21 พ.ค. 2020 เวลา 15:19 • ธุรกิจ
e-Power ยนตรกรรมเชื่อมสองโลก!!?? 🧐
เชื่อมโลกเก่าของตลาดรถใช้น้ำมันกับโลกอนาคตของรถไฟฟ้า ⚡🚗
1
Nissan Kick ที่เพิ่งเปิดตัวพร้อมเทคโนโลยี e-Power รถ EV ที่เติมน้ำมันแทนการชาร์จไฟ!!??
เมื่ออาทิตย์ก่อน Nissan ประเทศไทยได้เปิดตัว Nissan Kick ที่มาพร้อมเทคโนโลยี e-Power หรือถ้าถ้าจะให้นิยามสำหรับผม Nissan Kick มันคือรถ EV ที่เติมน้ำมันแทนการชาร์จไฟ
งงดิ รถ EV แล้วเติมน้ำมันเนี่ยนะ จะ EV เพื่อ??
ข้อนี้บอกได้เลย ทำมาตอบโจทย์ลูกค้ารถใช้น้ำมันในปัจจุบันที่กังวลว่าถ้าจะเปลี่ยนไปใช้รถ EV จะวิ่งต่างจังหวัดยังไง แวะชาร์จไฟที่ไหนได้ แบตหมดกลางทางทำไง ค่าแบตแพงมั้ย ประกันแบตกี่ปี่ ฯลฯ
เดี๋ยวนะ ถ้างั้นรถไฮบริดละ มันต่าต่างจาก Prius และรถตระกูลไฮบริดที่มีอยู่ในตลาดยังไงเหรอ??
งั้นขอทำความเข้าใจเกี่ยวกับ รถ EV และรถไฮบริดแต่ละประเภทก่อน
อันนี้รถ EV
รถ EV นั้นแน่นอนว่าใช้ไฟจากแบตเตอรี่จ่ายไฟไปยังตัวอินเวอร์เตอร์แปลงไฟจ่ายไปยังมอร์เตอร์เพื่อใช้เป็นต้นกำลังในการขับเคลื่อน
แน่นอนว่าข้อดีคือออกตัวแรง แรงบิดเพียบ แรงม้ามหาศาลตามขนาดกำลังมอร์เตอร์ แต่ข้อเสียต้องคอยชาร์จไฟ ระยะการวิ่งต่อการชาร์จยังสู้รถน้ำมันไม่ได้ แถมข้อเสียฝังใจของผู้ใช้รถคือค่าแบตแพงจนหลอน
ตัวอย่างรถไฟฟ้าในท้องตลาดปัจจุบัน
ดังนั้นค่ายรถน้ำมันเดิมจึงมีการพัฒนาเทคโนโลยีเปลี่ยนผ่านจากรถน้ำมันไปรถไฟฟ้า นั้นก็คือรถไฮบริด
รถไฮบริดนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะมีมาซักพักหนึ่งแล้วในตลาด เพียงแต่มักจะถูกวางเป็นของพรีเมี่ยมของเล่นสำหรับคนมีสตางค์ ด้วยส่วนหนึ่งคือค่าแบตเตอรี่ที่ยังแพงอยู่
2
ระบบไฮบริดแบบตั้งเดิมที่เรียกว่า Parallel Hybrid
โดยหลักการทำงานของรถไฮบริดนั้นจะทำงานโดยใช้ต้นกำลังจากสองส่วน คือแบตเตอรี่ผ่านไปยังมอร์เตอร์เหมือนรถไฟฟ้า และอีกส่วนมาจากเครื่องยนต์
ด้วยการทำงานที่มีทั้งวิ่งด้วยมอร์เตอร์อย่างเดียวตอนความเร็วต่ำ ช่วยกันวิ่งความเร็วกลาง ๆ และเครื่องยนต์วิ่งตอนช่วงความเร็วสูง จึงทำให้ประหยัดน้ำมันกว่ารถทั่วไปในตอนนั้น
และยังมีการพัฒนาเพิ่มระบบ Plug-in Hybrid หลังจากแบตเตอรี่มีราคาถูกลงเพื่อเพิ่มระยะการวิ่งด้วยไฟฟ้า
Prius Plug-in Hybrid
แต่ก็มีเรื่องเล่าสุดหลอนจากผู้ใช้รถ Prius ในห้องรัชดาว่าเขาเคยวิ่งขึ้นดอยแล้วแบตหมด!!! ทำให้เหลือแต่เครื่องยนต์ขับเคลื่อนซึ่งเครื่องของ Prius นั้นเป็นเครื่องยนต์ Atkinson cycle เน้นประหยัดน้ำมันมีแต่แรงม้า(Power) แต่ไม่มีแรงบิด(ทอร์ค)
ผลก็คือกลายเป็นการคลานขึ้นดอย สุดท้ายต้องถอยลงมาเช่ารถ 4WD ขึ้นดอย สร้างความอับอายอย่างยิ่งยวด
ระบบไฮบริดแบบนี้เรียกว่า Parallel Hybrid ช่วยกับขับด้วยมอร์เตอร์และเครื่องยนต์ แบตหมดก็แรงตก
ด้วยข้อเสียดังที่กล่าวมาข้างต้น ดังนั้นพี่โต (โตโยต้า) จึงได้พัฒนาระบบไฮบริดขึ้นมาใหม่เป็นแบบ Series-Parallel Hybrid ส่วนพี่ฮอน (ฮอนด้า) ใช้เป็นแบบ Series+Parallel Hybrid
เอ่อ แล้ว Series Hybrid คืออะไร??
