26 พ.ค. 2020 เวลา 03:33 • ธุรกิจ
เศรษฐศาสตร์การพิมพ์เงิน กับอัพเดตตลาดหุ้นไทย 26 พค.63
ก่อนที่จะเกิดวิกฤต GDP ตลาดหุ้น set index
GDP=money supply x velocity
18= 2 x9 ตลาดหุ้น 1,800 จุด
GDP ของไทยมาจาก 3 ส่วน 1.ส่งออก 2.ท่องเที่ยว 3.การบริโภคในประเทศ
พอเกิดวิกฤตปิดประเทศ งดการท่องเที่ยว ปิดเมือง lockdown 50% GDP จะกลายเป็น
GDP= 2 x 2 = 4 ราคาตลาดหุ้นที่เหมาะสมคือ 400 จุด
ตลาดหุ้นช่วงนั้น จึงพุ่งลงจาก 1,600 จุด ลงไปต่ำสุด 970 จุดอย่างรวดเร็ว
FED ประกาศพิมพ์เงินแบบไม่อั้นเพื่ออุ้มเศรษฐกิจและตลาดหุ้น ส่งสัญญาณมาแบบนั้น
ของไทยก็มีการประกาศตั้งกองทุน 1 ล้านล้านบาทเพื่อพยุงตลาดหุ้นและพันธบัตร
ภาพจากไทยโพสต์
GDP = ( 2+1) x 2 =3 x 2 =6. เป้าหมายอยู่ที่ 600 จุด ถ้าเป็นแบบนั้น ดัชนีก็คงพุ่งลงต่อไป
หลังจากนั้นอีกไม่นานก็ประกาศ พรก. กู้เงินมาแก้ปัญหาเศรษฐกิจจากการปิดเมืองวงเงิน 1.9 ล้าน**ล้านบาท เพิ่มเข้ามา
**ประมาณ 2 ล้านล้านบาท ให้ตัวเลขมันคิดง่ายครับ
GDP = (3+2) x 2 = 5 x 2 =10 ดัชนีเป้าหมายขึ้นไป 1,000 จุด ทำให้ดัชนีสามารถมาทรงตัวแถวนี้ได้ รอดชีวิต
ช่วงหลังยอดผู้ติดเชื้อลดลงแทบจะเป็นศูนย์ ทำให้สามารถคลาย lockdown ได้มากขึ้นเรื่อย ๆ ผู้เขียนจึงคาดคะเนว่า velocity น่าจะกลับมาเป็น 3
GDP =5x3= 15 จุด ตลาดหุ้นจึงตั้งเป้าหมายใหม่ที่ 1,500 จุด กลับไปที่ 1,500 จุดภายในสิ้นปีนี้
แต่ข่าวล่าสุด คุณธนินท์ เจียรวนนท์ เสนอให้ออกพันธบัตร อีก 3 ล้านล้านบาท เพื่อมากระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งถ้ารัฐบาลเอาด้วย
GDP =5+3 x 3= 8*3= 24 เป้าหมายกลายเป็น 2,400 จุด ดัชนีหุ้นไทยจะพุ่งทะยานทะลุโลกไปเลยครับ ถ้ารัฐบาลเอาด้วย
แสดงว่าดัชนีหุ้นที่ 1,300 จุดก็ยังไม่แพง หุ้นไทยยังไปได้อีกไกล
หุ้นไทยยังขึ้นต่ออีกมากจากปริมาณเงินที่เพิ่มขึ้นมาในระบบ
และสาเหตุหลักจริง ๆ ที่เราต้องเพิ่มเงินในระบบ ก็เพื่อให้สมดุลกับปริมาณดอลลาร์สหรัฐที่พิมพ์เข้ามาเพิ่ม เพื่อรักษาค่าเงินที่ 32-33 บาทให้คงที่
โรคระบาดยังไงก็ต้องจากไป มันเป็นวิกฤตการณ์ชั่วคราวเท่านั้น
ถ้าชอบบทความนี้ อย่าลืมกดไลค์ กดแชร์ กดติดตาม ้พื่อจะได้ไม่พลาดบทความดี ๆ ต่อไป
อ้างอิง

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา