12 มิ.ย. 2020 เวลา 04:05 • ธุรกิจ
เรื่องราวที่ดูเหมือนเป็นนิทานของตำนานนักธุรกิจ ที่จะทำให้เราได้เห็นมุมมองและวิธีคิดของพวกเขา ซึ่งอาจสร้างแรงบันดาลใจให้คุณ
นี่คือตำนานของนักธุรกิจชาวอเมริกันเชื้อสายยิว ผู้ก่อตั้งโรงแรมขนาดใหญ่อย่าง โรงแรมฮิลตัน ด้วยเงินทุนเพียง 5,000 ดอลลาร์...
หากใครเคยอ่านหนังสือพ่อรวยสอนลูกจะได้เห็นแนวคิดหนึ่งที่สอนให้ใช้บ้านสี่หลังแลกโรงแรมหนึ่งหลังเพื่อสร้างรายได้และทำให้เรามีเงินเพิ่มพูนขึ้นตามหลักของเกมเศรษฐี
หนึ่งในชาวยิวผู้เล่นเกมนี้ในชีวิตจริงได้สำเร็จคือ คอนราด นิโคลสัน ฮิลตัน ผู้ที่เกิดในปี 1887 ในซานอันโตนิโอ สหรัฐอเมริกา และเคยถูกกองทัพสหรัฐส่งตัวไปประจำการในฝรั่งเศสถึงสองปี ในสงครามโลกครั้งที่ 1
เมื่อสงครามสิ้นสุดเขาจึงกลับมาบ้านเกิดเพื่อมองหาโอกาสในการสร้างความมั่งคั่งให้ตัวเองตามค่านิยมของชาวยิวทั่วไป และกิจการที่เขาสนใจในเวลานั้นก็หนีไม่พ้นธุรกิจการธนาคาร เนื่องจากเห็นว่าเป็นธุรกิจที่ทำเงินได้ดี
แต่เมื่อเขาสำรวจดูเมืองแดลลัสในเท็กซัส รัฐที่กำลังมีการเจริญเติบโตอย่างสูงจากธุรกิจน้ำมันที่กำลังเฟื่องฟู เขาก็พบว่าเมืองนี้ยังไม่มีโรงแรมที่ได้มาตรฐานเพื่อไว้รองรับการเจริญเติบโตของเมือง
เขาพยายามหาข้อมูลและสำรวจพื้นที่อยู่นานจนพบทำเลที่ถูกใจบริเวณหัวมุมถนนแห่งหนึ่ง แม้จะมีเงินในกระเป๋าเพียง 5,000 ดอลลาร์ แต่เขาก็ไม่รีรอที่จะเข้าไปสอบถามราคา
เมื่อทราบเจ้าของที่ดินยินดีขายให้ที่ราคา 300,000 ดอลลาร์เขาก็เชิญวิศวกรและสถาปนิกมาประเมินราคาและให้คำปรึกษาในการสร้างโรงแรมตามจินตนาการของเขา ซึ่งทีมที่ปรึกษาประเมินกันว่าน่าจะต้องใช้เงินอย่างน้อย 1,000,000 ดอลลาร์
หักลบตัวเลขในใจแล้วเขายังขาดเงินอีกถึง 1,295,000 ดอลลาร์ แต่ด้วยมันสมองของชาวยิวเขาไม่คิดว่านี่คือปัญหา
เขาเริ่มใช้วิธีการตามแบบฉบับของผู้เล่นเกมเศรษฐีโดยการซื้อโรงแรมเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในเมืองแทน เพื่อดูลู่ทางความเป็นไปได้และฝึกบริหารกิจการโรงแรม
ปรากฎว่าโรงแรมเล็ก ๆ ที่เขาซื้อนั้นทำรายได้อย่างงามจนทำให้เขามีเงินเก็บถึง 50,000 ดอลลาร์ในเวลาเพียงไม่นาน แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะซื้อที่ดินและสร้างโรงแรมในฝันอยู่ดี
เวลานั้นใคร ๆ ก็คิดว่า ฮิลตัน คงเปลี่ยนใจจากที่ดินสวยตรงหัวมุมถนนไปแล้ว เขาจะไปหาเงินจากไหนมากมายขนาดนั้น...
