26 พ.ค. 2020 เวลา 14:13 • สุขภาพ
ซิงค์ (Zinc)หรือสังกะสี มีดีกว่าแค่รักษา “สิว”
ซิงค์ (Zinc)หรือสังกะสี เป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายชนิดหนึ่ง เป็นแร่ธาตุที่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นมาเองได้ ต้องได้รับจากอาหารเข้าไป ซึ่งมีหลายชนิดและใช้แตกต่างต่างกัน มีหลายงานวิจัยที่พูดถึงประโยชน์ในการเพิ่มภูมิคุ้มกัน ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และช่วยในการดูแลผิว ตา และหัวใจ
บทความนี้จะพูดถึง ชนิด ประโยชน์ ขนาดรับประทาน ผลข้างเคียงของแร่ธาตุซิงค์ (Zinc)
ชนิดของแร่ธาตุซิงค์ (Zinc)
ปัจจุบันแร่ธาตุซิงค์ (Zinc) มีหลากหลายชนิดในท้องตลาด และแต่ละชนิดก็มีประโยชน์แตกต่างกัน เราจึงควรเลือกให้เหมาะกับเราดังนี้
- Zinc gluconate:เป็นอีกหนึ่งชนิดที่จำหน่ายอย่างแพร่หลาย Zinc gluconate มักใช้นำตำหรับยาแก้หวัด รวมไปถึงยาอม (lozenges)และสเปรย์พ่นจมูก (nasal sprays)
- Zinc acetate:ก็คล้ายกับ Zinc gluconate ซึ่งZinc acetate ก็ใช้เป็นส่วนผสมของยาอมแก้เจ็บคอ ช่วยลดอาการเจ็บคอและทำให้หายเร็วขึ้น
- Zinc sulfate:มักใช้เสริมในกรณีที่ขาดแร่ธาตุซิงค์ (Zinc) หรือใช้ในการลดความรุนแรงของสิวอักเสบ
- Zinc picolinate:มีบางงานวิจัยบอกว่าร่างกายของมนุษย์สามารถดูดซึม
Zinc picolinate ได้ดีกว่าแร่ธาตุซิงค์ (Zinc) ชนิดอื่น รวมไปถึงZinc gluconateแลzinc citrate
- Zinc orotate:เป็นอีกหนึ่งชนิดที่ทำปฏิกิริยากับ orotic acid เป็นอีกหนึ่งชนิดที่จำหน่ายอย่างแพร่หลายในท้องตลาด
- Zinc citrate:เป็นอีกหนึ่งชนิดที่มีการศึกษาว่าดูดซึมดีกว่า Zinc gluconate และขมน้อยกว่าZinc gluconate
จึงพอสรุปได้ว่า Zinc picolinate ดูดซึมดีที่สุด และเนื่องจากมีหลากหลายชนิดในท้องตลาด
จึงควรเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานและความต้องการ รวมไปถึงรูปแบบยาไม่ว่าเป็น แคปซูล เม็ดตอก ยาอมและสเปรย์พ่นจมูกเป็นต้น
1
ประโยชน์ที่โดดเด่นของแร่ธาตุซิงค์ (Zinc)
1.เสริมการทำงานของภูมิคุ้มกันในร่างกาย
มีเสริมอาหารหลายชนิดที่มี แร่ธาตุซิงค์ (Zinc) ในสูตรเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันและลดการอักเสบต่างในร่างกาย
มีอีกหนึ่งงานวิจัยที่ศึกษายาอมที่ผสมแร่ธาตุซิงค์ (Zinc) 80-92 mg ในคนไข้ที่ป่วยเป็นไข้หวัดพบว่า ทำให้หายเร็วขึ้น 33% แร่ธาตุซิงค์ (Zinc) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ลดการอักเสบและป้องกันโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ และโรคมะเร็ง อีกหนึ่งงานวิจัยในคนที่อายุ 50 ปีขึ้นไป ที่รับประทานzinc gluconate 45mg วันละครั้ง ระยะเวลาหนึ่งปี ช่วยลดสารที่ทำให้เกิดการอักเสบและลดความถี่ในการติดเชื้อต่างๆ
2.ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
แร่ธาตุซิงค์ (Zinc) มีบทบาทสำคัญในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและการหลั่งฮอร์โมนอินซูลิน ซึ่งฮอร์โมนอินซูลินมีหน้าที่นำน้ำตาลในเลือดเข้ากับไปที่กล้ามเนื้อ
บางงานวิจัยก็บอกว่าแร่ธาตุซิงค์ (Zinc) ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลให้คงที่และเพิ่มการตอบสนองของร่างกายต่อฮอร์โมนอินซูลิน
จากการทบทวนบทความต่างๆ แร่ธาตุซิงค์ (Zinc) มีผลทั้งในระยะสั้นและระยะยาวในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวาน และงานวิจัยอื่นที่แสดงให้เห็นว่าแร่ธาตุซิงค์ (Zinc) ช่วยลดการดื้อฮอร์โมนอินซูลิน และในขณะเดียวกันก็เพิ่มความสามารถในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับปกติอีกด้วย
3.ช่วยในการต่อสู้กับ “สิว”
บ่อยครั้งที่พบว่ามีการใช้แร่ธาตุซิงค์ (Zinc) ในการฟื้นฟูผิวและใช้ช่วยในการรักษาสิว โดยเฉพาะZinc sulfate ที่พบว่าช่วยลดความรุนแรงในการเกิดสิว เป็นต้น มีการศึกษาให้อาสาสมัคร 332 คนรับประทานแร่ธาตุซิงค์ (Zinc)
