกเข้าไปในสุสาน
ยุค 1800 (พ.ศ.2343-2442) ผู้คนจากหลายชาติในยุโรปได้เริ่มเดินทางไปอียิปต์
อาณาจักรอียิปต์โบราณได้สูญสลายไปแล้ว ความเชื่อต่างๆ ก็ได้หายไปและกลายเป็นปริศนา
แต่เรื่องราวของอียิปต์โบราณก็ยังมีมนต์สเน่ห์ นักท่องเที่ยวอยากจะมาเห็นพีระมิด มีการซื้อขายสิ่งของต่างๆ มากมาย รวมทั้งมัมมี่
ชาวยุโรปชั้นสูงในสมัยนั้น มักจัดปาร์ตี้แกะมัมมี่ โดยมีการนำมัมมี่ที่ซื้อมา นำมาแกะ และงานอย่างนี้ก็เป็นที่นิยมมากจนถึงขั้นมีบริษัทรับจัดหามัมมี่เลยทีเดียว
2
ในยุคปลาย 1800 หลุมศพของฟาโรห์หลายพระองค์ได้ถูกพบแล้ว แต่ปัญหาก็คือหลุมศพแต่ละแห่งล้วนแต่ว่างเปล่า
ฝันของนักโบราณคดีแทบทุกคนคือการพบหลุมศพที่ไม่ว่างเปล่า ซึ่งแต่ละคนก็ไม่กล้าจะหวังมาก แต่ละคนก็คิดว่านั่นเป็นเพียงฝันลมๆ แล้งๆ
แต่มีชายอยู่คนหนึ่งเชื่อว่ายังมีหลุมศพที่ยังไม่ถูกรื้อค้น
ชายคนนั้นชื่อ “ฮาเวิร์ด คาร์เตอร์ (Howard Carter)”
เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ติดตามได้ในตอนหน้าครับ
1
โฆษณา