24 พ.ค. 2020 เวลา 06:53 • ความคิดเห็น
ทองคำสินทรัพย์หดหู่ ภาค 2
....ความมั่งคั่ง ความงาม บนคราบเลือดและหยดน้ำตา....
ทาส และ ทอง เป็นของคู่กันเสมอมาแต่โบราณกาล...
1
....เมื่อมีทาส ก็ต้องมีการกดขี่อย่างไร้มนุษยธรรม นั่นจึงเป็นที่มาของคำว่า bloody gold หรือทองคำเลือด...
และคงไม่มีที่ไหนบนโลก ที่ขับเรื่องนี้จนเด่นชัดเท่าทวีปแอฟริกาอีกแล้ว....
ในยุคโบราณ
เราอาจจะรู้จักกันดีที่สุดก็คืออียิปต์ แต่ก็ยังมีอารยธรรมโบราณอีกมากมาย ที่ต้องขวนขวายในการหาทองคำ เพื่อมาตอบสนองกับเจ้าโลกในขณะนั้น ซึ่งก็คืออียิปต์
การทำเหมืองทองโบราณนั้นเป็นงานที่หนักมาก เพราะไม่มีเครื่องจักร คนทำนี่แทบการันตีได้เลยว่าไม่มีใครรอดชีวิต
...มันจึงต้องอาศัยแรงงานทาส...
แล้วจะเอาทาสที่ไหนล่ะ ?
แน่นอนว่าประชากรของอาณาจักรเอง แม้จะเป็นทาส แต่ในขณะเดียวกัน ก็ยังต้องเก็บไว้เป็นทหาร หรือผลิตอาหาร จะส่งไปตายในเหมืองย่อมไม่ได้
วิธีหาทาสในสมัยโบราณก็คือ เข้ายึดครองอาณาจักรอื่นเพื่อกวาดต้อนคนมาเป็นทาส
ดังนั้นพวกอียิปต์จึงทำสงครามกวาดต้อนคนเป็นจำนวนมาก พิชิตไปทั่วแอฟริกาเหนือและกลาง รวมถึงแถบคาบสมุทรอาระเบีย เพื่อนำคนมาเป็นทาส โดยเฉพาะอย่างยิ่งก็คือเชลยศึก
....เพื่อตอบสนองตัณหาของตน แม้ไม่มีการบันทึกแน่ชัด แต่แรงงานทาสที่ตายเพราะการทำเหมืองทองนั้น ต้องมีมากมายมหาศาลแน่นอน ถ้าดูจากปริมาณทองที่ได้มา
...ยังไม่นับรวมผู้ตายจากสงครามเพื่อการนี้อีกนะ...
...แรงงานทาสของชาวอียิปต์นั้น ไม่ได้มีแค่ชาวแอฟริกันผิวดำ. แต่ยังหมายรวมถึง ชาวซีเรีย ชาวฟินิเชีย หรือพวกแขกขาวในแอฟริกาเหนือและเปอร์เซียด้วย
....ที่สำคัญคือชาวยิว ก็เป็นหนึ่งในกลุ่มทาสของอิยิปต์ในขณะนั้น จนเป็นที่มาของการต่อต้าน จนเกิดศาสนายิว จนถึงคริสต์ในที่สุด
สุดท้ายเวรกรรมก็ตามทันชาวอียิปต์ เมื่อพวกเขาถูกโรมันพิชิต พวกเขาก็กลายเป็นทาสซะเอง. ทองที่เคยเก็บสะสมไว้ ทั้งในท้องพระคลังและสุสานพิรามิดต่างๆ ก็ถูกพวกโรมันขนกลับไปโรมหมด
...แต่ก็อีก พวกโรมันก็ไม่รอดบ่วงกรรมไปได้ ด้วยความที่พวกเขามีทองมาก จึงต้องเผชิญกับการปล้นชิงตลอดเวลา ทั้งจากชาวไวกิ้ง และพวกบาบาเรี่ยนทั้งหลาย(บาบาเรี่ยนเป็คำที่พวกโรมันใช้เรียกพวกนอกอารยธรรมของตน) จนถึงการจ่ายเพื่อยุติสมครามกับแอตติลลา เป็นจำนวนทองคำมหาศาล
....เรียกได้ว่าทองคำในยุคโบราณนั้น มีความตาย เลือดและน้ำตา เข้ามาเกี่ยวข้องกับมันในทุกขั้นตอนเลยทีเดียว...
ก็คิดเอาแล้วกัน ว่าจะต้องมีคนตายไปเท่าไหร่ กับไอ้ของที่กินไม่ได้ ทำเครื่องใช้ไม่ได้นี้ เพียงเพราะคำเดียวคือความมั่งคั่ง....
