มือสั่นใช่พาร์กินสันหรือไม่?
อาการมือสั่น เป็นความผิดปกติทางการเคลื่อนไหวที่พบได้บ่อย เกิดได้จากหลายสาเหตุ ที่พบบ่อยได้แก่ อาการสั่นไม่ทราบสาเหตุ(Essential tremor), การสั่นจากการใช้ยา, โรคไทรอยด์เป็นพิษ โรคกลุ่มอาการพาร์กินสัน (Parkinsonism) , การมีความผิดปกติของระบบควบคุมการเคลื่อนไหวที่ละเอียดบริเวณสมองน้อย(cerebellar lesion) เช่นโรคหลอดเลือดสมอง,ก้อนในสมอง,โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง(Multiple Sclerosis) , กลุ่มอาการผู้ที่มีพิษสุราเรื้อรัง และภาวะถอนพิษสุรา(Alcohol withdrawal syndrome), การมีกล้ามเนื้อบิดเกร็ง(Dystonia) และยังพบได้ในผู้ที่มีภาวะเครียด กังวลใจได้อีกด้วย
โรคพาร์กินสัน เป็นโรคที่เกิดจากการมีโปรตีนผิดปกติที่ชื่อลิววี่บอดี้ (Lewy bodies) ไปสะสมในสมอง ทำให้เกิดอาการผิดปกติตามตำแหน่งของสมอง โดยมีอาการแสดงที่แตกต่างกันไปตามระยะของโรค
อาการที่สำคัญคือ
1. อาการสั่น มักพบตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของโรค พบได้ประมาณร้อยละ 60ของผู้ป่วย เป็นมากเวลาที่อยู่นิ่งๆ การสั่นจะมีความถี่ประมาณ 4-8 ครั้ง /วินาที อาการสั่นจะลดลงในขณะมีการเคลื่อนไหว มักพบอาการสั่นได้ที่มือและเท้า และอาจพบได้ที่บริเวณคางหรือลิ้น แต่มักไม่พบที่บริเวณศีรษะ
2. อาการเกร็ง มีการเกร็งที่กล้ามเนื้อแขนและขา ทำให้มีอาการปวดเมื่อยได้
3. อาการเคลื่อนไหวช้า จะพบว่าเมื่อเริ่มต้นเคลื่อนไหวจะทำได้ช้า เช่น ขณะขยับมือ แขน ขา ,ในขณะเริ่มออกเดิน และอาจพบมีการทรงตัวที่ผิดปกติ เป็นสาเหตุให้หกล้มได้ง่าย
4. การเดินผิดปกติ มีอาการเดินซอยเท้าช่วงสั้นๆในช่วงแรก ดีขึ้นเมื่อออกเดิน แต่เมื่อจะหยุดเดิน จะหยุดไม่ได้ในทันทีทำให้หกล้มได้ นอกจากนี้ยังมีลักษณะ เดินตัวแข็ง ตัวจะงุ้มหลังค่อม และแขนมีการแกว่งที่น้อยลง
5. การแสดงสีหน้า จะมีลักษณะหน้านิ่ง ไม่ค่อยแสดงอารมณ์ เหมือนกับใส่หน้ากาก (mask face)
6. เสียงพูด จะเบา พูดรัวๆ เสียงอยู่ในลำคอ ทำให้ฟังได้ยาก อาจมีน้ำลายไหลออกมาที่มุมปากตลอดเวลา
7. การเขียนหนังสือ จะเขียนได้ช้า สั่น และตัวอักษรมักมีขนาดเล็กลงเมื่อเขียนยาวๆ
8. อาการอื่นๆ ได้แก่ อาการท้องผูก ท้อแท้ซึมเศร้า คิดช้าขี้ลืม อารมณ์เปลี่ยนแปลงง่าย ควบคุมตัวเองไม่ได้ การลุกเร็วๆแล้วมีภาวะความดันต่ำ ทำให้หน้ามืด การได้กลิ่นผิดปกติ การฝันแล้วออกเดินหรือขยับร่างกาย และอาการอ่อนเพลีย
การตรวจเพิ่มเติม
ควรพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อทำการซักประวัติ และตรวจร่างกาย เพื่อแยกอาการสั่น จากโรคที่ทำให้สั่นได้อื่นๆ บางรายอาจจำเป็นต้องมีการเจาะเลือด เอ็กซเรย์คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าสมอง(MRI-Brain) หรือการตรวจอื่นๆเพิ่มเติมตามที่แพทย์พิจารณาตามความเหมาะสม
การรักษา
ปัจจุบัน การรักษามีการใช้ยาที่ช่วยเพิ่มสารโดปามีน ทำให้อาการผิดปกติทางการเคลื่อนไหวและอาการอื่นๆของโรคดีขึ้น สามารถมาใช้ชีวิตปกติได้ ปัจจุบันยามีหลายรูปแบบทั้งที่เป็นเม็ดรับประทาน แผ่นแปะที่ผิวหนัง และ การฉีดยาแบบต่อเนื่องเข้าสู่ชั้นใต้ผิวหนัง การรักษาโรคตั้งแต่ต้นและต่อเนื่องโดยผู้เชี่ยวชาญ จะช่วยทำให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยและครอบครัวดีขึ้นตามระยะของโรค ลดภาวะแทรกซ้อน เช่น การใช้ยาไม่เหมาะสม, การติดยา, การเกิดภาวะเคลื่อนไหวผิดปกติจากการใช้ยา เป็นต้น ในกรณีใช้ยาไม่ได้ผล ยังมีการรักษาอื่นๆที่นำมาใช้ตามข้อบ่งชี้ ได้แก่ การรักษาโดยการผ่าตัดกระตุ้นสมองส่วนลึก (Deep brain stimulation) และ การผ่าตัดสมอง
นอกจากนี้ยังควรมีการฝึกกายภาพบำบัดควบคู่กันไป ประกอบด้วย การฝึกยืดเหยียดกล้ามเนื้อเพื่อลดอาการปวด การฝึกออกกำลังกายคาร์ดิโอเพื่อเพิ่มความแข็งแรง การฝึกเดินและการทรงตัว การฝึกพูดในกรณีที่มีปัญหา
การรักษาอาการร่วมอื่นๆ จะมีการดูแลตามความเหมาะสม โดยอาการที่พบได้บ่อย ได้แก่ การนอนหลับผิดปกติ อาการซึมเศร้า การกลืน น้ำลายไหลผิดปกติ ท้องผูก กลั้นปัสสาวะผิดปกติ อวัยวะเพศไม่แข็งตัว อาการเหล่านี้หากผู้ป่วยพบมีอาการ ควรปรึกษาแพทย์ที่ดูแล เพราะอาจเกิดจากตัวโรคได้
การวางแผนการรักษา และการรักษาร่วมกันเป็นทีม เพื่อให้ทำการรักษาต่อเนื่องและได้ประสิทธิภาพ ก็เป็นอีกปัจจัยในการประสบความสำเร็จในการรักษา
พาร์กินสันเป็นโรคของความเสื่อม โดยปกติตัวโรคจะมีการค่อยๆแย่ลง พบว่าผู้ที่รักษาถูกต้อง ออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ ฝึกการเคลื่อนไหวและการทรงตัวอย่างสม่ำเสมอ มีอารมณ์สดชื่น กำลังใจที่ดี และมีทีมครอบครัวและผู้ดูแลที่ดี ก็จะช่วยให้การดำเนินโรคช้าลง และทำให้ผู้ป่วยมีความสุขตามความเหมาะสมตลอดช่วงอายุขัยได้
ตอนนี้ใครมือสั่น อย่าลืมรีบตรวจหาสาเหตุกันนะครับ รู้โรคเร็ว รักษาไว เป็นดีที่สุดครับ
อยากให้คุณมีสุขภาพดีและมีความสุข ^^
นพ.อดิศักดิ์ กิตติสาเรศ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
