21 พ.ค. 2020 เวลา 11:54 • ธุรกิจ
ส่องหุ้น MK พื้นฐานแน่น.. ฟื้นตัวแน่
หลังจากที่ตลาดหุ้นในบ้านเราได้โซซัดโซเซกันมานานกว่า 3-4 เดือนจากผลกระทบของ Covid-19 ที่แพร่ระบาดกันมาตั้งแต่ช่วงปลายปี ล่าสุดดัชนีของ SET ก็สามารถดีดตัวทะลุ 1300 จุดไปได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ซึ่งก็เป็นเวลาพร้อมๆกับที่บริษัทจดทะเบียนในบ้านเราได้ประกาศงบของไตรมาสแรก (Q1/63) กันออกมาหมดแล้ว ส่วนที่ยังไม่ประกาศก็จะมีเพียงบริษัทที่มีขอเลื่อนการประกาศงบออกไป และก็เชื่อว่าตัวเลขในไตรมาส 1 ของปีนี้นั้นถูกจับตามองมาจากสายตาหลายๆคู่ เนื่องจากมันคือตัววัดผลในโค้งแรกของวิกฤติครั้งนี้
และจากเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ Covid-19 ที่สามารถติดต่อกันได้จากคนสู่คนนั้นก็ได้ทำให้ "การปิดเมือง" นั้นกลายมาเป็นความเสี่ยงใหม่ที่ผู้ทำธุรกิจหลายๆเจ้าก็คิดไม่ถึงและไม่ได้เตรียมตัวไว้ เช่นเดียวกันกับธุรกิจในกลุ่ม "ร้านอาหาร" ที่โดนผลกระทบจากการปิดเมืองและการทำ Social Distancing กันไปหนักอยู่พอสมควร
นอกจากนี้ระบบ Delivery ที่ได้เข้ามา Disruption วงการอาหารกันในช่วงหลังๆและยิ่งมาชัดเจนขึ้นในภาวะ Lockdown แบบนี้ก็ยิ่งทำให้ธุรกิจร้านอาหารน่าเป็นห่วงกันขึ้นไปใหญ่ แต่เดี๋ยววันนี้เราจะพาไปดูว่าเพราะอะไรและทำไม ??? MK แบรนด์สุกี้ยอดฮิตที่คนไทยรู้จักกันเป็นอย่างดี จะสามารถ "ฟื้นตัว" ได้หลังจากวิกฤติในครั้งนี้
เตรียมตัวให้พร้อมแล้วไปลุยกันเลย...
ก่อนอื่นก็ต้องยอมรับเลยว่าภาพรวมในธุรกิจอาหารที่ประกาศออกมาในไตรมาส 1 ปีพ.ศ. 2563 นี้ก็ถือว่าน่าเป็นห่วงอยู่เหมือนกัน เพราะงบที่ออกมาก็จะพบว่าการเติบโตของหุ้นอาหารตัวเด่นๆในไตรมาส 1/63 ต่างก็กอดคอพากัน "หดตัว" กันยกกลุ่มจากผลกระทบจากวิกฤติ Covid-19 นำทีมโดย OISHI, AU, ที่มีรายได้ลดลงไป 80% และ 78% ที่น่าห่วงที่สุดก็เห็นที่จะเป็น ZEN ที่ขาดทุนไปถึง 44 ล้านบาท
แต่มีหุ้นอยู่ตัวนึงที่น่าจับตามองนั่นก็คือ M หรือบมจ. เอ็มเค เรสโตรองต์ เจ้าของแบรนด์สุกี้ "เอ็มเค" และร้านอาหารญี่ปุ่นอย่าง "ยาโยอิ" นอกจากนี้เมื่อช่วงเดือนกันยายน 2562 ยังได้เข้าไปถือหุ้นในเชนร้านอาหารทะเลชื่อดังอย่าง "แหลมเจริญ ซีฟู้ด" อีก 65% ด้วยนั่นเอง
โดยจะขอเล่าที่มาของ M กันแบบสั้นๆก่อน ซึ่งจุดเริ่มต้นของ "เอ็มเค สุกี้" ก็ได้มีขึ้นมาเมื่อปีพ.ศ. 2529 กับร้านสุกี้สาขาแรกที่เซ็นทรัลลาดพร้าว ซึ่งหลังจากนั้นสุกี้ยากี้ก็ได้กลายมาเป็นที่รู้จักและที่นิยมของคนไทยเรื่อยมาจนในปัจจุบัน M มีร้าน เอ็มเค สุกี้ อยู่ทั้งหมด 463 สาขา ซึ่งถ้ารวมร้านอาหารทุกร้านของ M ในตอนนี้ก็จะมีอยู่ 706 สาขากันเลยทีเดียว
แต่ก็ไม่ใช่ว่าไตรมาส 1'63 นี้ทาง M จะไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลยนะครับ เพราะว่ารายได้ของ M ก็หดตัวลงมาที่ 20% เช่นกันในโค้งแรก ซึ่งสัดส่วนรายได้หลักของทางบริษัทก็มาจากร้าน เอ็มเค สุกี้ ที่ 79% ร้าน ยาโยอิ 19% และร้านอื่นๆอีก 3%
💰 งบการเงินย้อนหลังของ M
ปี 2559 รายได้ 15,498 ล้านบาท