ในยุคล่าอาณานิคม
เมื่อชาวยุโรปเริ่มออกช่าดินแดนต่างๆ แม้พวกเขาจะอ้างการเผยแพร่ศาสนา หรือค้าขายก็ตาม แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า สิ่งที่พวกเขาต้องการจริงๆก็คือ ทองคำ อยู่นั่นเอง
เพราะสมัยนั้น ไม่มีเงินกระดาษแบบในปัจจุบันเป็นตัวกลางการซื้อขายระหว่างอาณาจักรต่างๆ จึงต้องใช้ทองคำเท่านั้น แม้แต่การแลกเปลี่ยนสินค้าโดยตรงก็ยังต้องใช้ทองคำมาเป็นมาตรฐานราคาสินค้า
เมื่อเป็นเช่นนั้น อาณาจักรต่างๆในยุโรปซึ่งมีขนาดเล็ก จึงต้องดั้นด้นไปสู่พื้นที่ห่างไกล เพื่อล่าทองคำ
แน่นอน พวกเขาคงขนคนไปไม่ได้มากเพื่อจะทำเหมืองทอง
สิ่งที่พวกเขาทำคือ การเข้ายึดอาณาจักรต่างๆ เพื่อนำคนมาเป็นทาสในการทำเหมืองทองนั่นเอง
หนึ่งในเจ้าโลกสมัยนั้นคือโปรตุเกส คือพวกแรกๆที่เข้าไปในทวีปแอฟริกา โดยพวเขาเข้าไปทางแอฟริกาตะวันตก ที่เรียกกันว่าพื้นที่แก้มแรดนั่นแหละ
พวกเขาเข้ายึดครองพื้นที่แถบนั้น เกณฑ์คนมากมายเพื่อมาเป็นทาสในการทำเหมืองทอง
พวกเขาอาศัยการเสี้ยม หนุนหลังผู้ปกครองอาณาจักรต่างๆ เพื่อให้ทำสงครามกันจนอ่อนแอและฉกฉวยผลประโยชน์อีกทอด
สมัยนั้น แถบแอฟริกาตะวันตก ก็มีอาณาจักรมากมาย จึงทำสงครามกันจนเละเทะ เปลี่ยนผู้ปกครองกันมากมาย ตั้งแต่จักรวรรดิกาน่า มาลี จนถึงจักรวรรดิซองไฮ เพราะเหตุผลเดียวก็คือ ทองคำ
ภาพวาดกษัตริย์ซองไฮ
ดินแดนที่ในปัจจุบันเป็นประเทศมาลีและกาน่า นี่แหละเขตขัดแย้งหนักเพราะมีทองคำมาก
และไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่ามันส่งผลตกทอดมาจนถึงปัจจุบันในรูปของสงครามชนเผ่า ยิ่งตอนหลังการเข้ามาของฝรั่งเศสทางไอวอรี่โคสต์ ก็ยิ่งทำให้มันเละเทะหนักขึ้นอีก สำหรับดินแดนแถบแอฟริกาตะวันตกในยุคนี้
...ส่วนเจ้าโลกอีกรายอย่างอังกฤษก็ไม่น้อยหน้า เข้ายึดครองแอฟริกาทางตอนใต้ ซึ่งอุดมไปด้วยทองคำ ยึดไว้เป็นอาณานิคมไว้นานจนเพิ่งมาปลดปล่อยในยุคหลังเนลสัน แมนเดลล่านี่เอง วิธีการก็เหมือนๆโปรตุเกส คือเสี้ยมให้เขาตีกัน ซึ่งแถบนี้จะมีบันทึกมากกว่า (ไว้ผมจะเล่าให้ฟังอีกทีนะครับ โดยเฉพาะเรื่องของซูลู จัดกะ)
....แต่ที่น่าทึ่งและโหดร้ายที่สุดในยุคนี้บนแผ่นดินแอฟริกาคือ การเข้าครอบครองคองโกของเบลเยี่ยม
ลีโอโปลด์ที่ 2
...เบลเยี่ยมนั้นได้ครอบครองคองโกโดยการสืบราชสมบัติของตัวกษัตริย์ในราชวงศ์ยุโรป ซึ่งมีความซับซ้อน หลังการแยกตัวจากเนเธอร์แลนด์ ในสมัยกษัตริย์ลีโอโปลด์ที่ 1
...เบลเยี่ยมนั้นเป็นประเทศเล็กๆเท่านั้น กำลังคนน้อย จึงต้องปกครองดินแดนอาณานิคมอย่างโหดร้ายเพื่อให้คนท้องถิ่นหวาดกลัว
...มันเกิดขึ้น ในช่วงกษัตริย์ลีโอโปลด์ที่ 2 ....