e-Power แท้จริงแล้วคือ Series Hybrid นั่นเอง
แท้จริงแล้ว Series Hybrid ก็คือเทคโนโลยี e-Power ของนิสสันที่เราจะมาพูดถึงกันในวันนี้นั่นเอง
หลักการคือใช้เครื่องยนต์ไปปั่นไฟแล้วชาร์จเก็บเข้าแบตเตอรี่ก่อนจะจ่ายไฟให้มอร์เตอร์สำหรับการขับเคลื่อน
1
ใช่ครับมีเครื่องยนต์ไว้ปั่นไฟ ไม่ได้ใช้วิ่ง อาจจะฟังดูงง ๆ ทำไปทำไม
เพราะ
1. ได้ความแรงและแรงบิดของมอร์เตอร์สำหรับการขับเคลื่อนเหมือนกับรถไฟฟ้า
2. ไม่ต้องมีระบบส่งกำลัง (ระบบเกียร์) ให้หนักและต้องคอยบำรุงรักษา ลดชิ้นส่วนในรถได้มากมาย
3. ยังเติมน้ำมันได้เหมือนรถไฮบริด ไม่ต้องกลัวไฟหมด ระวังน้ำมันหมดอย่างเดียว และน้ำมันหมดยังวิ่งต่อได้ถ้าแบตยังเหลือ
อ่าวแล้วแบตไม่มีหมดเหมือน Prius เหรอ??
ถ้ากางดู Spec ของ Kick จะพบว่าแบตที่ให้มานั้นลูกใหญ่กว่าแมวนิดเดียวที่ 1.57 kWh!! เหยียบมิดแป๊บเดียวก็หมด แบตหมดแล้วยังไงต่อ
แบตหมดทางราบเครื่องยนต์ก็ทำงานที่รอบสูงขึ้น กินน้ำมันมากขึ้น เพื่อปั่นไฟให้พอที่จะชาร์จให้ทัน ดังนั้นยังวิ่งได้ครับแต่มันจะไม่ประหยัดอย่างที่ออกแบบไว้ ยิ่งถ้ากะจะเหยียบซัก 180 ขึ้นนะ แถมตัวรถก็หนักด้วย
Spec มอร์เตอร์และเครื่องยนต์ตามโบชัวร์ เครื่องยนต์ 80 แรงม้า แต่มอร์เตอร์ 260 แรงม้า
และยังถกเถียงกันในพันทิพย์ห้องรัชดาว่าถ้าแบตหมดตอนขึ้นดอยละ จะมีชะตากรรมเหมือน Prius รุ่นเก่ามั้ย
ก็ลองเปรียบเทียบกับนิสสัน Almera ตัวเก่าที่ใช้เครื่องยนต์ตัวเดียวกัน (HR12DE) ที่ยังขึ้นดอยไปดูดาวกันสลอน ก็น่าจะไหวนะถ้าคิดว่าการสูญเสียจากการแปลงพลังงานกลเป็นไฟฟ้า-ไฟฟ้ากลับเป็นกลนั้นพอ ๆ กับที่สูญเสียในระบบเกียร์
แต่!!! อย่าลืมว่าแบกน้ำหนักไม่เท่ากัน เพราะKick ตัวรถหนักกว่าที่ 1.35 ตัน ส่วน Almera หนักแค่ตันเดียว
1
สุดท้ายแล้วเรื่องจริงจะเป็นยังไงคงต้องรอรถตัวจริงออกขาย ซึ่งผมเชื่อว่าเมื่อรถออกขายจริง คงมีพวกอยากลองอยากรู้ทำการรีวิวแบบจัดหนักอัดหนักเหยียบมิดขึ้นดอยมาให้ดูกันแน่นอน เพราะดูท่าคนอยากรู้เยอะ
กลับมาเรื่อง Series-Parallel Hybrid กันต่อ เป็นการพัฒนาเอาข้อดีของระบบไฮบริดทั้งสองรูปแบบมาผสมกันไว้โดยของโตโยต้านี้เป็นการทำงานผสมผสานระหว่างทั้ง 2 แบบตลอดเวลา
Sport Hybrid ของฮอนด้า
ส่วน Series+Parallel Hybrid ของฮอนด้านั้นทำงานสลับไปมาระหว่างทั้ง 2 แบบ แต่จริง ๆ แล้วก็มีช่วงที่เป็น Hybrid Drive ช่วยกันวิ่งซึ่งเป็นที่มาของ 199 แรงม้าใน Accord Hybrid นั้นเอง
โดย Series+Parallel Hybrid ของฮอนด้ายังสามารถเอาชนะระบบ Series-Parallel Hybrid ของพี่โตในด้านการประหยัดได้เพราะมันสามารถสลับการทำงานระหว่าง EV Drive และ Engine Drive ได้ทำให้การชาร์จพลังงานกลับทำได้อย่างเต็มประสิทธิภาพกว่า
จากแผนภาพสรุป พี่โต Config C พี่ฮอน Config A ส่วนนิสสัน Config B
1
งั้น Series+Parallel Hybrid น่าจะดีสุด??
