27 พ.ค. 2020 เวลา 17:12
28/05/2018
ตัดสินใจอยู่นานจะเขียนเรื่องนี้ดีไหม
(กลัวออกไปแล้วผู้ใหญ่แถวบ้านที่เป็นเพื่อนในเฟสจะไม่พอใจผมเท่าไหร่)
เหตุก็เกิดจากการกลับบ้านครั้งนี้เหมือนกับทุกๆครั้งๆที่กลับ คือผมต้องเผชิญกับวงเสวนาเวลากินข้าวกันเป็นครอบครัวใหญ่ แน่นอนละในวงสนทนาไม่พ้นเรื่องข่าวสารบ้านเมือง
(เรื่องนี้ผมเลือกที่จะเงียบ เพราะผมไม่อยากเถียงเท่าไหร่ การอธิบายให้กับผู้ใหญ่หรือผู้สูงวัยที่มัวแต่ทำงานกลับบ้านมากินข้าว ดูข่าวและดูหนัง โดยผมไม่สามารถอธิบายถึงความถูกต้องหรือสิ่งที่พวกท่านทั้งหลายถึงความเป็นจริงในเรื่องนั้นๆได้ ผมจึงเลือกที่จะเงียบ อีกประการเพราะผมต้องกินข้าวกับท่านตลอด มันจะกระทบปากท้องผมด้วย แต่จริงๆนี่ไม่ใช่ประเด็นหลักที่จะสื่อสารในวันนี้)
นอกจากเรื่องข่าวสารบ้านเมืองและไมค์ทองคำแล้ว ที่หนีไม่พ้นเลยคือเรื่องของ การบูชาเทวสิทธิ์ สมมุติเทพต่างๆ บูชาบุคคลดั่งเทพเจ้า คือทุกคนในวงสนทนาคล้อยตามเป็นเสียงเดียวกันในเรื่องนี้ ถ้าหากเป็นเมื่อก่อนผมคงจะชอบฟังมาก เรื่องอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ เพราะผมถูกปลูกฝังมากับชุดความเชื่อที่มากกว่าศรัทธาในคือความงามงายในตัวบุคคลหรือสมมุติเทพตั้งแต่เด็ก
แต่ครั้งนี้แตกต่างไปจากทุกครั้ง จริงๆเป็นมาหลายเดือนแล้ว แต่ผมไม่แสดงออก ผมขอออกตัวว่าผมไม่ได้นับถือศาสนาดั่งแต่ก่อนแล้ว แต่ผมก็ไม่ขัดหรือสร้างอคติให้กับสิ่งที่ผู้ใหญ่ทางบ้านผมเชื่อ ครั้งนี้เหมือนทุกครั้งการพูดหรืออ้างถึงบุคคลต่างๆยังคงดำเนินมาเรื่อยๆ จนมีการชวนผมไปทำพิธีต่างๆ ผมพยามเงียบและเบี่ยงประเด็นคำตอบออกเป็นอื่น แต่ก็ยังคงมีเสียงขึ้นมาเรื่อยๆ
จนผมบอกว่า “ผมไม่นับถือศานาแล้วครับ ไม่ต้องมาบังคับผม ถ้าผมเต็มใจผมจะทำ และสิ่งที่ทุกคนกำลังพูดถึงอยู่นั้น ในศานาพุทธมันไม่เคยมีครับ” เสียงของผมจบลง ความเงียบเข้ามาชั่วขณะ และหลังจากนั้น เกิดคำถามและเสียงวิจารย์ต่างๆกับผมมากมาย ทำไม ทำไม ทำไม ทำไมไม่นับถือศาสนา ไม่กลัวตกนรกหรอ ไม่กลัวบาปหรอ ไม่อยากสร้างความดีหรอ แล้วต่อไปนี้ใครจะคุ้มครองให้อยู่เย็นเป็นสุข อยู่รอดปลอดภัยในชีวิต
คำถามต่างๆถาโถมเข้ามา ผมนั่งถอนหายใจเบาๆ คิดว่าหากผมอธิบายหลังจากนี้แล้ว ผมจะถูกมองเป็นเด็กมีปัญหาหรือเด็กก้าวร้าวในสังคมไหม ผมดึงสติและเริ่มอธิบายเกี่ยวกับคำถามและความคิดของผม เริ่มด้วยการที่ผมบอกว่า “ผมไม่เคยขัดนะ ที่จะบูชาหรือศรัทธาเกี่ยวกับเทวสิทธิ์หรืออสมมุติเทพ แต่สิ่งนึงที่ควรจะมีคือสติครับ สติที่พึงระลึกเสมอว่า เรานับถือเพราะเราสบายใจ ไม่ใช่ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับความงมงาย จนลืมคิดไปว่า
