“สแตนลีย์ โฮ” ราชาการพนันผู้ทรงอิทธิพลและอภิมหาร่ำรวยที่สุดของเกาะฮ่องกง เสียชีวิตด้วยวัย 98 ปีเมื่อวันอังคาร (26 พ.ค.) เริ่มต้นสร้างอาณาจักรกาสิโนในมาเก๊าภายใต้การบริหารของบริษัท SJM Holdings ของเขาเมื่อปี 2504 นับเป็นบริษัทกาสิโนที่เก่าแก่ที่สุดในมาเก๊า มีมูลค่าธุรกิจสูงถึง 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปัจจุบัน และกลายเป็นหนึ่งในบริษัทกาสิโนที่มีกำไรมากที่สุดในโลก
ราชาบ่อนการพนัน หรือ King of gambling ผู้ปลุกปั้นพลิกผันเกาะมาเก๊า อดีตดินแดนอาณานิคมโปรตุเกส จากเกาะเงียบเหงาให้กลายเป็นแหล่งการพนันด้วยการอาศัยความได้เปรียบสำคัญจากการที่มาเก๊าอนุญาตให้เปิดกาสิโนอย่างถูกกฎหมาย
ปัจจุบันนายสแตนลีย์ โฮ ถือครองทรัพย์สินกว่า 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ รวมถึงกลุ่มบริษัท เอส เจ เอ็ม โฮลดิง ดูแลเครือข่ายบ่อนการพนันบนเกาะมาเก๊ามากราว 20 แห่ง แต่นายสแตนลีย์ โฮ ประกาศเกษียณตัวเองจากธุรกิจทั้งหมดเมื่อปี 2561 ก่อนหน้าถึงวันเกิดครบรอบ 97 ปี ธุรกิจของเขายังรวมถึงบริการเรือข้ามฟากและเฮลิคอปเตอร์เดินทาง ที่บินระหว่างเกาะฮ่องกงกับเกาะมาเก๊า ทั้งเป็นเจ้าของโรงแรมและห้างสรรพสินค้าหลายแห่ง รวมถึงสนามแข่งม้าและสนามบินบนเกาะมาเก๊า ขณะที่ทางการสหรัฐฯระบุนายสแตนลีย์ โฮ คือผู้ทรงอิทธิพลทั้งบนเกาะมาเก๊าและในฮ่องกง ทั้งเกี่ยวข้องโยงใยกับเครือข่ายแก๊งอาชญากรรม
สแตนลีย์ โฮ มีภรรยา 4 คนและบุตรและบุตรสาวรวมกัน 17 คน ในจำนวนนี้หลายคนได้นั่งตำแหน่งสำคัญ ๆ ของกลุ่ม ซึ่งรวมถึง แพนซี โฮ บุตรสาวที่มีอายุมากที่สุดจากภรรยาคนที่ 2 ของเศรษฐีกาสิโนรายนี้ แพนซีเคยได้รับการจัดอันดับเป็นเศรษฐินีที่ร่ำรวยที่สุดในฮ่องกง ปัจจุบันมีมูลค่าทรัพย์สินอยู่ที่ราว 3,700 ล้านดอลลาร์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
