27 พ.ค. 2020 เวลา 03:00 • ประวัติศาสตร์
“ยักษ์แห่งคาร์ดิฟฟ์ (Cardiff Giant)” เรื่องหลอกลวงแห่งปีค.ศ.1869 (พ.ศ.2412) ที่สหรัฐอเมริกา
ในปีค.ศ.1869 (พ.ศ.2412) ได้เกิดข่าวใหญ่ไปทั่วสหรัฐอเมริกา
นั่นคือการขุดพบร่างของ “ยักษ์”
ในวันที่ 16 ตุลาคม ค.ศ.1869 (พ.ศ.2412) ขณะที่คนงานกำลังขุดหลุมในที่ดินของ “William Newell” ในย่านคาร์ดิฟฟ์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา พวกเขาก็ต้องพบกับสิ่งที่ทำให้ตื่นเต้น
พวกเขาขุดพบเท้าที่ทำจากหิน ก่อนที่จะขุดพบร่างของยักษ์
Newell ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินนั้นตื่นเต้นดีใจมาก และประกาศว่านี่คือการค้นพบที่ยิ่งใหญ่ ก่อนจะตั้งเต้นท์ล้อมรอบยักษ์ที่พบ และเรียกเก็บเงินค่าเข้าชมเป็นจำนวน 25 เซนต์ ก่อนจะขึ้นเป็น 50 เซนต์
การค้นพบนี้เป็นข่าวดังไปทั่ว คนจากทั่วสารทิศเดินทางมายังที่นี่เพื่อชมร่างของยักษ์
ภายในอาทิตย์แรก มีคนมาชมยักษ์นี้แล้วกว่า 2,500 คน
ได้มีการคาดเดากันไปต่างๆ ว่าร่างยักษ์นี้คืออะไรกันแน่ บ้างก็ว่าเป็นร่างของมนุษย์โบราณที่ผ่านกาลเวลามาเนิ่นนานจนกลายเป็นหิน บ้างก็ว่าเป็นงานปั้นที่ถูกปั้นมาเป็นเวลานานนับร้อยปีก่อน
แต่ยังไงก็ตาม การค้นพบนี้สร้างผลประโยชน์ เงินมหาศาลให้กับ Newell เนื่องจากมีนักธุรกิจหลายรายยินดีจะจ่ายเงินเพื่อขอซื้อ หรือเข้าเป็นหุ้นส่วนในธุรกิจการหาประโยชน์จากยักษ์ที่พบ
แต่ต่อมา ความจริงก็ปรากฎ
ยักษ์ตัวนี้เป็นฝีมือการปั้นของญาติของ Newell ที่ชื่อ “George Hull”
Hull นั้นเคยโต้เถียงกับนักเทศน์ โดยเขาเถียงกันว่ายักษ์มีอยู่จริงหรือไม่
เพื่อให้สิ่งที่เขาคิดเป็นที่ยอมรับ Hull จึงลงทุนสร้างรูปปั้นยักษ์นี้ขึ้นมาอย่างลับๆ และจัดการฝังลงยังที่ของ Newell ซึ่งคนทั้งคู่ก็รอเป็นเวลานับปี ก่อนที่จะให้คนขุดขึ้นมาและโด่งดังไปทั่ว อีกทั้งยังสร้างเม็ดเงินได้มากมาย
แต่ภายหลังจากที่เรื่องแดงขึ้นมา ชื่อเสียงของยักษ์นี้ก็ค่อยๆ จางลงไปพร้อมคำก่นด่าจากผู้คน และปัจจุบัน รูปปั้นยักษ์นี้ก็ได้จัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ในนิวยอร์ก
โฆษณา