มีคำกล่าวที่เรามักจะได้ยินกันบ่อยๆ ว่า
"คนรวยวางแผนสำหรับวันพรุ่งนี้ คนจนวางแผนแค่เฉพาะวันนี้"
เชื่อได้เลยไม่ว่าใครได้ยินคำพูดนี้ตอกหน้าเข้าไป ต้องมีหน้าชา เจ็บปวด ขมขื่น และเกิดอาการไม่ชอบใจคนพูด กันบ้างล่ะ
แต่ว่า คำพูดที่ว่านี้ ดันเป็นคำพูดที่เป็นความจริง ที่คนฟังรับกันไม่ค่อยได้ซะด้วยสิ
งั้น เรามาดูกันว่า ทำไม คนที่สำเร็จจนร่ำรวย เขาถึงคิดแตกต่างจากคนที่ไม่เคยสำเร็จอะไรสักอย่างและยังยากจนอยู่เช่นเดิมกันดีกว่า
"สำเร็จ"
ขอยกตัวอย่างผู้ที่สร้างตัวด้วยมือเปล่าจนประสบความสำเร็จและร่ำรวยจวบจนทุกวันนี้นะ ถ้าพูดถึงการวางแผนของพวกเขาแล้วล่ะก็ กลุ่มคนที่ประสบความสำเร็จมักจะไม่ได้วางแผนเพื่อสร้างความมั่งคั้งให้กับตนเองแบบวันต่อวัน แต่พวกเขาได้วางแผนสำหรัลวันพรุ่งนี้ อาทิตย์ถัดไป เดือนถัดไป ปีถัดไป และยังวางแผนไว้สำหรับหลายสิบปีข้างหน้าอีกด้วย การกระทำเช่นนี้เราเรียกกันว่า "มองการไกล" พวกเขามองไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดนิ่ง จึงประสบความสำเร็จอย่างไม่หยุดยั้ง
ต่างจากคนที่ไม่เคยสำเร็จอะไรเลย ที่มองแค่เฉพาะวันนี้เท่านั้น วางแผนแค่เฉาะวันนี้อย่างเดียว แต่ยิ่งหน้าเศร้าเข้าไปใหญ่ที่คนที่ไม่ประสบความสำเร็จอะไรเลยมักจะไม่ชอบวางแผนใดๆทั้งสิ้น ปล่อยให้ชีวิตของตนไหลไปตามยถากรรม
ถ้ายัง งงๆอยู่ เราลองมานึกถึงคนที่ประสบความสำเร็จจากกิจการเล็กๆ จนขยายใหญ่โตขึ้นดูอีกทีนึง ลองสงสัยดูว่า ทำไมคนคนนี้ถึงร่ำรวยได้ ทั้งๆที่เมื่อหลายปีที่แล้วเราเห็นเขาทำกิจการเล็กๆ อยู่บ้านเช่า และไม่มีอะไรเลย แต่ทำไม วันนี้เขาถึงมีบ้าน มีตึกแถว มีรถ มีที่ดิน มีกิจการที่รุ่งเรือง มีชีวิตที่ดีขึ้น น่าสงสัยจริงๆ ว่าแล้วก็ลองนึกย้อนกลับไป
โดยสมมุติฐานที่เราจะมองคนที่ประสบความสำเร็จท่านนี้ มีสกิล "มองการไกล"
ขยายความเป็นฉากๆได้ ดังนี้
ในตอนที่เขาคิดที่จะทำกิจการเล็กๆสักอย่างนึง เขาไม่ได้คิดที่จะทำกิจการนั้นเพียงอย่างเดียว เพราะเขารู้เสมอว่าการทำกิจการเพียงอย่างเดียวอาจถึงวันที่พบทางตันได้สักวันหนึ่ง เขาจึงควรมีหลายๆกิจการเพื่อเกื้อหนุนกันและยังสามารถช้วยเหลือกิจการนั้นๆได้ในยามที่เกิดวิกฤต
เราจะเห็นได้ว่าแรกเริ่มนั้น เขาจะเริ่มจากกิจการเล็กๆและค่อยๆเก็บเงินเป็นจำนวนหนึ่งที่มากพอ เขาก็จะนำเงินก้อนนั้นไปซื้อ บ้าน ที่ดิน หรือ ตึกแถว เพื่อให้ผู้อื่นเช่า โดยที่เขาก็ยังคงเช่าบ้านและทำกิจการของเขาต่อไป
เวลาผ่านไปสักระยะนึง รายได้จากกิจการของเขามีมากขึ้นบวกกับรายได้จากการเก็บค่าเช่าของเขาทุกๆเดือนและยังมีเงินสะสมของเขา จนรวมกันเป็นเงินก้อนที่มากพอ พออ่านมาถึงตรงนี้แล้วหลายคนคงจะเดาถูกแน่นอนว่าเขานำเงินก้อนนั้นไปทำอะไร ..................................................................
ถูกต้องแล้ว คุณคิดถูก เขานำเงินก้อนนั้น ไปซื้อ บ้าน ที่ดิน หรือ ตึกแถว ใหม่อีกรอบ แต่เป็น บ้าน ที่ดิน ตึกแถว ที่มีสภาพดีกว่าและทำเลดีกว่าครั้งแรกที่เขาซื้อไว้เพื่อปล่อยเช่า และที่สำคัญการที่เขาใช้เงินก้อนล่าสุดไปซื้อทรัพย์สินใหม่นี้ เขาก็ไม่ได้คิดที่จะซื้อไว้เพื่ออยู่เอง และเขาก็ยังคงทำกิจการและอยู่บ้านเช่าต่อไป สิ่งนี้เรียกว่า "การสร้างทรัพย์สินที่มีพลังทวี" มันคือการต่อยอดเพื่อสร้างรายได้ให้กับครอบครัวของเขานั้นเอง
เงินก้อนใหม่ๆจากกิจการบวกกับเงินค่าเช่าทุกๆเดือนและการเก็บออมของเขา จะถูกนำไปลงทุนในรู)แบบเดิมซ้ำๆกันไป จนกลายเป็นกิจการบ้านเช่าใหญ่โต เจ้าของตึกแถวอสังหาฯและเศรษฐีที่ดิน ที่เก็บไว้เพื่อปล่อยเช่าหรือเก็บไว้ขายเพื่อเก๊งกำไร ต่อๆไป
เราจะเห็นได้ว่า คนที่วางแผนสำหรับวันพรุ่งนี้ มักจะประสบความสำเร็จภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปี
แต่ในขณะที่คนวางแผนรายวันหรือไม่วางแผนเลยไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี เขาก็จะไม่มีวันประสบความสำเร็จ
นี้คือ เรื่องจริง ของชีวิต
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
