วิธีล้างแอร์ด้วยตัวเองแบบง่ายๆ
ขั้นตอนแรกให้ตัดไฟที่เบรกเกอร์ก่อน เพื่อตัดกระแสไฟฟ้าในวงจรออก
ถอดแผ่นกรองในมามาล้างทุก ๆ 2 สัปดาห์ แผ่นกรองเป็นส่วนที่ถอดออกมาทำความสะอาดได้ง่าย โดยการใช้นำล้างฝุ่นและสิ่งสกปรกที่หนาแน่นให้หลุดออกไป จากนั้นเช็ดให้แห้ง อย่านำไปผึ่งแดด เพราะจะทำให้แผ่นกรองเสื่อมสภาพเร็ว เพียงแค่นี้ก็เสร็จขั้นตอน
ทำความสะอาดพัดลม ส่งลมเย็น ในขั้นตอนนี้จะต้องถอดหน้ากากแอร์ออกมา จะมองเห็นแผงคอยล์เย็นที่อยู่ด้านใน ให้เตรียมน้ำเอาไว้ 1 ขัน ใส่น้ำผสมน้ำยาล้างจานลงไปเล็กน้อย นำแปรงสีฟันที่ไม่ใช้งานแล้วมา 1 อัน แล้วใช้แปรงสีฟันขัดคราบฝุ่นที่เกาะอยู่บนใบพัดออก จะทำให้พัดลมทำงานได้อย่างเต็มที่ ช่วยลดภาระการทำงานของแอร์ให้น้อยลง ประหยัดไฟได้มากขึ้น
ทำความสะอาดแผงระบายความร้อน ให้ใช้นำฉีดทำความสะอาด เพื่อขจัดฝุ่นระอองที่ติดอยู่ให้หลุดออกไป จะทำให้เครื่องระบายความร้อนได้ดียิ่งขึ้น
ตรวจสอบรอยรั่ว ให้ตรวจสอบว่าฉนวนหุ้มท่อแอร์อยู่เสมอว่ามีรอยรั่วตรงจุดไหนบ้าง หากพบความผิดปกติ ให้รีบเปลี่ยนใหม่ทันที
ประโยชน์ของการล้างแอร์
ลดค่าไฟ การล้างแอร์ในแต่ละครั้งนอกจากจะช่วยลดการสะสมของฝุ่นละอองที่อยู่ในตัวเครื่องแล้ว ยังทำให้ค่าไฟลดลงได้มากถึง 10 – 15 เปอร์เซ็นต์
ช่วยยืดอายุการใช้งาน การล้างแอร์เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องให้ดีขึ้น ทำให้ระบบต่าง ๆ ภายในทำงานได้อย่างเหมาะสม จึงลดการสึกหรอของเครื่อง ทำให้ไม่ต้องซ่อมเครื่องปรับอากาศบ่อย ๆ จึงช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ได้ ทให้แอร์มีอายุการใช้งานนานมากขึ้น ไม่ต้องเปลี่ยนแอร์ใหม่บ่อย ๆ
ช่วยขจัดกลิ่นเหม็น แอร์นอกจากจะทำหน้าที่ปรับอุณหภูมิในห้องให้เย็นลงแล้ว ยังต้องคอยกรองอากาศจากภายนอก ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นรวมถึงฝุ่นที่อยู่ภายนอก ไม่ไห้เข้ามาในห้อง การใช้แอร์ไปนาน ๆ จะทำให้เกิดการสะสมของฝุ่นและสิ่งสกปรก ทำให้แอร์มีกลิ่นเหม็น การล้างแอร์จึงทำให้อากาศที่ออกมาจากเครื่องแอร์สดชื่น ทำให้แอร์เย็นฉ่ำมากขึ้นกว่าเดิม
การล้างแอร์มีข้อดีหลายอย่างเป็นเรื่องจำเป็นที่ควรใส่ใจ หลังจากมีการติดตั้งแอร์มาระยะหนึ่ง จึงต้องมีการทำความสะอาดอุปกรณ์ที่อยู่ด้านในเครื่อง ระยะเวลาที่เหมาะในการล้างแอร์อยู่ที่ประมาณ 6 เดือน แต่หากมีการเปิดใช้แอร์บ่อย ๆ รวมถึงการพักอาศัยในที่ทีฝุ่นมาก ก็จะต้องล้างแอร์ให้บ่อยยิ่งขึ้น