ชีวิตเป็นของเรานะครับ เราเป็นคนกำหนด มัวแต่ให้สมุตติเทพกำหนดโชคชะตาจนลืมพึ่งพาตัวเองก็อย่าชักชวนใครเข้าไปหลงกับดักเลยครับ ขนาดตัวเองยังไม่เข้าใจและไม่เชื่อมั่นในตัวเองเลย ถ้าบอกว่าตัวเองเป็นพุทธ แล้วเข้าใจพุทธดีแต่ไหน เข้าใจหลักคำสอนไหม ปากบอกว่าพุทธแต่นับถือผีแล้วบอกว่าผีเป็นพุทธแล้วยิ่งละเหี่ยใจหนักไปกว่าเดิม เชื่อในตัวเองศรัทธาในตัวเองก่อน
ลองกลับไปคิดนะครับ ทุกครั้งที่เดินทาง เรามักจะขอให้พระคุ้มครองหรือเทวสิทธิ์ต่างๆคุ้มครองให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ หากเราปล่อยตัวปล่อยใจเลือกที่จะพึ่งสิ่งเหล่านี้มากการกว่าตัวเองที่ต้องตั้งสติในการขับขี่รถ ไม่ว่าจะพระหรือผีก็ไม่สามารถช่วยเราได้ ขนาดตัวเรายังช่วยตัวเองไม่ได้เลย “ ผมพูดจบทุกอย่างอยู่ในความเงียบอีกครั้ง ผมเดินออกมาด้วยท่าทีที่ไม่ค่อยสบายใจนัก เพราะกลัวว่าสิ่งที่พูดออกไปจะไปกระทบจิตใจของหมู่ญาติๆและมองผมหลังจากนี้ว่าเป็นเด็กหัวรุนแรงและก้าวร้าว ที่กล้าขัดความเชื่อที่สืบต่อกันมาอย่างยาวนานในทัศนคติที่ผิดๆอย่างนั้น
อ่านมาถึงตรงนี่แล้วหลายคนอาจจะคิดว่าผมพูดแรงเกินไปไหม หรือไม่ให้ความเคารพผู้ใหญ่เท่าที่ควร ผมขอเล่ากับไปครับ ครั้งเมื่อผมอยู่ประมาณประถม แม่และป้านับถือสมมุติเทพมากๆ จนเชิญร่างทรงมาบ้านบ่อยๆ แต่รู้ไหมครับ เทพกินเบียร์ครับผม การบูชาเทพคือต้องกินเบียร์ เบียร์สิงห์เท่านั้น (อันนี้ไม่ทราบเหตุผลนะครับทำไมไม่กินยี่ห้ออื่น) ผมถูกขืนใจร้องไห้หลายครั้งเพราะผมต้องกินเบียร์ มันเป็นความรุนแรงอย่างหนึ่งที่ต้องเผชิญ ยิ่งกว่านั้นผู้ใหญ่กลับเห็นดีเห็นงามกับการกระทำนี้ บอกวาเพื่อที่จะให้ชีวิตผมดีขึ้น มีความสุขขึ้น
นี่หรือครับที่ยังคงนับถือและให้คนเหล่านี้มากำหนดชะตาชีวิตของคุณ และหนักกว่านั้นคือ สมมุติเทพทำนายครับว่าป้าผมจะตายตอนอายุ55 จนป้าผมไม่เป็นอันกินอันนอน จนตอนนี้แกจะ60แล้ว ใช่ครับแกยังสบายดี ทำงานได้เหมือนคนปกติ แต่แปลกแกยังเชื่อในสมมุติเทพคนนี้อยู่ และเดินทางไปปฏิบัติธรรมตามที่ต่างๆประจำ อันนี้ผมไม่รู้ว่าตกลงแล้วแกเป็นคนธรรมมะธรรมโมอย่างที่แกพูดหรือป่าว แต่ที่แน่ๆ ความศรัทธาจนเกิดเป็นความงมงายของแกยังคงแน่นและยากที่จะเปลี่ยนแปลงแกได้ครับ
สุดท้ายจริงๆผมว่าการที่เราจะมีหรือไม่มีศาสนานั้นเป็นเรื่องที่ไม่ผิด ผมสามารถดำรงอยู่กับคนที่มีศานาได้ จริงๆ บาปบุญคุณโทษ ความดีความชั่วมันเป็นเพียงมายาคติสำหรับผม ผมมองว่าคนไม่มีศาสนาไม่ได้เป็นคนเลวครับ ถึงแม้ไม่มีศาสนาเป็นที่ยึดเหนี่ยวของจิตใจ แต่เราอยู่ภายใต้สังคมมนุษย์ที่มีกฏเกณฑ์ กฏหมาย ข้อบังคับหรือระเบียงสังคมที่พึงปฏิบัติอยู่แล้ว การอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขโดยไม่ทำให้ใครเดือดร้อน
โฆษณา