...แต่อย่าลืมว่า ฮัลตัน เป็นชาวยิวชาติพันธุ์ที่ความเฉลียวฉลาด และความมุ่งมั่นอดทนเป็นเลิศ โดยเฉพาะเรื่องการค้าขายและการทำธุรกิจ พวกเขาไม่เคยอับจนหนทาง
หลังจากฝึกบริหารโรงแรมและดูลู่ทางของธุรกิจด้านนี้อยู่ระยะหนึ่งจนชำนาญเขาก็ไปชวนเพื่อนอีกคนมาร่วมหุ้นในกิจการโรงแรมที่เขากำลังจะสร้างใหม่โดยเสนอให้ออกเงินคนละ 50,000 ดอลลาร์ เพียงเท่านี้เขาก็มีเงินทุนเพิ่มเป็น 100,000 ดอลลาร์ทันที
เวลานี้ฮิลตันจึงเข้าไปขอซื้อที่ดินแปลงนั้น
หลังจากตกลงราคาที่ 300,000 ดอลลาร์เหมือนที่เคยคุยไว้ แต่ระหว่างรอดำเนินการ อยู่ดี ๆ ฮิลตันก็เดินเข้าไปหาเจ้าของที่ดินแล้วแจ้งว่าเขาเปลี่ยนใจไม่ซื้อที่ดินนี้แล้ว
"เดิมทีผมต้องการซื้อที่ดินของคุณเพื่อไปสร้างโรงแรมขนาดใหญ่แต่เงินผมมีไม่พอ ผมจึงขอเปลี่ยนจากการซื้อเป็นการเช่าแทน คุณจะตกลงไหม"
คงไม่ต้องเดาว่าเจ้าของที่ดินจะไม่พอใจแค่ไหนหลังจากดีใจอยู่พักหนึ่งว่ากำลังจะได้เงิน 300,000 ดอลลาร์มาครอง  แต่ยังไม่ทันได้ตั้งตัว ฮิวตัน ก็ยื่นข้อเสนอต่ออย่างใจเย็นว่า
"ผมจะจ่ายค่าเช่าให้คุณปีละ 30,000 ดอลลาร์ แลกกับสัญญาเช่า 100 ปี"
โอ้แม่เจ้า ถ้าเป็นเราคงคิดว่าฉันคงไม่อยู่อีกเป็น 100 ปีหรอก ฉันอยากได้เงินก้อนมากกว่า ...แต่ข้อเสนอต่อมาของฮิวตันช่างเย้ายวนยิ่งนัก
1
"ค่าเช่าที่ผมเสนอจะทำให้คุณมีรายได้ในอนาคตถึง 3,000,000 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่ยังเป็นเจ้าของที่ดินเหมือนเดิม"
เพียงเท่านี้ก็ทำให้เจ้าของที่ดินต้องกลับมาคิดทบทวนใหม่อีกครั้ง เมื่อรวมข้อเสนอที่บอกว่าเขาจะได้ที่ดินพร้อมโรงแรมหรูที่กำลังจะสร้างเป็นของตัวเองทันทีหากฮิวตันไม่จ่ายค่าเช่า คงไม่มีข้อเสนอใดที่น่ายินดีไปกว่านี้อีกแล้ว ในที่สุดเจ้าของที่ก็ตกลงตามนั้น
ด้วยเหตุนี้จึงเท่ากับว่า ฮิวตัน ได้ที่ดินแปลงนั้นมาใช้ประโยชน์ถึง 100 ปีโดยจ่ายค่าเช่าเพียงปีละ 30,000 ดอลลาร์
แต่เรื่องยังไม่จบเพียงเท่านี้ อย่าลืมว่าถ้าจะสร้างโรงแรมหรูตามจินตนาการของเขานั้นต้องใช้เงินอีก 1,000,000 ดอลลาร์ แล้วเขาจะไปหาเงินจำนวนนั้นมาจากไหน?........ขออนุญาตเล่าต่อตอนหน้านะคะ
เรื่อเล่าแบบ พอดี - พอดี
โฆษณา