ตุรกีประเทศเดียวเที่ยวได้ 2 ทวีป ตอนที่ 1 จุดท่องเที่ยวฝั่งยุโรป
ตุรกีประเทศเดียวเที่ยวได้ 2 ทวีป ตอนที่ 1 จุดท่องเที่ยวฝั่งยุโรป
ประเทศตุรกี ดินแดนที่มีอาณาบริเวณครอบคลุมใน 2 ทวีป โดยด้านตะวันออกอยู่ในทวีปเอเชียเป็นพื้นที่ส่วนใหญ่ โดยอีกส่วนเล็กด้านตะวันตก จะเป็นเขตของทวีปยุโรป ตอนที่ 1 นี้ จึงจะขอแนะนำ 5 สถานที่ท่องเที่ยวในส่วนยุโรปในเมืองอิสตันบูลกันก่อน ดังนี้นะคะ
1.ฮิปโปโดรม (Hippodrome) หรือจัตุรัสสุลต่านอะห์เมต (Sultanahmed Complex) ในอดีตเป็นลานแข่งม้าและเป็นศูนย์กลางของเมืองในยุคไบแซนไทน์ ตั้งอยู่ในกรุงอิสตันบูล ซึ่งควรวางแผนท่องเที่ยวจุดนี้เป็นจุดแรก สถานที่แห่งนี้มีความพิเศษ คือ เป็นที่ตั้งของเสาโบราณ 3 ต้น คือ
เสาโอเบลิสก์แห่งกษัตริย์เธโอโดเชียส (Theodosius Obelisk) เป็นเสารูปทรงสี่เหลี่ยมมีฐานกว้างแล้วค่อย ๆ เรียวยาวขึ้นไปเป็นยอดแหลม
เสางู (Bronze Serpentine Column) เป็นเสาบรอนซ์แกะลวดลายงูสามตัวพันเกี่ยวกันอยู่ เสารูปงู แรกเริ่มสูง 8 เมตร แต่เกิดชำรุดเสียหาย ปัจจุบันสูงแค่ 5 เมตร เป็นเสาแบบกรีกที่เก่าแก่ที่สุดในอิสตันบูล
เสาคอนสแตนติน (Column of Constantine) สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1483 เดิมจะเคลือบด้วยบรอนซ์ แต่ในช่วงสงครามครูเสด ถูกศัตรูหลอมเอาบรอนซ์ออกไป ปัจจุบันเหลือเพียงแค่เสาปูนเท่านั้น
2.สุเหร่าสีน้ำงิน (Blue Mosque)
จุดนี้เป็นจุดที่ 2 ที่สามารถเดินทางจากเสาหินไปสู่สุเหร่าสีน้ำเงิน แนะนำให้เข้าชมภายในก่อน แล้วจึงออกมาเก็บภาพกว้างที่ด้านหน้า สุเหร่าสีน้ำเงินเป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในอิสตันบูล ประเทศตุรกี สร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1609 – 1616 ว่ากันว่าแรงบันดาลใจของการสร้างสุเหร่าสีน้ำเงินแห่งนี้มาจากความต้องการเอาชนะความอลังการใหญ่โตของวิหารเซนต์โซเฟีย เหตุที่เรียกว่า สุเหร่าสีน้ำเงิน เนื่องจากกระเบื้องสีฟ้าล้อมรอบผนังในการออกแบบตกแต่งภายใน จุดนี้ห้ามพลาดในการเก็บภาพประทับใจเพราะถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญที่บ่งชี้ความยิ่งใหญ่ของประเทศตุรกี ซึ่งไม่ว่าท่านใดมาล้วนแต่จะตื่นเต้นกับความยิ่งใหญ่ สวยงาม ไม่ว่าจะเป็นช่วงฤดูกาลใดก็ตามนะคะ
