30 พ.ค. 2020 เวลา 09:40 • ท่องเที่ยว
สุรินทร์
.
..
2563
ผมกำลังขับรถอยู่บนถนนทางหลวงหมายเลข 2378 เพื่อมุ่งหน้าไปยังจังหวัดสุรินทร์ ดินแดนอีสานใต้ ที่มีเขตชายแดนติดกับประเทศกัมพูชา จังหวัดที่มีการปลูกข้าวหอมมะลิเป็นอันดับต้นๆของประเทศ มีชื่อเสียงในการเลี้ยงช้าง มีผู้คนหลากหลายชาติพันธ์ทั้งชาวกุย ชาวเขมร และชาวลาว..
ระหว่างเดินทาง
..เมฆฝนเริ่มตั้งเค้ามาด้านหน้าผม วิวสองข้างทางที่ผมขับรถผ่านเต็มไปด้วยที่ราบและทุ่งนามองไปสุดลูกหูลูกตา ทำให้ผมไม่แปลกใจเลยว่าที่นี่คงเป็นแหล่งผลิตข้าวหอมมะลิอันดับต้นๆของประเทศ
วิวสองข้างทาง
ก่อนจะเข้าไปยังตัวเมืองสุรินทร์ ผมได้แวะพักที่อำเภอสนม เพื่อไปยัง’วัดธาตุ’ วัดที่สร้างอุโบสถทับบนปราสาทที่ถูกสร้างจากพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 อายุประมาณถึง 1,200ปี ระยะทางจากถนนหลักที่ผมเลี้ยวเข้ามายังอำเภอสนมประมาณ 20กิโลเมตร เพียงระยะเวลาไม่นานผมก็มาถึงยังวัดธาตุ สิ่งแรกที่ผมทำก่อนเลยคือ การเข้าไปสักการะพระเจ้าทันใจเพื่อเป็นสิริมงคลกับการเดินทางครั้งนี้ครับ
พระเจ้าทันใจ วัดธาตุ อำเภอสนม จังหวัดสุรินทร์
ผมมองไปทางด้านซ้ายมือก็ได้พบกับ ศาลเจ้าพ่อศรีนครเตาท้าวเธอ ประวัติของท่านคือเป็นผู้นำท้องถิ่นของชาวกุย ที่อาสาในการคล้องช้างและมีบันทึกไว้ในช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์
ศาลเจ้าพ่อศรีนครเตาท้าวเธอ อยู่ภายในบริเวณวัดธาตุ
รูปแกะสลักเจ้าพ่อศรีนครเตาท้าวเธอ
หลังจากกราบไหว้เจ้าพ่อศรีนครเตาท้าวเธอแล้ว ผมก็เดินตรงไปยังอุโบสถที่สร้างทับปราสาทขอมเอาไว้ เพื่อเดินชมรอบๆตัวอุโบสถ ที่ผมสังเกตุคืออุโบสถถูกยกเป็นเนินเล็กๆขึ้นมาหน่อยนึง น่าจะเป็นเพราะใต้ฐานนั้นคงเป็นปราสาทในยุคสมัยขอม...
อุโบสถที่สร้างทับปราสาทขอม
หน้าต่างดูสวยงามดีนะครับ
อุโบสถวัดธาตุ
แสงแดดเริ่มส่องลงมาผมเดินมาหลบแดดยังใต้ต้นไม้ แล้วมองย้อนกลับไปยังอุโบสถพร้อมกับจินตนาการถึงปราสาทขอมที่ถูกรื้อออกไป แล้วรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้เห็นของจริง
ใต้ต้นไม้ที่ผมยืนหลบแสงแดด
ลมพัดแรงมาวูบหนึ่ง กลิ่นฝนลอยมาทำให้ผมรีบเดินไปที่รถ เพื่อเดินทางต่อไปยังตัวเมืองสุรินทร์ ผมขับรถไปเรื่อยๆผ่านอำเภอจอมพระ อีกประมาณครึ่งชั่วโมงผมก็จะถึงจังหวัดสุรินทร์แล้วครับ
อำเภอจอมพระ จังหวัดสุรินทร์
ผมมาถึงตัวเมืองสุรินทร์เริ่มจะค่ำแล้ว ในตัวเมืองสุรินทร์ค่อนข้างจะเงียบเหงา ผู้คนไม่ค่อยพลุกพล่าน ผมขับรถช้าลงเพราะเข้าเขตชุมชนแล้วและเพื่อค่อยๆปรับตัวให้คุ้นชินกับการถนนหนทางที่ผมไม่ค่อยชินทางซักเท่าไหร่ จีพีเอสบอกทางไปยังโรงแรมที่ผมพัก ผมค่อยๆสังเกตระหว่างทางถึงสถานที่สำคัญต่างๆ
ศาลเจ้าในเมืองสุรินทร์
