29 พ.ค. 2020 เวลา 00:07
จะเปิดร้านค้าปลีกมีหน้าร้าน
หลายต่อหลายคนกังวลแต่เรื่องค่าเช่า
ค่าเช่าเท่าไรถึงเรียกว่าถูก
ค่าเช่าเท่าไรถึงเรียกว่าแพง
แล้ว ค่าเช่าตารางเมตรละ 50,000 บาท แพงไหม !!!!!
จาก blog เว็บไซส์หนึ่ง ตั้งกระทู้ไว้ว่า
“ ต้องการจะเปิดร้านน้ำแข็งใส พื้นที่ประมาณ 3x3 และเล็งไว้ที่ .... ซึ่งเป็นห้างใหญ่ อยากทราบว่าค่าเช่าคร่าวๆอยู่ที่เท่าไร
ตอนนี้ กำลังลองคำนวณต้นทุนการลงทุนอยู่ เท่าที่สังเกต ห้างนี้ วันๆหนึ่งมีคนเดินค่อนข้างเยอะ ที่ผมคิด วัยรุ่นมักจะเดินทางเที่ยวห้างนี้เป็นประจำ วันๆหนึ่งน่าจะมีโอกาสขายได้สัก 200 แก้ว ช่วยแนะนำด้วยครับ”
ค่าเช่าตารางเมตรละ 50,000 บาท แพงไปไหม !!!
ถ้าแพงไป เท่าไรถึงเรียกว่าพอดี แล้วค่าเช่าถูกๆ จะหาที่ไหนได้
ในธุรกิจค้าปลีก ค่าเช่าฟรี แต่ขายไม่ได้ ก็ถือว่าแพง
แต่ในขณะเดียวกัน ค่าเช่าตารางเมตรละ 50,000 บาท
ก็อาจนับว่าถูกมาก ถ้าขายได้ดี
ค่าเช่าแพงหรือถูก ขึ้นอยู่กับยอดขาย
มีกรณีศึกษาจริงๆ กรณีหนึ่ง ผู้ประกอบการรายหนึ่ง เช่าพื้นที่ 2 ตารางเมตร ตารางเมตรละ 50,000 บาท ค่าเช่าเดือนละ 100,000 บาท ขายเกาลัดญี่ปุ่น ราคากล่องละ 280 บาท ตั้งขายอยู่หน้าซุปเปอร์มาร์เก็ตของห้างดังแห่งหนึ่งใจกลางเมือง ซึ่งมีผู้คนเดินผ่านไปมาวันละประมาณ 5 - 6,000 คน ถ้าเขาขายเพียงวันละ 100 กล่อง กล่องละ280 บาท ก็จะได้ยอดขาย 28,000 บาท/วัน หรือ 840,000 บาท/เดือน ค่าเช่าเดือนละ 100,000 บาท/เดือน = 12 % ของยอดขาย
นี่คิดแค่ขั้นต่ำวันละ 100 กล่องนะเนี่ย !!!
ถ้าขายมากกว่านี้ ยอดขายเดือนละ 100,000 ก็ต้องบอกว่า จิ๊บ จิ๊บ !!!!!
ค่าเช่าควรเป็นเท่าไร ?
ในทางทฤษฎี ค่าเช่าไม่ควรเกิน 1 ใน 5 ของกำไรขั้นต้น หรือ 4 - 12 % ของยอดขาย ขึ้นอยู่กับประเภทของธุรกิจ (ดูตามตารางด้านล่าง)
ธุรกิจขายอาหารส่วนใหญ่ กำไรขั้นต้นอย่างน้อยๆต้องมีกำไรขั้นต้น 60 % เพราะฉะนั้นค่าเช่าก็ไม่ควรเกิน 12 %
กรณีธุรกิจขายเกาลัด ค่าเช่าเดือนละ 100,000 บาท หรือราว 12 % ของยอดขายต่อเดือนก็ถือว่าเหมาะสม
ดังนั้นการเลือกทำเลร้านค้า ปัจจัยค่าเช่าจึงไม่ใช่ปัจจัยหลักในการตัดสินใจ ปัจจัยหลักก็คือยอดขาย เราขายได้ตามที่ประมาณการได้ไหม ?
บางทำเลแม้จะฟรีค่าเช่า แต่ถ้าขายไม่ได้ ก็ยังเจ็บตัว เพราะเราต้องมีการลงทุน อุปกรณ์ ค่าตกแต่งร้าน และต้องมีค่าใช้จ่ายพนักงานประจำเดือน
แล้วจะประเมินยอดขายได้อย่างไร ?
จากกรณีกระทู้เว็บไซต์ข้างต้น ผู้ตั้งกระทู้อยากขายน้ำแข็งใส ประมาณว่าขายวันละ 200 ถ้วย ถ้าสมมุติว่าถ้วยละ 35 บาท วันๆหนึ่งก็น่าจะมียอดขายราว 7,000 บาท หรือเดือนๆหนึ่งน่าจะได้ราว 210,000 บาท
ถ้าคิดจากทฤษฎี ค่าเช่าร้านอาหารน้ำดื่มไม่ควรเกิน 12 % ของยอดขาย หรือราว 25,200 บาท
แล้วจะขายได้ไหมวันละ 200 ถ้วย
ผู้ตั้งกระทู้ก็ต้องไปสำรวจและทำการนับผู้คนสัญจรในจุดที่จะเช่าหรือที่เรียกกันว่า Traffic Count
การนับผู้คนสัญจรจะต้องนับเฉพาะลูกค้าเป้าหมายเท่านั้น
สมมุติว่าลูกค้าเป้าหมายเราเป็นสตรีวัย 25 - 40 เราก็จะนับเฉพาะลูกค้าสตรีวัยนี้เท่านั้น และในทางทฤษฎีเราจะอนุมานว่า ลูกค้าประมาณ 5 - 10 % ที่สัญจรผ่านจะเป็นลูกค้าเรา ที่กล่าวไว้ว่า 5 - 10 % ก็หมายความว่า ถ้าที่ตั้งร้านค้าคู่แข่งไม่เยอะ โอกาสที่ลูกค้าสัญจรจะแวะมาซื้อของร้านเราก็ราว 10 % แต่ถ้าที่ตั้งร้านค้ามีคู่แข่งมาก โอกาสก็จะลดลั่นเป็น 8 % เป็น 5 % ตามลำดับ
1
นี่ก็หมายความว่าถ้าผู้ตั้งกระทู้ต้องการขายให้ได้วันละ 200 ถ้วย ก็จะต้องมีผู้คนสัญจรในตำแหน่งที่ตั้งไม่น้อยกว่าวันละ 2,000 คน ถ้าน้อยกว่านี้ โอกาสที่จะขายได้ตามเป้าหมายก็ลดลง
กล่าวโดยสรุป ค่าเช่าแพงหรือถูกไม่ใช่ประเด็นหลักในการเลือกที่ตั้งร้านค้า
ยอดขายต่างหากที่ต้องประมาณการให้ได้ก่อนโดยการทำ traffic count
แล้วค่อยพิจารณาว่า ค่าเช่าที่เขาเสนอมา เราทำได้ไหม ถ้ารับไม่ไหว ก็ไปหาที่อื่นต่อไป
โฆษณา