3. ลานน้ำพุวงกลม ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างสุเหร่าสีน้ำเงินกับวิหารเซนต์โซเฟีย มีวิวที่สวยงามที่สามารถถ่ายภาพมุมด้านสุเหร่าสีน้ำเงินก็แปลกตา จะหันมาถ่ายภาพกับด้านวิหารก็ดูสวยดี จุดนี้เป็นจุดเชื่อมไปยังรถรางไฟฟ้าและวิหารเซนต์โซเฟีย ถ้ามาฤดูหนาวก็จะเห็นเด็กๆเล่นปาหิมะ ถ้ามาหน้าร้อนจะมีดนตรีและการแสดงที่น่าสนใจให้ชมกันอย่างเพลิดเพลิน และยังมีอาหารริมทางให้ชิมอย่างจุใจ
4. สุเหร่าเซนต์โซเฟีย หรือ วิหารเซนต์โซเฟีย (Mosque of Hagia Sophia)
ตั้งอยู่ตรงข้ามสุเหร่าสีน้ำเงิน สามารถเดินมาวงเวียนน้ำพุขนาดใหญ่เชื่อมถึงได้ไม่ไกลมาก สถานที่นี้มีความพิเศษ คือ เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกลำดับที่ 6 ในยุคกลาง สร้างในสมัยของจักรพรรดิจัสติเนียน แห่งจักรวรรดิไบแซนไทน์ เซนต์โซเฟีย แปลว่า โบสถ์แห่งปัญญาอันศักดิ์สิทธิ์ โดยเริ่มสร้างในปี 532 แล้วเสร็จในปี 537 และทำซ้ำอีกครั้งในปี 563 หลังการซ่อมแซมยอดโดมที่พังลงมาเพราะเหตุแผ่นดินไหว แต่เดิมเมื่อเริ่มสร้างเคยเป็นโบสถ์ของคริสต์ศาสนา นิกายอีสเทิร์นออร์ทอดอกซ์ ต่อมาถูกเปลี่ยนเป็นสุเหร่า และกลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์ในปัจจุบัน ด้วยความยิ่งใหญ่และสวยงาม จึงไม่ควรพลาดที่จะไปเยือนเป็นที่สุดนะคะ
5.พระราชวังโทพคาปึ (Topkapi Palace)
สถานที่จัดแสดงสมบัติอันล้ำค่า เช่น เพชร 96 กะรัต กริชทองประดับมรกต เครื่องลายครามจากจีน หยก มรกต ทับทิม และเครื่องทรงของสุลต่านในแต่ละยุคสมัย พระราชวังแห่งนี้สร้างขึ้นในสมัยสุลต่านเมห์เมตที่ 2 หรือ เมห์เมตผู้พิชิต ภายหลังที่ตีกรุงคอนสแตนติโนเปิลได้แล้ว ทรงมีพระประสงค์ที่จะให้เมืองนี้เป็นศูนย์กลางของอาณาจักรออตโตมัน จึงโปรดให้มีการสร้างพระราชวังแห่งนี้ขึ้นเป็นที่ประทับอย่างถาวร พระราชวังแห่งนี้มีอาณาบริเวณกว้างใหญ่กินเนื้อที่เกือบ 700,000 ตารางเมตร ล้อมรอบด้วยกำแพงสูงตามแนวฝั่งทะเลมาร์มาร่า ภายในพระราชวังโทพคาปึเป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติที่ตกแต่งอย่างหรูหรา มีอาณาบริเวณกว้าง ทั้งยังตั้งอยู่ในจุดที่สามารถชมวิวช่องแคบบอสฟอรัส
6.ล่องเรือช่องแคบบอสฟอรัส
เมื่อออกจากพระราชวัง จะมีเรือบริการให้เราสามารถนั่งชมทัศนียภาพและความสวยงามของอาคารบ้านเรือน 2 ฝั่งน้ำเป็นประสบการณ์ที่แสนสุขใจ ส่งท้ายทริปของวันที่ 1 ได้อย่างไม่เหนื่อยเกินไป
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