โดยทางเบลเยี่ยมนั้น อ้างว่าจะเข้าไปเพื่อเพาะปลูกยางพาราเป็นฉากหน้า ซึ่งพวกเขาก็ปลูกจริงๆนั่นแหละ
...แต่จุดประสงค์หลักๆก็ยังคงเป็นทองคำอยู่ดี....
ด้วยความที่เป็นประเทศขนาดเล็กมาก และเพิ่งก่อตั้ง จึงต้องการทองคำจำนวนมาก เพื่อหล่อเลี้ยงอาณาจักร ที่แทบไม่มีทรัพยกรอะไร ลำพังถ่านหินนั้นไม่พอยาไส้ และไม่ก่อให้เกิดความมั่งคั่งได้
ความต้องการที่มาก ในเวลาสั้นๆ ทำให้ต้องบังคับทาสซึ่งเป็นคนพื้นเมืองอย่างโหดร้ายกว่าที่อื่นๆ
มีการทรมาน ตัดมือตัดเท้า ทำงานกันหามรุ่งหามค่ำ เพื่อให้มีทองคำเพียงพอกับเป้าหมายที่ลีโอโปลด์กำหนด
การทำแบบนี้ ทำให้มีคนตายเป็นจำนวนมาก ว่ากันว่าไม่น้อยกว่าที่ฮิตเลอร์สังหารชาวยิวเลยทีเดียว
...เป็นแบบนั้นอยู่หลายสิบปี ซ้ำร้ายเมื่อช่วงเข้าสู่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 เลโอโปลด์ที่ 3 ภายใต้การหนุนหลังของเยอรมันก็ได้ขยายดินแดนออกไปอีก ทำให้เกิดการนองเลือดเพื่อทองคำมาใช้ในการสงครามอีกเป็นจำนวนมาก
...โชคดีที่เยอรมันแพ้สงครามจึงทำให้ลีโอโปลด์ ต้องสละบัลลังก์ และนำไปสู่การปลดปล่อยคองโกในยุคของกษัตริย์โบดวงในเวลาต่อมา จากการกดดันอย่างหนักของชาติต่างๆในยุโรป
แต่ทองคำที่เบลเยี่ยมได้มา มันมากมายมหาศาล
มากขนาดที่ว่า ประเทศเล็กๆซึ่งไม่มีทรัพยากรอะไร กลายเป็นประเทศมั่งคั่ง เป็นศูนย์กลางทางการเงิน ที่มั่นคงมาได้จนถึงปัจจุบันนี้ทีเดียว ทุกวันนี้ บรัสเซล ก็ยังคงเป็นศูนย์กลางการซื้อขายทองคำที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลกอยู่นั่นเอง
....ผลจากเลือดและน้ำตาทั้งสิ้น...
...และชะตากรรมของทาสแอฟริกาก็ไม่ได้สิ้นสุดแค่นั้น....
ยุคปัจจุบัน
แม้ว่าการมีทาสแบบเป็นทางการจะสิ้นสุดลงแล้ว แต่การใช้แรงงานทาสเพื่อแสวงหาทองคำนั้นยังคงอยู่ในแอฟริกา
แต่ยุคนี้จุดประสงค์และกลุ่มบุคคลนั้นเปลี่ยนไป
เปลี่ยนจากเจ้าอาณานิคมผิวขาว สู่การแย่งชิงอำนาจของเหล่าผู้นำต่างๆ ในแอฟริกาเอง
...มีทั้งผู้นำชนเผ่า ผู้นำทางศาสนา และนักการเมือง การทหาร
เมื่อต้องทำสงครามแย่งชิงอำนาจ สิ่งที่ต้องการก็คืออาวุธ
...จะใช้อะไรซื้อล่ะ? ในเมื่อเผ่าต่างๆ ก็ไม่ได้มีสกุลเงินอันเป็นที่ยอมรับ...
...ใช่แล้ว จะอะไรล่ะ ถ้าไม่ใช่ทองคำ...