ผมขับรถต่อไปเรื่อยๆผ่านศาลหลักเมืองจังหวัดสุรินทร์ ผมไม่รอช้าเปิดไฟสัญญาณและจอดชิดขอบทางเพื่อจะเข้าไปกราบไหว้ศาลหลักเมือง ผมเดินลงจากรถ ฝนที่ตกลงมาปอยๆทำให้ผมเดินเร่งเข้าไปในศาลหลักเมือง ภายในศาลหลักเมืองมีแต่คนเฝ้าศาลอยู่เพียงคนเดียว ผมเดินเข้าไปด้านในทรุดตัวลงไหว้เพื่อเป็นศิริมงคล ผมใช้เวลาไม่นานก็ลุกขึ้นและเดินทางต่อเพื่อไปยังที่พักในคืนนี้
ศาลหลักเมืองสุรินทร์
ศาลหลักเมืองสุรินทร์
ภายในศาลหลักเมืองสุรินทร์
ภายในศาลหลักเมืองสุรินทร์
ภายในศาลหลักเมืองสุรินทร์
เช้าวันรุ่งขึ้นผมต้องไปยังอำเภอศีขรภูมิ ก็เลยถือโอกาสแวะชมความงามของปราสาทศีขรภูมิไปด้วยเลยครับ
...ผมจอดรถบริเวณด้านหน้าของตัวปราสาท ตอนที่ผมไปเป็นเวลาเย็นแล้วบริเวณปราสาทศีขรภูมิจึงมีผมอยู่เพียงคนเดียว ผมก้าวเดินเข้าไปในบริเวณตัวปราสาท สิ่งที่ผมสัมผัสได้จากครั้งแรกที่เห็นตัวปราสาทคือความยิ่งใหญ่และความสงบภายในบริเวณนี้ ผมตรงเข้าไปยังตัวปราสาทตรงกลาง และลองสำรวจด้วยตาบริเวณด้านใน ผมเห็นองค์พระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ภายในอย่างสงบ จากที่ผมได้ยินมาว่าปราสาทศีขรภูมิถือเป็นปราสาทที่งดงามที่สุดในจังหวัดสุรินทร์ อีกสิ่งหนึ่งที่ผมตัองการมาชมคือ’ทับหลัง’ ที่เป็นภาพพระศิวนาฎราชสิบกร ผมยืนมองรายละเอียดของทับหลังคิดถึงอายุที่ทับหลังอยู่มานานมากกว่า800 ปี และตัวกรอบประตูด้านข้างมีรูป ‘นางอัปสร’ ประดับอยู่ สภาพค่อนข้างสมบูรณ์เลยทีเดียว
ปราสาทศีขรภูมิ
บริเวณทางเข้าปราสาทศีขรภูมิ
บริเวณโดยรอบร่มรื่น สงบ ด้านข้างล้อมรอบตัวปราสาทเป็นรูปตัวU มีสระน้ำสวยงาม
สระน้ำรอบปราสาทศีขรภูมิ
ปราสาทศีขรภูมิ
ทับหลังปราสาทศีขรภูมิ
นางอัปสร
พระพุทธรูปด้านในปราสาทศีขรภูมิ
ปราสาทศีขรภูมิ
ปราสาทศีขรภูมิ
ปราสาทศีขรภูมิ
ผมใช้เวลากับที่นี่ซักพักใหญ่ อากาศตอนนี้เย็นสบายจากฝนที่กำลังจะตก จากที่นี่ผมก็จะเดินทางต่อเพื่อกลับบ้าน แล้วคงใช้เวลาซักพักเพื่อพักผ่อนให้หายเหนื่อย เก็บแรงไว้เพื่อการเดินทางครั้งต่อไปของผม
สุรินทร์เป็นจังหวัดที่ดูเงียบๆ ถ้ามาคนเดียวอาจจะดูเหงาซักหน่อยนึง สถานที่ท่องเที่ยวแต่ละที่อยู่ไกลกัน ควรจะมีพาหนะในการเดินทางจะทำให้สะดวกและสนุกขึ้น ภายในบริเวณเขตเมืองสุรินทร์ค่อนข้างจะเงียบแต่ก็มีบ้านเรือนเก่าๆให้ได้ชม คนที่นี่ถ้าสื่อสารกันเองส่วนมากจะใช้ภาษาเขมร ฟังแล้วก็แปลกหูกว่าจังหวัดอื่นๆในภาคอีสาน
ช่วงบ่ายผมออกเดินทางจากสุรินทร์เพื่อกลับบ้าน ผมขับรถไกลออกจากเมืองสุรินทร์ไปเรื่อยๆ สายฝนที่ตกลงมาทำให้บรรยากาศดูเงียบเหงา แต่ผมก็มีความสุขที่ครั้งนึงผมได้มาเห็นอีกมุมนึงของประเทศไทยของเรา ขอเอ่ยคำลาด้วยภาษาเขมรนะครับ ‘จุมเรียบเลีย’(ลาก่อน)......
ถ่ายตอนผมกำลังจะเดินออกมาจากปราสาทศีขรภูมิ
โฆษณา