ขนาด 30 mg นาน 3 เดือน ช่วยเพิ่มการตอบนสนองต่อการรักษาสิวมากขึ้น
แร่ธาตุซิงค์ (Zinc) มักใช้ในการรักษาสิวควบคู่กับแนวทางการรักษาปกติเนื่องจากราคาถูกและผลข้างเคียงพบความรุนแรงน้อย
4.ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของ “หัวใจ”
โรคเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือดเป็นปัญหาใหญ่ระดับโลกพบผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 33 % ของผู้ป่วยทั่วโลก
บางงานวิจัยพบว่าช่วยการรับประทานแร่ธาตุซิงค์ (Zinc) ช่วยลดปัจจัยเสี่ยงบางตัวที่ให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด โดยมีการทบทวนงานวิจัยย้อนหลัง 24 การศึกษาพบว่าแร่ธาตุซิงค์ (Zinc) ช่วยลดทั้งไขมันรวมTotal cholesterol ไขมันเลว(LDL cholesterol) รวมถึง triglyceride ทำให้ลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด และมีการศึกษาเพิ่มเติมในผู้หญิงอายุ 40 ปีขึ้นไป โดยรับประมาณแร่ธาตุซิงค์ (Zinc) ช่วยลดระดับความดันโลหิตในเลือด แต่เนื่องจากยังมีการศึกษาเรื่องการลดความดันโลหิตในเลือดยังน้อยอยู่ อาจต้องรองานจัยเพิ่มเติมในส่วนนี้
ส่วนงานวิจัยอื่นๆ พบว่าระดับแร่ธาตุซิงค์ (Zinc) ในเลือดที่ต่ำมีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงการเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน แต่ยังไม่มีการสรุป
5.ช่วยชะลอการเกิดโรคจอประสาทตาเสื่อม
โรคจอประสาทตาเสื่อมเป็นโรคที่พบได้บ่อยและเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดการสูญเสียการมองเห็นในผู้ป่วยทั่วโลก แร่ธาตุซิงค์ (Zinc)ก็เป็นอีกหนึ่งเสริมอาหารที่ช่วยชะลอการเกิดโรคจอประสาทตาเสื่อมจากอายุ age-related macular degeneration (AMD) และป้องกันการสูญเสียการมองเห็น อีกหนึ่งการศึกษาที่ให้ผุ้เข้ารับการทดลอง 72 คนที่เป็นโรคจอประสาทตาเสื่อมจากอายุ age-related macular degeneration (AMD) ได้รับ แร่ธาตุซิงค์ (Zinc) 50 mg ต่อเนื่อง 3 เดือนพบว่าลดการดำเนินไปของโรคได้ แต่อย่างไรก็ตามก็มีบางการศึกษาที่ยังไม่มีความแตกต่างอย่างชัดเจนต้องรับการศึกษาเพิ่มในเรื่องนี้
จึงพอสรุปได้ว่า แร่ธาตุซิงค์ (Zinc)ลดระยะเวลาการเป็นไข้หวัด เสริมการควบคุมน้ำตาลในเลือด ลดความรุนแรงของ
การเกิดสิว ลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ชะรอภาวะโรคจอประสาทตาเสื่อม
เห็นไหมครับ แร่ธาตุซิงค์ (Zinc)มีดีกว่าการใช้รักษา “สิว”
ขนาดรับประทานแร่ธาตุซิงค์ (Zinc)
ก่อนอื่นเราต้องทราบก่อนว่า แร่ธาตุซิงค์ (Zinc) เป็นชนิดไหน ซึ่งแต่ละชนิดก็ให้ปริมาณที่ต่างกัน
เช่น Zinc Sulfate ให้ปริมาณแร่ธาตุซิงค์ (Zinc) เพียง 23% ดั้งนั้นถ้ารับประมาณขนาด 220 mgอาจได้รับแร่ธาตุซิงค์ (Zinc) เพียง 50 mg เท่านั้น
ผู้ใหญ่ : ขนาดรับประทาน 15-30 mg/วัน เพิ่มขนาดได้หากผุ้ป่วยมีปัญหาอื่นร่วมด้วยเช่น ต้องการรักษาสิว
ท้องเสีย ผู้ป่วยติดเชื้อที่ปอด เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตามการเพิ่มขนาดแร่ธาตุซิงค์ (Zinc)ให้เพิ่มขึ้นศุง อายทำให้ท้องผูกได้และขับถ่ายลำบาก จึงไม่ควรรับประทานเกิน 40 mg/วัน
ความปลอดภัยและผลข้างเคียงของยา
แร่ธาตุซิงค์ (Zinc) ห้ามได้รับขนาดที่มากเกินไปอาจพบผลข้างเคียงดังนี้ คลื่นไส้อาเจียน เวียนศีรษะ หรือปวดท้องผิดปกติได้ และหาได้รับขนาดเกิน 40 mg/วัน อาจมีอาการคล้ายเป็นไข้ เช่นปวดหัว ไอ และมึนชา การรับประทานแร่ธาตุซิงค์ (Zinc)อาจรบกวนการดูดซึมแร่ธาตุชนิดอื่น รวมไปถึงยาปฏิชีวนะบางชนิด ต้องเว้นทานห่างจากยา อย่างน้อย 2 ชั่วโมง เป็นต้น
หากต้องซื้อวิตามินอาหารเสริมมารับประทานเอง ควรศึกษาอย่างละเอียดเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพและความปลอดภัย หรือปรึกษาเภสัชกรผู้เชี่ยวชาญก่อนรับประทานยาและอาหารเสริมทุกครั้ง
ด้วยความปรารถนาดีจาก
เภสายเฮลท์

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา