22 พ.ค. 2020 เวลา 01:19 • ครอบครัว & เด็ก
"ตราบเท่าที่เรายังต้องแลกชีวิตกับค่าจ้าง"
"เราก็ยังต้องถูกบีบให้เอาตัวรอดแล้วมีทางเลือกจำกัด"
"ถ้าเราสะสมและเรียนรู้ให้เงินทำงานให้เราเราก็จะเป็นอิสระ"
(จากหนังสือรวยทรัพย์เพราะพ่อสอน)
ในช่วงที่ covid-19 เริ่มระบาดเพื่อนของผู้เขียนได้โทรมาด้วยเสียงที่เครียดและระบายกับผู้เขียนว่า
"เช็คยังไม่ออกเลย"
เพื่อนทำงานเป็นเอาซอสไว้กับธนาคารแห่งหนึ่งเมื่อโทรไปทวงหนักๆเข้าฝ่ายบัญชีก็บอกว่าไม่รู้เรื่อง'ส่วนคนที่รับเรื่องก็บอกว่าเงินกำลังจะออก โดยรวมแล้วตีเป็นเงินกว่า 2 แสนบาท
เพื่อนของผู้เขียนไม่มีเงินออมฉุกเฉินเลยทำให้เกิดความวิตกจริตอย่างมากทวงหนัก ๆ เข้าก็ยังไม่ได้เงินทำให้ก่อเกิดเป็นความเครียดหนักเข้าไปอีกท้อแท้สิ้นหวัง
"เราอุตส่าห์เร่งงานให้เขาจนเสร็จทันเวลาทำไมเขาทำกับเราแบบนี้"
วันหยุดยาวเนื่องจากภาวะไวรัสระบาดผู้เขียนได้มีโอกาสอ่านหนังสือเรื่อง
"รวยทรัพย์เพราะพ่อสอน" หรือ wisdom daddy taught me:The path from poverty to prosperity เขียนจากชีวิตจริงของ ซูซาน ชอร์ท ซึ่งเปิดเผยความสุขุมนุ่มลึกซึ้งของคุณพ่อซูซานที่สอนให้ลูกสาวรู้จักการบริหารเงิน
"จงจ่ายให้ตัวเองก่อน" คือสอนพลังของการออมเงินที่ผู้เขียนย้ำนักย้ำหนามาหลายบทแล้ว โค้ชการเงินระดับโลกก็ย้ำว่าให้ผู้คนหัดดูแลอนาคตทางการเงินของตัวเองและสอนถึงผลเสียของการพึ่งพาผู้อื่นเช่น
ผู้หญิงที่ต้องพึ่งพาสามีเป็นฝ่ายหาเลี้ยง ว่ามันนำพาผู้หญิงไปสู่หายนะมาเยอะแล้วตราบใดที่เราต้องแลกชีวิตของเรากับค่าจ้าง
เราจะใช้ชีวิตแบบเอาตัวรอดไปวันต่อวันและมีทางเลือกจำกัดเต็มที
เรื่องน่าเศร้าของเพื่อนผู้รอเงินค่าจ้างจดอัดอั้นท้อแท้เรื่องของตัวเองที่ต้องรอคำตอบจากธนาคารที่ไม่ใส่ใจ
ทุกเรื่องที่มีต้นตอมาจากเรื่องเดียวกันทั้งสิ้นคือใช้ชีวิตแบบพึ่งพารอความเมตตาจากคนอื่นที่ไม่ใช่ตัวเอง
โฆษณา