24 พ.ค. 2020 เวลา 14:39 • ศิลปะ & ออกแบบ
3 เทคนิค Less is more
วิธีเติมความเรียบง่ายที่แสนยาก บนงานออกแบบโลโก้ของคุณ
"น้อยแต่มาก เรียบแต่โก้ ไฮแฟชั่น" คือนิยามของคำว่า Less is more
ความเยอะ เป็นสิ่งที่ดี หากมันมีอยู่กับสิ่งที่เรียกว่า “เงิน” แต่คงอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ดีสักเท่าไหร่ หากมันอยู่ในสิ่งที่เรียกว่า “โลโก้”
เชื่อไหมว่า บ่อยครั้งกับงานที่มีพลังและ Impact ต่อเรามาก ๆ ก็มักจะเกิดจากการออกแบบที่เรียบง่าย ซึ่งหากดูในภาพใหญ่ อย่างการออกแบบดีไซน์โลโก้ของแบรนด์ระดับโลก ที่มีการนำเสนอออกมาอย่างเรียบง่าย แต่มีพลังในการดึงดูดความสนใจ และสร้างความจดจำต่อเราเป็นอย่างมาก
ซึ่งแน่นอนว่ามันคงดีแน่ ๆ หากเราสามารถเอาวิธีเหล่านี้ มาใช้กับงานออกแบบโลโก้ของตนเองได้ แต่ปัญหามันติดตรงที่ว่า “ความเรียบง่าย” เหล่านั้น วิธีการทำมัน “แสนยาก” แบบสุด ๆ
การทำเรื่องง่าย ให้เป็นเรื่องยาก อาจจะไม่ยาก เท่าการทำเรื่องยาก ให้เป็นเรื่องง่าย !
ทำให้เป็นที่มาของบทความนี้ ที่เราจะมาแนะนำกับ 3 วิธีเติมความเรียบง่าย ที่แสนยากเหล่านี้ ลงไปบนงานออกแบบโลโก้ของคุณ ซึ่งเทคนิคการเติมความ Less is more นี้นั้น จะมีอะไรบ้าง … ตามมาดูกัน
1. Color is less
สิ่งแรก สิ่งหนึ่งที่ควรมีให้น้อยที่สุดบนโลโก้ ก็คือสี เพราะการที่ใช้สีที่เยอะมากเกินไป ในการออกแบบโลโก้ จะทำให้โลโก้ของคุณดูวุ่นวาย ไม่สบายตา แต่มากไปกว่านั้นก็คือ มันจะทำให้งานไม่กลมกล่อมอีกด้วย
กล่าวคือ อย่างที่บอกไปหากโลโก้เป็นเหมือนกับอาหาร แล้วเปรียบสีเป็นเครื่องปรุงต่าง ๆ ยิ่งใช้สีเยอะ รสชาติก็จะยิ่งเยอะ ยิ่งแย่งกันโดดเด่น ซึ่งมันคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ ๆ ที่การปรุงอาหาร หรือ การออกแบบของคุณ จะเปรี้ยวนำ หวานโดด หรือเค็มปี๋ ดังนั้น ควรเลือกใช้สีเพียง 2-3 สี เพียงเท่านั้นในโลโก้ และมันจะนำมาซึ่งความเรียบง่ายอย่างแน่นอน นอกเหนือจากนี้ การใช้สีที่ไม่มากก็จะทำให้คนจดจำงานของเราได้ดีและมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
2. Text is less
ที่ไปที่มาเทคนิคการออกแบบโลโก้ ที่ควรใช้ตัว Text ให้น้อยที่สุด มาจากการศึกษาทดลองเกี่ยวกับความสามารถในการรับรู้ของสมองคนเรา ซึ่งสรุปผลการศึกษาทดลองแล้วพบว่า
“สมองของคนเรา สามารถรับรู้ข้อมูลที่เป็นภาพ ได้มากกว่าตัวอักษร”
โดยเนื่องจาก หนึ่งหน้าที่ของโลโก้ คือการสร้างความจดจำ ดังนั้นก็ยิ่งจะจำเป็นต้องนำเทคนิคนี้มาใช้ และไม่ควรพลาดที่จะไม่ใช้อีกด้วย แต่เชื่อว่าคงมีคำถามเกิดขึ้นมาในใจว่า เมื่อไม่ให้ใช้ตัว Text แล้วจะใช้อะไรในการสื่อความหมายไปยังธุรกิจล่ะ !?
… คำตอบง่าย ๆ เลยก็คือ การใช้ภาพ หรือ สัญลักษณ์ เข้ามาช่วยแทนในส่วนนี้ ซึ่งแน่นอนว่ามันสื่อความหมายได้อย่างชัดเจน และเป็นสากลได้มากกว่าการใช้ Text หรือจะให้เห็นภาพง่าย ๆ ว่ามันเป็นสากลยังไง ก็คือเทคนิคนี้คุณไม่จำเป็นต้องอ่านหนังสือ หรือแปลความหมายในโลโก้ออกก็ได้ แต่ก็ยังสามารถเข้าใจได้ว่า โลโก้ที่เห็น เกี่ยวข้องกับธุรกิจอะไรนั่นเอง
3. Style font is less
เทคนิคข้อนี้ ขอให้เหล่านักออกแบบทั้งหลาย จงท่องจำและนำไปใช้ ! นั่นก็คือการเลือกใช้ Font ที่เน้นย้ำตรงนี้เลยว่า อย่าให้ Font ที่มี Style แตกต่างกันเกิน 2 รูปแบบ บนงานออกแบบโลโก้ของคุณโดยเด็ดขาด เพราะนั่น มันจะนำมาซึ่งความไม่เป็นเอกภาพของโลโก้
ซึ่งความเป็นเอกภาพเหล่านั้น ก็จะมาลบคำว่า Less is more ในงานออกแบบโลโก้ของคุณอย่างแน่นอน ดังนั้น อย่าปล่อยให้ข้อผิดพลาดเล็ก ๆ เหล่านี้ มาทำให้โลโก้ของคุณมีคุณค่าที่ลดน้อยลงไปล่ะ แนะนำให้การออกแบบคราวหน้าให้คุณเซ็ท Font หลักขึ้นมาหนึ่งตัว และค่อยหา Font เสริมขึ้นมาอีกหนึ่งตัว จากนั้นก็ใช้เพียงแค่นี้ ก็คงเพียงพอแล้วสำหรับการออกแบบโลโก้
อย่างที่ได้บอกไป ความเยอะ ใช่ว่าจะดีกับทุก ๆ เรื่อง เพราะบางครั้งส่วนที่เยอะจนล้น อาจจะไม่ได้ทำให้งานดูดี และมีคุณภาพที่มากขึ้น หากแต่กลับล้นไปจนมองไม่เห็นส่วนที่ดีงามของงานอีกด้วย
ดังนั้น ถึงเวลาแล้วที่จะไม่ปล่อยให้ความเยอะ มาทำให้โลโก้ของคุณเละ มาเติมความเรียบง่ายสไตล์ Less is more บนโลโก้ของคุณ กับเทคนิคที่เราเอามาฝากกันในวันนี้กันเถอะ รับรองได้เลยว่า งานของคุณจะ เรียบแต่โก้ ไฮแฟชั่นแน่นอน !
ติดตามอ่านบทความสร้างสรรค์ สร้างแรงบันดาลใจ และ แบ่งปันทริคง่าย ๆ
ผ่านบทความ การสร้างแบรนด์ ธุรกิจ ดีไซน์ เพิ่มเติมได้ที่ :
โฆษณา