กำไร 2,099 ล้านบาท
ปี 2560 รายได้ 16,457 ล้านบาท
กำไร 2,424 ล้านบาท
ปี 2561 รายได้ 17,233 ล้านบาท
กำไร 2,573 ล้านบาท
ปี 2562 รายได้ 17,870 ล้านบาท
กำไร 2,603 ล้านบาท
💰งบการเงินไตรมาส 1 ปี 2563 ของ M
รายได้ 3,876 ล้านบาท
กำไร 340 ล้านบาท
แน่นอนว่าการ Lockdown คงจะส่งผลไม่ดีกับ M และหุ้นอาหารตัวอื่นๆไปกันอย่างถ้วนหน้า เพราะว่า Fixed cost (ต้นทุนคงที่) ของ M จากในตอนสถานะการณ์ปกติที่ 50% นั้นลดลงมาอยู่ที่ราวๆ 30% ก็จริง แต่กำไรขั้นต้นนั้นก็ลดลงมาอย่างฮวบฮาบเช่นกันจาก 70% เหลือแค่ 15% ดังนั้นเมื่อมีข่าวว่าห้างจะเปิด ถึงแม้ว่าคนและกำไรจะยังไม่กลับมาเท่าเดิมก่อนเกิดการแพร่ระบาด M จึงมีความหวังในการฟื้นตัวขึ้นมาบ้าง ถึงกำไรจะกลับมาไม่เท่าเดิมก็เถอะ
แต่ความน่าสนใจของ M นั้นก็มีอยู่ เนื่องจากแบรนด์สุกี้ อาหารญี่ปุ่น รวมไปถึงแบรนด์ร้านอาหารทะเลของทางบริษัทก็ถือว่าเป็นที่รู้จักกันในคนไทยอย่างแพร่หลายและยังคงเป็นเจ้าท็อปๆของไทยในอาหารทั้ง 3 แบบ อีกทั้ง Net Profit Margin (NPM) ของพวกเขาก็ยังถือว่ามีอยู่ที่ 15% ในขณะที่หุ้นกลุ่มร้านอาหารมีค่าเฉลี่ยกันอยู่ราวๆ 5% - 10% เท่านั้น เรียกได้ว่ามีความแข็งแกร่งในสนามของตัวเองที่ใช้ได้เลยทีเดียวล่ะครับ
นอกจากนี้ M ยังมีสภาพคล่องที่ถือว่าสบายๆเลยกับเงินสดในมือที่มีอยู่กว่า 8,000 ล้านบาท ตรงกับประโยคสำหรับเหล่านักลงทุนในวิกฤติที่พูดกันว่า "Cash is king" เพราะไม่ว่าสถานะการณ์จะยืดเยื้อหรือสบโอกาสลงทุนใหม่ๆ ทาง M ก็มีเงินสดพร้อมที่จะรับมืออยู่เสมอ และเชื่อว่าคนเรายังไงก็ต้องกินต้องใช้ ต้องออกไปเปลื่ยนบรรยากาศกันบ้าง
ถึงจะแย่ลงในตอนนี้ แต่ก็ยังมีปัจจัยต่างๆที่คอยสนับสนุนการฟื้นตัวอยู่ตลอดเวลา เพราะเชื่อว่าเมื่อพายุได้เข้ามาถล่มแล้วเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีใครที่ไม่ล้มหายตายจากกันไป และที่สำคัญก็คือผู้ที่อยู่รอดได้ในทุกสถานะการณ์นั้นยิ่งจะแข็งแกร่งขึ้นจากคู่แข่งที่โดนพายุพัดหายไป
เป็นยังไงกันบ้างครับกับหุ้น M ที่ดูจะโซเซไปบ้างในโค้งแรก แต่ถ้าผ่าไส้ในลงไปดูในหม้อสุกี้ของพวกเขาแล้วนั้น เราจะเห็นเลยว่า "เนื้อใน" ของธุรกิจยังไม่ได้เปลื่ยนไป อีกทั้งการเติบโตจากการไปลงทุนกับ แหลมเจริญ ซีฟู้ด ก็ยังไม่ถือว่าเดินเครื่องเต็มสูบ ยังมีพื้นที่ให้ทำอะไรต่อยอดอีกมากพอสมควรเลยกับอัตราการปันผลที่ปีละ 5% ของ M
M จะสามารถต่อยอดจาก แหลมเจริญ ซีฟู้ด ได้ดีขนาดไหนในอนาคต ???
ใครจะเป็นผู้อยู่รอดในพายุ Covid-19 ในรอบนี้และจะเป็นผู้ที่ได้ไปต่อ ??
เรื่องนี้ ก็ต้องมาติดตามกันต่อไป...
กับ
M หุ้นพื้นฐานแน่น ฟื้นตัวแน่ !
ติดตามบทความดีๆของพวกเราได้ทาง WEBSITE
หรือ FACEBOOK เพจ หุ้นพอร์ทระเบิด
- - - -
ผู้สนับสนุน
สนใจเปิดพอร์ท หุ้น TFEX SBL BLOCKTRADE กับโบรคเกอร์ KTBST
ค่าธรรมเนียมเรทพิเศษ
พร้อมรับสิทธิพิเศษมากมาย
- ทีมงานมืออาชีพคอยให้บริการ
- โปรแกรม EFIN//ASPEN
- โปรแกรม SUPPORT อื่นๆเช่น MT4//MODEL TRADE//KTBST SMART และอื่นอีกมากมาย
กรอกรายละเอียดได้เลย 👇
โฆษณา