Chrysler ถูกก่อตั้งเมื่อปี 1925 หลังจาก นาย Walter P. Chrysler ได้เข้ามาซื้อกิจการ บริษัท Maxwell Motor โดย Chrysler มีจุดขายอยู่ที่มี เทคโนโลยีล้ำสมัยในยุคนั้นและที่สำคัญ คือการตั้งราคาไม่แพง เพื่อให้คนเข้าถึงได้ง่าย รถ Chrysler เหมาะสำหรับคนทำงานและชนชั้นกลาง โดยอยู่ใน segment เดียวกับ General Motors (GM) และ Ford นั้นเอง ทั้งสามบริษัทถูกจัดอยู่ในกลุ่ม Big three ของวงการผู้ผลิตรถยนต์ในสหรัฐฯ
ในปี 1997 Bob Eaton ซึ่งดำรงตำแหน่ง Chrysler CEO ในขณะนั้นเริ่มเห็นอุปสรรคในการเติบโตในตลาดสหรัฐฯ เขาจึงมีความพยายามที่จะขยายกิจการไปต่างประเทศ ขณะเดียวกัน Daimler ถึงแม้จะเป็นเจ้าตลาดในยุโรป แต่กลับมีสัดส่วนการตลาดในสหรัฐฯ น้อยกว่า 1%
2
ดังนั้นการควบรวมกิจการที่สองบริษัทเข้าด้วยกัน จึงดูเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง คือ Chrysler สามารถขยายไปในตลาดยุโรป ขณะที่ Daimler สามารถขยายตลาดสหรัฐฯ โดยที่ไม่ได้ก่อให้เกิดการแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาดกันเอง (Cannibalization) เพราะ Chrysler มุ่งเน้นทำการตลาดรถ SUV, มินิแวน, รถซีดาน สำหรับชนชั้นกลาง ขณะที่ Daimler เน้นตลาดหรู
ในปี 1998 Daimler ตัดสินใจซื้อ Chrysler ด้วยมูลค่า 3.6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นการควบรวมกิจการ (Mergers and Acquisitions) ข้ามประเทศที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ณ ขณะนั้น
การควบรวมครั้งนี้ คาดการณ์ว่าจะก่อให้เกิดการจ้างงานสูงถึง 410,000 คน และน่าจะสร้างรายได้กว่า หนึ่งแสนสามหมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ และจะกลายเป็นผู้ผลิตยานยนต์ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก รองจาก GM, Ford, Toyota and Volkswagen.