เพราะสนธิสัญญาต่างๆในกฎหมายระหว่างประเทศ การซื้อขายอาวุธมันยาก
มหาอำนาจต่างๆจึงแอบขายกัน โดยใช้ทองคำเป็นตราสารสำคัญในการซื้อขาย ไม่ใช่เครดิตบนเงินกระดาษสกุลใด
...รัสเซีย คือเจ้ายุทธจักรในการค้าขายอาวุธผ่านทองคำเลือดนี้
ดูชัดๆ ปืนรัสเซียล้วน
...ไม่ใช่ว่าอเมริกาไม่มีนะ แต่มันไม่ชัดเจนและมากเท่า เพราะส่วนใหญ่อเมริกาจะใช้วิธีสนับสนุนทางการเงินตรงๆมากกว่าอาวุธ อาศัยดอลลาร์นั่นแหละ
...แต่ถึงแบบนั้นอาวุธที่ใช้ในสงครามชนเผ่าแอฟริกา 80-90% ก็คืออาวุธของรัสเซีย ที่ลักลอบขายโดยมีทองเป็นตัวกลางนั่นเอง
....มันมากขนาดว่า คาลานิชคอฟ AK 47 นั้นมีบนธงชาติกันเลยทีเดียวล่ะ ก็คิดเอาแล้วกัน
ธงชาติโมซัมบิค
เมื่อต้องใช้ทองซื้ออาวุธ เวรกรรมก็ตกอยู่กับชาวบ้านตาดำๆ
เพื่อให้ได้ทองมากๆ เด็ก ผู้หญิง คนแก่ ต่างถูกบังคับมาเป็นแรงงานทาสเพื่อการทำเหมืองอย่างโหดร้าย อาจโหดร้ายมากกว่ายุคอาณานิคมซะด้วยซ้ำ
....ใช้เลือดและแรงงานเพื่อทองคำไปแลกเป็นอาวุธ และนำอาวุธมาใช้หลั่งเลือดเพื่อทองคำอีกครั้ง เป็นแบบนี้ไปไม่มีที่สิ้นสุด น่าอนาถยิ่งนัก....
อีกวงการในปัจจุบันที่ทองคำเข้าไปมีส่วนก็คือยาเสพติด
...เพราะมันไม่สามารถตามเส้นทางทางกาคเงินได้ ทองคำจึงเป็นอะไรที่ราชายาเสพติดให้ความนิยมทั่วโลก
1
...ดูแค่บ้านเราก็ได้ จับยาทีแล้วต้องทองหลายร้อยบาทแทบทุกครั้ง แล้วระดับราชาอย่างขุนส่า เอสโคบา ล่ะ จะมีมากมายขนาดไหนก็คิดกันดู
...และคนอีกเท่าไหร่เพื่อตายไปเพราะการนั้น...
ทองคำ เป็นสินทรัพย์ประเภทเดียวที่ถูกฟอกได้โดยถูกกฎหมายในปัจจุบัน ทั่วโลก
ไม่เคยมีของกลางที่เป็นทองคำ ถูกทำลายทิ้ง
มันอาจถูกขายทอดตลาด เพื่อหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจให้ถูกต้องได้
ดังนั้น ประเทศค้าอาวุธอย่างรัสเซียที่จริงแล้วคงมีทองคำมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์กันอีกมาก
รวมถึงทองคำในระบบมันก็มากกว่าทฤษฎีของนักเศรษฐศาสตร์มากมายนัก
เพราะจากอดีตถึงปัจจุบันจากเจ้าของหนึ่งสู่เจ้าของหนึ่ง มันถูกฟอก ถูกหมุนเวียนตลอดแบบไม่จบสิ้น ไม่เคยหายไปจากระบบ
...จะเกิดอะไรขึ้นถ้าทองคำจะเป็นตราสารหลักของโลก ผมคงไม่ต้องอธิบายนะครับ ....
....ยังจะคราบน้ำตาจากผู้ได้รับมลพิษของเหมืองอีกเท่าไหร่ล่ะที่จะต้องตายลงไปตลอดประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา...
ผมจึงไม่เคยรักทองคำแม้แต่น้อย แม้ว่ามันจะสร้างรายได้จากการเทรดให้ผมได้ก็ตาม แต่ผมไม่เคยซื้อมันเป็นเครื่องประดับหรือครอบครองทองคำแท่งเลย
....บางทีบนสร้อยคอของท่าน ลองดูดีก็อาจจะเห็นรอยเลือดและน้ำตานะ ท่านไม่มีวันรู้หรอกว่ามันมาจากไหน ท่านยินดีจะใส่มันรึเปล่าล่ะ...
...นี่แหละ สินทรัพย์แห่งความโลภ ที่ใช้ประโยชน์อะไรได้ไม่เท่าเหล็ก แต่คนก็ยังฆ่ากันเพื่อมันมากกว่าสิ่งใด....
...สินทรัพย์แห่งเลือดและน้ำตา ตลอดกาล....
ปล. ถึงคุณเป้ย เขียนให้ตามสัญญาแล้วนะครับ😅
โฆษณา