จริง ๆ แล้วมันก็ไม่ได้ทิ้งกันเป็นทุ่งขนาดนั้น ในทั้ง 3 รูปแบบของรถไฮบริดที่ผมกำลังพูดอยู่นี้ Config B หรือ e-Power ของนิสสันมันมีข้อได้เปรียบตรงไม่มีระบบเกียร์นี่แหละครับ ลดต้นทุนได้เยอะ
1
จึงเป็นที่มาของการเปิดตัว Kick ในราคา 9 แสนมีทอนกับรถ CUV 260 แรงม้า แต่ประหยัดน้ำมันแบบอีโคคาร์
จุดเด่นของ e-Power คือการขับขี่ในเมือง ที่ประหยัดกว่าระบบไฮบริดของพี่โตเยอะอยู่
ด้วยแป้นคันเร่งและเบรคที่รวมไว้ด้วยกัน เมื่อถอนคันเร่งสุดก็จะกลายเป็นการเบรคและระบบจะตัดเป็นการชาร์จไฟกลับด้วยแรงเบรคทันที
และด้วยการขับขี่ในเมืองที่แม้จะออกตัวกระชากก็เป็นการใช้ไฟจากแบตเตอรี่ที่ได้จากการปั่นไฟด้วยเครื่องยนต์ที่เดินรอบต่ำจึงประหยัดน้ำมันมาก
แถมเรายังสามารถสั่งให้เครื่องยนต์สตาร์ทเพื่อปั่นไฟเมื่อเห็นว่าระดับไฟต่ำได้ด้วย (ปั่นตุนไว้ก่อน)
เปรียบเทียบ ECO Sticker
ลองดูข้อมูล ECO Sticker เทียบกับ C-HR ไฮบริด ซึ่งเป็นรถ Segment เดียวกันจะเห็นได้ว่าโดยรวม C-HR ทำได้ดีกว่า แต่ในเมือง Kick กินขาดที่ 27 กิโลเมตร/ลิตร
ในเมือง Nissan Kick 27.03 กิโลเมตร/ลิตร
ในเมือง C-HR Hybrid 24.40 กิโลเมตร/ลิตร
นอกเมือง Nissan Kick 22.22 กิโลเมตร/ลิตร
นอกเมือง C-HR Hybrid 23.81กิโลเมตร/ลิตร
สภาวะรวม Nissan Kick 23.81กิโลเมตร/ลิตร
สภาวะรวม C-HR Hybrid 24.40 กิโลเมตร/ลิตร
และเปรียบเทียบกับอีโคคาร์ตัวล่าสุดของค่าย อย่างนิสัน Almera ตัวใหม่ ที่ในเมืองทำได้ 20 กิโลเมตร/ลิตร ประหยัดกว่าอีโคคาร์ซะงั้น (แต่นอกเมืองสู้ Almera ไม่ได้น่อ)
เรียกได้ว่าเป็น Compact SUV ที่ตอบโจทย์คนเมืองมั่ก ๆ 👍
แหม่ ถ้านิสสันเอา e-Power ลง Almera แล้วราคาไม่เกิน 7 แสนนะ ผมซื้อแน่นอน (ถ้ามีตังนะ) 😁
ทั้งนี้ e-Power นี้นิสสันก็ได้เปิดตัวไปก่อนหน้าแล้วในต่างประเทศกับ Nissan Note และ SERENA
Nissan Note และ SERENA
ก็เริ่มเห็นการขยับตัวของค่ายรถในการเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมรถยนต์จากรถใช้น้ำมันไปเป็นรถไฮบริดก่อนจะไปสู่รถไฟฟ้า มาวันนี้รถไฮบริดอีกรูปแบบก็ออกมาให้เราได้เลือกใช้ในราคาที่เรียกได้ว่าไม่แตกต่างจากรถน้ำมันแล้ว
ตอบโจทย์ลูกค้าที่ยังกังวลระบบรถ EV กังวลเรื่องแบต การชาร์จไฟ ได้ประหยัดน้ำมัน ลดมลพิษ และเป็นการทยอยเปลี่ยนผ่านที่เป็นมิตรกับพาร์ทเนอร์ธุรกิจผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ด้วย
1
แผนภาพเปรียบเทียบ 3 ระบบ
และหวังว่าจะได้เห็นรถ EV จากค่ายรถใหญ่ ๆ ในราคาที่เท่าเทียมกับรถใช้น้ำมันออกมาให้เป็นตัวเลือกในเร็ววันเสียที 😉

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา