ถ้าหากถามว่าธุรกิจอะไรที่เสี่ยงเจ๊งบ้างในยุคที่ไวรัส COVID-19 ระบาด หลายคนคงตอบว่าร้านอาหาร ร้านบุฟเฟต์ หรือธุรกิจทัวร์กัน เพราะได้รับผลกระทบกันเต็มๆจากการชัทดาวน์อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และการล็อคดาวน์ แต่จริงๆมีอีกอุตสาหกรรมหนึ่งที่กำลังถูกคุกคามไม่แพ้กัน นั่นคือ ธุรกิจโรงหนัง และโรงละคร
อย่างที่ทราบๆกันดีว่าตั้งแต่เริ่มมีการล็อคดาวน์มาโรงหนัง โรงละคร โรงมหรสพต่างๆถูกสั่งปิดกันทั่วโลก โดยแทบไม่สามารถที่จะมีแผนสอง หรือ ออกแผนสำรองออกมาใช้ในการหาเงิน หารายได้เสริมเลย อย่างร้านอาหารนั้นยังดีหน่อย คือ ร้านไหนยังพอมีวัตถุดิบ
ถึงร้านจะปิด และไม่สามารถให้ลูกค้ามานั่งที่ร้านได้ ก็ยังมีระบบการเดลิเวอรี่ การส่งอาหารไปตามบ้าน หรือส่งอาหารทางไกลข้ามจังหวัดด้วยการแช่แข็ง แต่ถ้าหันมาดูที่โรงหนัง โรงละคร ซึ่งโดยธรรมชาติเดิมของมันแล้วเป็นธุรกิจที่ Work From Home หรือพึ่งพาการเดลิเวอรี่ไม่ได้
เมื่อก่อนเราอาจจะดูหนังแบบเดลิเวอรี่ได้ เพราะมีระบบเช่าหนังแบบ Blockbuster หรือร้านสึทาย่า เดี๋ยวนี้ดูหนังจากบ้านแม้จะมีระบบเดลิเวอรี่แบบ Netflix, Amazon Prime หรือ HBO และอื่นๆ แต่มันดันเป็นธุรกิจที่ตั้งใจจะมาแข่งกับธุรกิจโรงหนัง โรงละคร
รายได้ของการดูหนังแบบที่บ้านจึงไม่เข้ากลับไปที่ผู้ประกอบโรงหนัง แบบที่ร้านอาหารหันมาใช้ Grab และ Food Panda เห็นไหมครับ โรงหนัง โรงละคร ขยับตัวแทบไม่ได้เลยในยุค COVID-19 ระบาด ไม่ว่าประเทศไหนก็ปิดยาว ขนาดตอนนี้เริ่มมีหลายประเทศทำการคลายล็อคดาวน์
อนุญาตให้เปิดร้านอาหาร ร้านเหล้า ร้านเบียร์ ห้างสรรพสินค้ากันแล้ว แต่โรงหนัง โรงละครกลับเป็นสถานที่ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้เปิด เพราะเสี่ยงเกินไป เป็นสถานที่ที่นำคนจำนวนมากมาอยู่ในที่ที่เดียวกันโดยเปิดทั้งแอร์ และมีห้องที่ปิดทึบ ต่อให้นั่งห่างกัน ก็มีโอกาสสูงในการแพร่เชื้ออยู่ดี
เอาง่ายๆถ้าอยากให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น ไตรมาสแรกนี้ โรงหนังในจีนเนี่ยสูญเสียเม็ดเงินไปแล้วมากกว่า 2,000,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ ตอนนี้ไตรมาสที่ 2 ผ่านมาครึ่งหนึ่งแล้ว จีนมีแววไวรัสจะกลับมาระบาดอีกครั้ง เดี๋ยวคงได้ปิดโรงหนังยาวแน่ ถ้ารัฐบาลสั่งล็อคดาวน์หลายๆมณฑลอีกรอบ
ทั้งโรงหนังโรงละคร ถ้ารวมมูลค่าที่สูญเสียไปในปี 2020 นี้อาจพุ่งสูงเกิน 100,000,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ เพราะหนังคงไม่สามารถฉายในโรงหนังได้อีกนาน เช่นเดียวกับละครเวที ไม่ว่าจะ Broadway หรือ Westend ที่อังกฤษ ก็คงต้องงดขายบัตร ขายตั๋วละครเวทีไปอีกไม่ต่ำกว่า 2 เดือน
วิกฤติครั้งนี้โรงหนัง โรงละครโดนถล่มยับไม่แพ้ภาคส่วนอื่นๆเลย ต่างกันแค่ว่าโรงหนัง กับโรงละครมันยังปรับตัวเข้าหาทางรอดของการถูกเทคโนโลยีและไวรัส COVID-19 เข้ามา Disrupt ได้ลำบากกว่าธุรกิจร้านอาหาร และเครื่องบิน เพราะโรงหนัง โรงละครมันเป็นความบันเทิงที่ไม่จำเป็น หากอยู่ในสภาวะเศรษฐกิจที่ต้องรัดเข็มขัด
ผู้คนก็ตัดออกจากรายการสิ่งที่ตัวเองอยากทำได้ หันไปดู Netflix ที่บ้านก็ได้ แต่ในขณะที่ของกิน ร้านอาหาร ร้านกาแฟ สายการบิน แม้ว่าตอนนี้จะโดนความเสียหายหนัก แต่ท้ายที่สุดแล้วมันยังเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวัน ผู้คนต้องกิน ต้องเดินทาง ยังไงก็เสียหายในระยะยาวไม่เท่ากับโรงหนัง โรงละครอยู่ดี
References
1. บทความจากหนังสือพิมพ์ The Guardian ชื่อ "British theatre 'on brink of total collapse', says top producer"
2. บทความจาก The Quartz ชื่อ "Coronavirus is pushing an already vulnerable film industry closer to the edge"
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
