FOCUS : ความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐฯ ทวีความรุนแรงขึ้นกว่าเดิม หลังสมาชิกวุฒิสภาผ่านร่างกฎหมายเพื่อเพิกถอนบริษัทของจีนออกจากตลาดหุ้นอเมริกา ขณะที่จีนเตรียมออกกฎหมายใหม่ในด้านความมั่นคงของฮ่องกง โดยอาจทำให้ฮ่องกงสิ้นสุดสถานะ "เขตปกครองพิเศษ" อย่างถาวร
สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่าวุฒิสภาของสหรัฐฯ ได้โหวตผ่านร่างกฎหมายเพิกถอนบริษัทของจีนหลายแห่งออกจากตลาดหุ้นของสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึง Alibaba และ Baidu อีกด้วย
ร่างกฎหมายนี้ถูกเสนอโดย John Kennedy จากฝ่าย Republican (อนุรักษ์นิยม) และ Chris Van Hollen จากฝ่าย Democrat (เสรีนิยม) และได้รับการโหวตผ่านด้วยคะแนนที่นำโด่ง
ฝ่ายกฎหมายของสหรัฐฯ ได้ส่งสัญญาณถึงสงครามทางการค้าอีกครั้งโดยการสั่งแบนเม็ดเงินมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ที่จะไหลเข้าสู่บริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่งของจีน
รายละเอียดเบื้องต้นของร่างกฎหมายดังกล่าว กำหนดให้บริษัทจีนทั้งหมดที่ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของคณะกรรมการกำกับดูแลการบัญชีแห่งสหรัฐฯ (PCAOB) ไม่สามารถอยู่ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้อีกต่อไป
ความหมายตรงนี้ อธิบายให้เข้าใจง่ายก็คือ "หากสหรัฐฯไม่สามารถตรวจสอบบัญชีของบริษัทจีนได้ บริษัทนั้นก็ไม่มีสิทธิจะอยู่ในตลาดหุ้นของสหรัฐฯ อีกต่อไป"
ซึ่ง ณ ปัจจุบันนี้มีบริษัทจีนถึงประมาณ 95% ที่สหรัฐฯ ไม่สามารถตรวจสอบบัญชีได้ โดยจากข้อมูลเบื้องต้นพบว่ามี 224 บริษัทที่เข้าข่าย ซึ่งมีมูลค่ารวมกันกว่า 1.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม John Kennedy กล่าวว่า "ผมไม่ได้ต้องการที่จะประกาศสงครามเย็นครั้งใหม่ แต่ผมต้องการให้จีนเล่นตามกฎหมาย"
"บริษัทเอกชนต่าง ๆ จำเป็นต้องใช้มาตรการเดียวกันทั้งหมด และกฎหมายนี้ถือเป็น Common Sense สำหรับการเปลี่ยนแปลงเพื่อเพิ่มความโปร่งใสให้แก่นักลงทุนในการที่จะได้รับข้อมูลเพียงพอเพื่อประกอบการตัดสินใจ"
"ผมภูมิใจมากที่เราสามารถผ่านร่างกฎหมายนี้ได้ภายในวันนี้ โดยได้รับการสนับสนุนจากทั้ง 2 ฝ่าย และผมได้ร้องขอให้เพื่อนร่วมงานในวุฒิสภาดำเนินการเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว"
ทางฝั่งทรัมป์ ล่าสุดได้ชี้นิ้วไปถึงสี จิ้นผิงอย่างชัดเจน โดยกล่าวหาว่าผู้นำของจีนนั้นเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง การบิดเบือนข้อมูล รวมถึงการโฆษณาชวนเชื่อในสหรัฐฯ และยุโรป
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ Fox Business ว่าเขากำลังจับตาดูบริษัทของจีนที่มีการซื้อขายอยู่ใน NYSE และ Nasdaq ของสหรัฐฯ แต่ไม่ได้ปฏิบัติตามกฎหมายข้อบังคับของสหรัฐฯ
นอกจากนี้เขายังได้กล่าวเสริมว่า "การแตกหักอาจย้อนกลับมา และจะส่งผลให้บริษัทของจีนต้องเปลี่ยนไปซื้อขายในตลาดลอนดอนหรือฮ่องกงแทน
และล่าสุดในวันนี้เอง จีนได้ประกาศเตรียมออกกฎหมายด้านความมั่นคงในฮ่องกงฉบับใหม่ หลังจากเกิดเหตุการณ์ประท้วงขึ้นในช่วงปีที่แล้ว ขณะที่สหรัฐฯ กล่าวว่าพวกเขาจะใช้มาตรการตอบโต้อย่างแข็งแกร่ง หากจีนคิดจะเข้าควบคุมประเทศที่เคยเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ
โดยรายละเอียดของมาตรการดังกล่าวนี้ยังไม่ได้มีการเปิดเผยรายละเอียดอื่นใดออกมาสู่สาธารณชน เท่าที่ทราบก็มีเพียงแต่ว่า "กฎหมายดังกล่าวอาจเป็นการสิ้นสุดสถานะเขตปกครองพิเศษของฮ่องกงอย่างถาวร"
"ผมคาดว่าสถานะความเป็นประเทศนานาชาติของฮ่องกงจะหายไปในเร็ว ๆ นี้" Dennis Kwok ซึ่งเป็น 1 ในผู้ร่างกฎหมายของฮ่องกงกล่าว
หากสถานะความเป็นนานาชาติของฮ่องกงสิ้นสุดลง แน่นอนว่ามันจะส่งผลกระทบต่อประชากรของสหรัฐฯ กว่า 85,000 คนที่อยู่ในฮ่องกง รวมถึงบริษัทของสหรัฐฯ อีกกว่า 1,300 แห่งที่วางรากฐานอยู่ในฮ่องกง ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ทางด้านการเงินของสหรัฐฯ อีกด้วย
"เมื่อใดที่ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้น คำว่า 1 ประเทศ 2 ระบบสำหรับจีนและฮ่องกงจะถูกลบออกอย่างถาวร" Dennis Kwok กล่าว
แต่เรื่องยังไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะล่าสุดเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา วุฒิสมาชิกของสหรัฐฯ ได้เสนอกฎหมายใหม่ล่าสุดยิ่งกว่าการปลดบริษัทจีนออกจากตลาดหุ้น ซึ่งก็คือ...
"การเสนอให้สหรัฐฯ ออกกฎหมายเพิ่มเติมเพื่อลงโทษหน่วยงานของจีนที่เกี่ยวข้องกับการบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ในฮ่องกง รวมถึงลงโทษธนาคารที่ทำธุรกิจกับหน่วยงานเหล่านั้น"
Comment : จากข่าวล่าสุดที่ออกมานี้ World Maker กำลังเห็นว่าเรื่องนี้ชักจะบานปลายขึ้นไปเรื่อย ๆ แล้ว และมีแนวโน้มสูงมากที่จะรุนแรงขึ้นกว่านี้อีก ถือว่าน่าเป็นห่วงครับ ต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิดเลยทีเดียว
การกดไลค์ กดแชร์ กดติดตาม และการติชมในเชิงสร้างสรรค์ของคุณ เป็นกำลังใจให้เราและเหล่าอาชีพนักเขียนทุกคนในการพัฒนาผลงานให้ดียิ่งขึ้นต่อไป ขอเชิญทุกท่านร่วมสร้างสังคมการเรียนรู้ที่ดีด้วยกันกับเรา
World Maker
สามารถติดตาม World Maker ผ่านทาง Facebook ได้แล้ววันนี้ที่
References :
- 68
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
