25 พ.ค. 2020 เวลา 04:05 • ธุรกิจ
รัสเซีย เทขายพันธบัตรสหรัฐฯ เกือบทั้งหมด และเก็บทองคำเข้าทุนสำรองฯ มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ทางด้านผู้นำเกาหลีเหนือยืนยันจะทำการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ต่อไป !!! / โดย คลินิกการลงทุน
รัสเซีย เทขายพันธบัตรสหรัฐฯ เกือบทั้งหมด และเก็บทองคำเข้าทุนสำรองฯ มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ทางด้านผู้นำเกาหลีเหนือยืนยันจะทำการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ต่อไป !!! / โดย คลินิกการลงทุน
เมื่อช่วงเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา รัฐบาลรัสเซีย ได้ประกาศเทขายสินทรัพย์ต่างๆ ของสหรัฐฯ มูลค่ากว่า 8.73 พันล้านเหรียญฯ รวมถึงได้เทขายพันธบัตรดอลลาร์กว่า 96% ของที่ถือครองอยู่ทั้งหมด ทำให้ปัจจุบันรัสเซียถือครองพันธบัตรสหรัฐฯ อยู่เพียง 3.8 พันล้านเหรียญฯ ซึ่งลดลงอย่างมากจากเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ที่ถือครองอยู่ที่ 1.05 แสนล้านเหรียญฯ ทำให้ในตอนนี้ รัสเซียถือครองสินทรัพย์ของสหรัฐฯ เหลืออยู่เพียง 473 ล้านเหรียญฯ
© Getty Images
จากรายงานในเดือนมีนาคม พบว่า ญี่ปุ่นยังคงเป็นผู้ถือครองพันธบัตรสหรัฐฯ (เป็นเจ้าหนี้สหรัฐฯ) มากที่สุดในโลก อยู่ที่ประมาณ 1.27 ล้านล้านเหรียญฯ นับตั้งแต่ปี 2019 ที่ผ่านมา ส่วนประเทศจีน ถือครองพันธบัตรสหรัฐฯ (เป็นเจ้าหนี้สหรัฐฯ) มากเป็นอันดับ 2 ของโลก แต่ก็กำลังทยอยเทขายออกมาอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา และหลายฝ่ายมองว่าจีนอาจเทขายพันธบัตรสหรัฐฯ ออกมาจนเกือบหมดในอนาคต
นอกจากนี้ ธนาคารกลางรัสเซียยังได้รายงานว่า รัสเซียได้เก็บทองคำเพิ่มเข้าไปในทุนสำรองของประเทศมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ รวมปริมาณการถือครองทั้งหมดประมาณ 2,298 ตัน มูลค่ากว่า 1.26 แสนล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าถึง 5.2% ทำให้ในปัจจุบันรัสเซียถือครองทองคำ และถือครองสกุลเงินต่างประเทศอีกประมาณ 4.4 แสนล้านเหรียญฯ รวมมูลค่าทั้งหมดกว่า 5.66 แสนล้านเหรียญฯ
2
President Trump and Russia’s President Vladimir Putin talk during the family photo session at the APEC Summit in Danang, Vietnam. Jonathan Ernst | Reuters
ทางด้านธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้ประกาศขยายมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 โดยได้ปรับเพิ่มวงเงินเข้าซื้อหุ้นกู้ภาคเอกชน (Commercial Paper) วงเงินรวมกว่า 1.86 ล้านเหรียญฯ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและรับมือผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19
นอกจากนี้ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ยังได้ประกาศยกเลิกเพดานวงเงินซื้อพันธบัตรรัฐบาล เป็นแบบไม่จำกัดวงเงิน เพื่อรักษาอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปี ให้คงอยู่ที่ระดับ 0% อีกทั้ง BOJ ยังมองว่า แนวโน้มเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะหดตัวลงประมาณ 3 - 5% ในปีงบประมาณ 2020 จากผลกระทบของโรคระบาดโควิด-19 อีกด้วย
Outside the Bank of Japan (BOJ) headquarters in Tokyo, Japan. Photographer: Kiyoshi Ota/Bloomberg
ทางด้านความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ นั้นเริ่มทวีความตึงเครียดมากขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังสมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมายเพิกถอนบริษัทจีนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ หลายบริษัท รวมถึง Alibaba และ Baidu ออกจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยรายละเอียดเบื้องต้นได้กำหนดให้บริษัทจีนทุกบริษัทที่ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของคณะกรรมการกำกับดูแลการบัญชีแห่งสหรัฐฯ (PCAOB) จะถูกเพิกถอนออกจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ
ขณะเดียวกัน จีนก็ได้ประกาศเตรียมผ่านกฎหมายด้านความมั่นคงของฮ่องกง หลังเกิดเหตุการณ์ชุมนุมประท้วงขึ้นอย่างยืดเยื้อนานหลานเดือน นับตั้งแต่ในช่วงปีที่แล้วจนถึงในปีนี้ ซึ่งมาตรการดังกล่าวนี้อาจทำให้ฮ่องกงสิ้นสุดสถานะเขตปกครองพิเศษไปอย่างถาวร อีกทั้งยังจะส่งผลกระทบต่อชาวอเมริกันกว่า 8.5 หมื่นคนในฮ่องกง รวมถึงบริษัทสัญชาติอเมริกันกว่า 1.3 พันบริษัทในฮ่องกงอีกด้วย โดยทางสหรัฐฯ ได้ออกมาบอกว่า หากจีนใช้มาตาการดังกล่าวจริง สหรัฐฯ ก็จะใช้มาตรการตอบโต้อย่างเต็มที่เช่นกัน
Cr. Bloomberg
ทางด้านเกาหลีเหนือ ผู้นำคิม จองอึน ได้ประกาศในการประชุมคณะกรรมาธิการทหารกลางของพรรคแรงงานในเกาหลีเหนือ ยืนยันว่า จะทำการพัฒนาศักยภาพของอาวุธนิวเคลียร์ให้มากขึ้นต่อไป เพื่อป้องกันประเทศจากภัยคุกคามภายนอก และเพื่อเพิ่มอำนาจในการต่อรองมากขึ้นหลังจากที่ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ พยายามเจรจาให้เกาหลีเหนือรื้อถอนโครงการอาวุธนิวเคลียร์ แต่ก็แทบจะไม่มีความคืบหน้าเลยนับตั้งแต่ปี 2019 ที่ผ่านมา จนถึงในปัจจุบัน
Image: GETTY
สำหรับตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลก ล่าสุด (25 พ.ค.) พุ่งสูงขึ้นเกือบ 5.5 ล้านรายแล้ว มีจำนวนผู้เสียชีวิตกว่า 3.46 แสนราย และมีจำนวนผู้ที่รักษาหายแล้วกว่า 2.3 ล้านราย โดยประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ สหรัฐฯ, บราซิล, รัสเซีย, สเปน และอังกฤษ ตามลำดับ
Source: www.worldometers.info
ส่วนตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐฯ ล่าสุด พุ่งขึ้นอยู่ที่กว่า 1.68 ล้านรายแล้ว มียอดผู้เสียชีวิตรวมเกือบ 1 แสนราย และมียอดรักษาหายแล้วกว่า 4.5 แสนราย โดยรัฐนิวยอร์คมีจำนวนผู้ติดเชื้อมากที่สุดอยู่ที่กว่า 3.7 แสนราย ยอด Active cases กว่า 2.77 แสนราย และเสียชีวิตกว่า 2.9 หมื่นราย ขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่รายวัน (Daily new cases) ของสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 23พ.ค. ที่ผ่านมา มีแนวโน้มลดลงมาอยู่ที่ 19,608 ราย
Source: www.worldometers.info
ส่วนตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในไทย ล่าสุด (24 พ.ค.) มียอดผู้ติดเชื้อรวมอยู่ที่ 3,040 ราย ยอด Active cases มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องเหลือเพียง 63 ราย มียอดผู้เสียชีวิตแล้ว 56 ราย และรักษาหายแล้ว 2,921 ราย ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อใหม่รายวัน (Daily new cases) มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวานนี้ไม่มีการตรวจพบผู้ติดเชื้อรายใหม่
Source: www.worldometers.info
อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายกังวลว่าการกลับมาเปิดเมืองและธุรกิจต่างๆ อีกครั้ง อาจจะทำให้เกิดการระบาดในระยะที่ 2 ตามมาอีกได้ และอาจจะทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง ซึ่งหลังจากการกลับมาเปิดเมืองในครั้งนี้ จำทำให้ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 มีแนวโน้มเป็นอย่างไรต่อไป ? ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ที่สำคัญคือ การ์ดอย่าตกเด็ดขาด สู้ๆ ครับ !!! ✌️
ฝากทุกท่านกดไลค์ กดแชร์ และกดติดตาม เป็นกำลังใจให้คลินิกการลงทุน และนักเขียนทุกคน เพื่อพัฒนาผลงานให้ดียิ่งขึ้นไป หรือ Comment ติชมในเชิงสร้างสรรค์ได้เลยครับ
💰💎📌 สนใจเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นกับ "หลักทรัพย์หยวนต้า (Yuanta Securities)" ติดต่อได้ที่ Inbox เพจ "คลินิกการลงทุน" คลิกที่ "Contact Us" ด้านล่างนี่ได้เลยครับ 👇👇👇
รัสเซีย เทขายพันธบัตรสหรัฐฯ เกือบทั้งหมด และเก็บทองคำเข้าทุนสำรองฯ มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ทางด้านผู้นำเกาหลีเหนือยืนยันจะทำการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ต่อไป !!! / โดย คลินิกการลงทุน
ช่องทางติดตาม "คลินิกการลงทุน"
#คลินิกการลงทุน
โฆษณา