😛😛 สะใจ..อีช้อยนัก ...🤭
🖼 ที่ดินมือเปล่า คือที่ดินที่ไม่มีเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ ซึ่งหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ คือโฉนดที่ดิน หรือโฉนดรุ่นเก่า ๆ เช่นโฉนดแผนที่ โฉนดตราจอง ดังนั้นนอกเหนือจากนี้ ก็เป็นที่ดินมือเปล่าซึ่งมีเพียงสิทธครอบครอง แม้แต่หนังสือรับรองการทำประโยชน์ ( น.ส. 3 หรือ น.ส. 3 ก ) ก็ถือว่าเป็นที่ดินมือเปล่า นะครับ ซึ่งก็ไม่เกี่ยวกับ...มามือเปล่าไม่ยอมหิ้วกับแกล้มมาด้วย เอ้า ฮาๆๆๆ....😛
🤭เรื่องที่ดินไม่ว่าจะเป็นที่ดินที่มีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครอง การทำนิติกรรมการซื้อขายที่ดิน ก็ต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพานิชย์มาตรา 456 หรือการยกให้ ตาม มาตรา 525 ถ้าไม่ทำตามแบบดังกล่าวผลก็จะตกเป็นโมฆะ นั้นหมายความว่า สูญเปล่ามาแต่ต้นถือว่าไม่ได้ทำนิติกรรมกันเลย ที่เดียวเชียวนะครับ แต่ก็มีทางที่จะให้สมบูรณ์ได้เหมือนกันในเรื่องสิทธิครอบครอง วันหลังจะเล่าให้ฟังนะจ๊ะ 😖
👍คดีที่ดินเป็นคดีที่มีปัญหามากโดยเฉพาะข้อเท็จจริง ทั้งที่ตัวที่ดินมันก็อยู่
ของมันเฉย ๆ ไม่ได้ออกมาเต้นแร้งเต้นกาซักหน่อย แต่เป็นที่คนนี้แหละครับ ที่ไม่รู้สิทธิตัวเอง อย่างหนึ่ง กับประเภทที่ไม่เคารพสิทธิของผู้อื่นอีกอย่างหนึ่ง อยากได้ของ ๆ เขา โอ้ย..สารพันปัญหาครับ
🍉นี่ก็เป็นตัวอย่างอีกเรื่องหนึ่ง ของสองเฒ่าผู้ยิ่งใหญ่ ยายร่ำ กับ ยายช้อย คนแก่มีตังจากการเก็บหอมรอมริบมาชั่วชีวิต ทั้งสองคนไม่มีครอบครัวครับ
😼 ทั้งสองคนมีที่ดินติดกัน แถมด้านหน้าที่ดินของทั้งสองคนก็ติดกับทางสาธารณะอีกต่างหาก แต่ก็มีที่ดินของชาวบ้านคนอื่นที่อยู่ด้านหลังที่ดินของยายทั้งสอง
ยายช้อยแกใจดีครับ แบ่งที่ดินส่วนที่ติดกับยายร่ำ ให้เป็นทางสาธารณะแต่ยังไม่พอ ที่จะใช้เป็นทางเข้าออกได้ ยายช้อยก็เลยไปหายายร่ำให้แบ่งที่ดินติดกันเป็นทางเข้าออกให้ชาวบ้านบ้าง 😢
ภาพจากpixabay
👹 แต่ยายร่ำแกเขี้ยวลากดิน เดินไปตลาดทีถนนเป็นล่องเลย
" ข้า..ไม่ให้อยากได้ก็ต้องซื้อ " เห็นไหมครับยายร่ำพูดแบบลอยหน้าลอยตา นึกภาพออกใช่ไหมครับ ลอยหน้าลอยตาเป็นยังไง 🤑🤑
" ชาวบ้านเขาเดือนร้อน ข้าก็แบ่งให้แล้ว จะให้เยอะกว่านี้ก็ไม่ไหว แกแบ่งให้ชาวบ้านเดินหน่อยเหอะ " ถ้านึกถึงละครไทยสมัยนุ่งห่มสไบเฉียง ยายช้อยนี่แกน่าจะเป็นคุณหญิงละครับ 👵👵
👩ยายช้อย อ้อนวอนยายร่ำ อยู่พักใหญ่จนน้ำหมากแห้ง สุดท้ายยายร่ำก็ใจอ่อน
ยอมยกที่ดินส่วนของแกที่ติดกับยายช้อยให้เป็นทางสาธารณะเช่นเดียวกัน
ชาวบ้านก็ได้ใช้ที่ดินที่ทั้งสองคนอุทิศให้เป็นทางสาธารณะเรื่อยมา
10 ปีผ่านไปไวเหมือนโกหก ยายช้อย ยายร่ำ ยังมีชีวิตอยู่ ( คนอึดตายยาก )
ทางสำนักงานที่ดินก็มีประกาศออกโฉนดทั้งจังหวัดประเภทเดินสำรวจ
ยายช้อย ออกโฉนดแต่เว้นที่ดินที่ยกให้เป็นทางสาธารณะไว้ นางร่ำก็ขอออกโฉนดเหมือนกัน แต่ไม่เว้นทางที่อุทิศให้เมื่อ 10 ปีที่แล้ว แสบไหมละครับ 🐵🐵
🤔🤔" ยายร่ำ ทำไมแกทำอย่างนี้ ก็ยกให้เป็นทางสาธารณะแล้ว เอาไปออกโฉนดได้ยังไง " ยายช้อยรู้ข่าวก็โกรธต่อว่ายายร่ำเป็นการใหญ่ปวดหัวจนไมเกรนขึ้น (รุ่นนี้น่าจะเป็นที่วัยแล้วละครับไม่ใช่ไมเกรน 555)
" ก็ตอนที่ข้ายกให้เป็นทาง ไม่ได้ไปจดทะเบียนนี่หว่า นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านก็ไม่เห็นมารับรู้ รับทราบเลย ข้าไม่ให้แล้ว ข้าจะปิดทาง " เอาซิครับเป็นเรื่องละทีนี้ สองเฒ่าผู้ยิ่งใหญ่ชนกัน หญ้าแพรกก็แหลกราญละครับ 😤😤
เป็นคดีขึ้นโรงขึ้นศาลอยู่หลายปี ปัจจุบัน สองเฒ่าผู้ยิ่งใหญ่น่าจะเป็นแค่คนที่เคยอยู่บนโลกใบนี้ไปแล้วละครับ 👺👺
แต่ผมก็ทราบว่า 🏫 ศาลฎีกาได้วินิจฉัยวางหลักไว้ว่า " การที่เอกชนบุคคลใด อุทิศที่ดินให้เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ไม่ต้องมีนายอำเภอ หรือเจ้าพนักงานปกครองท้องที่ นายกเทศมนตรี แสดงเจตนารับแต่อย่างใด เมื่ออุทิศให้เป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน เพื่อสาธารณประโยชน์ไปแล้ว ไม่จำต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
การอุทิศด้วยวาจาก็มีผลตามกฎหมาย และสภาพความเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินไม่อาจสูญสิ้นไปเพราะการไม่ใช้ " 🖼🖼
📢เป็นคำพิพากษาฎีกาที่ 4377/2549 , 2046/2517 ,625/2555 , 94/2549
ถ้ายายช้อยแกยังมีชีวิตอยู่ แกคงต้องพูดว่า " แหม...สะใจอีช้อยนัก.."🤣
สุขสันต์วันอังคาร บุญรักษาทุก ๆ ท่านครับ 😇😇

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา