29 พ.ค. 2020 เวลา 06:00 • กีฬา
Audax 600BRM,เขื่อนภูมิพล 2019
ปั่นแค่ไหว...ไปเขื่อนภูมิพล จ.ตาก เป็นการปั่นจักรยานทางไกลระยะทาง 600 กม. ภายใน กรอบเวลา 40 ชม.
 
ความตั้งใจก็คือขอให้ได้ปั่นไปเที่ยวเขื่อนภูมิพล...สักครั้งในชีวิตก็พอ
(9-10 พฤศจิกายน 2561)
“ปั่นแค่ไหว ไม่ไหวก็จูง ขึ้นสันเขื่อนฯ ”
“สนาม 600 ผีดิบ เนินไม่รู้จบ”
“เป็น Audax 600 สนามที่ 6 ที่ล้อเล็กลงปั่น โดยปั่นมาแล้ว 5 ครั้ง DNF ไป 1 ครั้ง ผ่านมาได้แบบหวุดหวิด 4 ครั้ง ครั้งนี้ถือว่าเป็นการเริ่มสนามแรก ฤดูกาล 2019 ด้วย Audax 600 เลย ทั้งที่ตั้งแต่เริ่มเปิดรับสมัครไม่เคยสนใจสนามนี้เลย”
แต่เพราะได้แรงสนับสนุนจากผู้ที่เคยจบสนามนี้มา 2 ท่าน คือ ผู้กองประสพโชค และสิทธิ์ Isith Jasmine ป้ายยามาว่า “สนามนี้ง่าย เนินไม่เยอะมาก ขึ้นๆลงๆ ง่ายกว่าสนาม 600 พัทยาตลาด ซะอีก” เท่านั้นแหละ!! ก่อนปิดรับสมัคร 3 วันเริ่มเกิดอาการรังเล เอาไงดีฟะ? ถ้าผ่าน 600 สนามแรกได้นี่ SR2019 นี่ใสใสเลย เพราะเหลือเวลาเก็บเหรียญสนาม 400 300 200 อีกตั้ง 11 เดือน มีอีกเป็นร้อยสนามให้เลือกเลย เอิ๊กกกกก
แต่ปัญหาใหญ่อีกเรื่องก็คือจักรยานล้อเล็กที่จะใช้ปั่นจะเอาที่ไหนดีล่ะ เพราะว่าน้องเจ้าป่าก็ใช้งานมา 4 ปีแล้วไม่น่าเหมาะกับระยะไกลๆแบบนี้แน่ๆ เพราะสภาพจักรยานเริ่มมีเสียงดังจากจุดต่างๆตลอดเวลา ส่วนน้องเจ้านายอีกคันก็ไม่ค่อยได้เอาไปปั่นทางไกลเลย ส่วนใหญ่จะปั่นซ้อมซะมากกว่า เพราะจานหน้าใหญ่มาก 60/9 ถ้าเอาไปปั่น 600 กม.นี่ร้องโอ้ยๆๆแน่ๆ เอาไงดีฟะ? คิดสิ คิดสิๆๆ
และแล้วคืนวันศุกร์ที่ 2 พ.ย. นอนคิดไปคิดว่าหลายรอบ ถึงขนาดเปิดหาข้อมูลที่เพื่อนๆเขียนรีวิวไว้ และดูคลิปต่างๆของสนามนี้เลยที่เดียว อ่านไปอ่านมาทำไมมีแต่คนบอกว่า 300 กม.หลังมันไม่ไหล มันยังมีเนินให้ไต่อีกฟะ? เริ่มไม่แน่ใจในเส้นทางและกราฟที่เห็น เอาไงดี
ความสูงรวม 2,627 เมตร ระยะทาง 300 กม.หลัง กราฟไหลลงตลอด
เอาว่ะ!! ไหนๆก็ว่างเสาร์อาทิตย์นี้ไม่มีทริปแล้ว ไปสำรวจเส้นทางมันซะเลย ถือว่าไปเที่ยวเขื่อนภูมิพล ที่อยากไปมานานละ แต่ยังไม่มีโอกาสไปสักที่ โกๆๆๆๆ พอตื่นนอนก็แวะไปตลาดนัดจักรยาน ทีโอที ก่อน เพื่อเดินดูอะไหล่จักรยานต่างๆ เป้าหมายคือขาติดกระติกน้ำ และไฟท้าย แต่เดินไปเดินมาได้มาเพียบเลย ใจไม่แข็งอย่าไปเดินนะ จะหมดเยอะ 555+
Audax 600 ที่ล้อเล็กแต่ละคันเคยปั่น
ครั้งที่ 1 - 600 พัทยา-ตราด 2015 (DNF กม.120)
ครั้งที่ 2 - 600 พัทยา-ตราด 2015 (น้องเจ้าป่า)
ครั้งที่ 3 - 600 พัทยา-ตราด 2016 (น้องเจ้าป่า+น้องเจ้านาย คันละ 300 กม.)
ครั้งที่ 4 - 600 นครปฐม-อุทัยธานี 2017 (น้องเจ้าป่า)
ครั้งที่ 5 - 600 นครปฐม-อุทัยธานี 2018 (น้องเจ้าป่า)
ครั้งที่ 6 - 600 เขื่อนภูมิพล 2019 (น้องเจ้าคุณ)
แล้วก็ออกเดินทางจาก กทม.ช่วงบ่าย ตั้งใจไปเริ่มสำรวจเส้นทางในช่วงค่ำจะได้เห็นเส้นทางมึดจริงๆ ว่าจุดไหนไฟถนนไม่สว่าง มึดแล้วมีร้านค้ามั้ย? 7-11 เยอะมั้ย? ก็เริ่มขับรถดูเส้นทางตั้งแต่ 6 โมงเย็นขับไปได้นิดเดียวก็มึด ถนนดี อากาศดีประมาณ 21 องศา ชิลล์ๆเลยถ้าอากาศแบบนี้ ไฟถนนเยอะมากช่วงแรก ดูปลอดภัย รถก็ไม่เยอะ 7-11 ก็เยอะ สำรวจเส้นทางไปเรื่อยๆจนถึงปั้ม ปตท. (ถนนแม่สอด-ตาก) กม.250 แล้วก็หยุดนอนที่นี่จนถึงเช้าเลย ซึ่งจริงๆแล้วเวลาปั่นจริงจะต้องหยุดนอนที่ CP3 จุดตรวจบ้านหนองแดน กม.194.8 แล้วปั่นผ่านมหาเนินช่วง 30 กม. แต่ตอนที่ขับรถดูเส้นทางมันมึดเลยมองไม่ออกว่าเนินเยอะ และนั้นคือหายนะในวันปั่นจริง ___T
มีโอกาสมาเที่ยวเขื่อนภูมิพลครั้งแรกดีใจมาก ^____^
พอเช้าก็แวะไปกินข้าวที่ บ้านผักรักตะวัน CP4 แวะซื้อเห็นมา 10 ก้อนเอามาเพาะ อร่อยดีกินไปหลายอันละ ^^ แล้วก็ขับรถขึ้นไปเที่ยวเขื่อนภูมิพล พอเช้าแล้วเห็นเส้นทางชัดเจนเส้นทางก่อนไปถึงเขื่อนฯ ก็เนินเยอะเอาเรื่องเหมือนกันนะนี่ แต่ก็ไม่เท่าไหร่ (นั่นๆ ไอ้เนินเยอะๆผ่านมาแล้วเมื่อคืนแต่ดันมองไม่เห็น เพราะมันมึด) และทางขึ้น 3 กม. สุดยอดจริงๆ โอ้ยยยยย จูง 3 กม.แน่ๆแบบนี้ 555+
แล้วก็ขึ้นไปสันเขื่อนฯ ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกแล้วก็ขับย้อนกลับเส้นทางเดิมไปถึงตาก ชมสะพานแขวนสวยดี ขับต่อไป กำแพงเพชร โอ้ยๆๆหมาเยอะมากๆๆ ขนาดขับรถมันยังไล่กวดเลยๆ แบบนี้ต้องหานกหวัดมาเป่าสู่มันซะแล้ว ขับต่อไปถึงนครสวรรค์ และก็เข้าอุทัยฯ เป็นอันจบภารกิจสำรวจเส้นทาง และมาเที่ยวเขื่อนภูมิพลครั้งแรกในชีวิต ซึ้งจริงๆ 300 กม.หลังก็มีเนินนะแต่ก็ไม่ค่อยรู้สึกว่าเยอะสักเท่าไหร่ เพราะว่าขับรถ แต่จะสังเกตได้ว่าหมาเยอะมากๆ ถ้าปั่นมากลางขึ้นคนเดียวจะขนาดไหน คงไล่กันเป็นฝุงแน่ๆ
และแล้วล้อเล็กก็มีเวลาเตรียมตัว และซ้อมอีก 4 วันที่เหลือ ก็เลยปรึกษาเฮีย ร้าน MY80Bike ขาย ซ่อม อัพเกรด จักรยานพับ รถพับ และจักรยานทุกประเภท เรื่องจักรยานคันใหม่ เพราะว่าถ้าเอาน้องเจ้าป่าคันเก่าที่ใช้มาแล้ว 4 ปีไปสนามนี้น่าจะไม่รอดแน่ๆ และก็ถือโอกาสทดสอบจักรยานคันใหม่ด้วยสนามนี้ไปด้วยซะเลย เฮียเป้บอกมีอยู่คันหนึ่งพอดีสีขาวเหมือนเดิม เย้!
CRIUS Smart 2.0
การเตรียมตัว...ก่อนปั่น
* ร่างกาย : สมบูรณ์ดีอ้วนเหมือนเดิม ได้ซ้อมปั่นบ้างวันละประมาณ 20-40 กม. ประมาณ 3-4 วัน ตั้งแต่ก่อนที่จะไปสำรวจเส้นทาง และก็ก่อนมาประกอบยานใหม่อีกหนึ่งวัน
* จักรยาน : 7 พ.ย. นัดประกอบจักรยานคันใหม่กับเฮียเป้ เป็นรุ่นเดิมคือ Crius Smart 2.0 ไม่มีเกียร์ 14” เฟรมรุ่นใหม่ไม่ซ่อนสายเหมือนคันแรกแล้ว จานหน้า 48 เฟืองหลัง แฮน บลูฮอน หลังอานเป็นสูบในตัว บันไดปลดเร็ว เปลี่ยนกร้ามแบรกใหม่ คอยาวขึ้นจากเดิน 3 ชม. ต่อสเต็มเพื่อให้ไม่เมื้อยเวลาปั่นทางไกล ส่วนอื่นๆก็คลายๆเดิม
* อะไหล่ : เตรียมยางในสำรอง 4 เส้น ,ยางนอก 2 เส้น , อุปกรณ์ปะยาง 1 ชุด ,ซี่ลวดสำรอง ,ตัวไขซี่ลวด ,สายเคเบิลรัดของ,เทปพันสายไฟ, ไขควงหกเหลี่ยมขนาดเล็กมีตัวตัดลวดด้วย (ซื้อมาใหม่)
* ไฟส่องสว่าง : ไฟหน้า 2,000 Lm 1 ตัวพร้อมแบท 4 ก้อน , ไฟหน้าแบบใส่ถ่าน 1 ตัว , ไฟหลังแบบชาร์ต 1 ตัว , ไฟหลังแบบใส่ถ่าน 3 ตัว, และยังมีไฟที่ติดมากัยหมวก 1 ตัว
* เสื้อสะท้อนแสง : ตัวเก่าตั้งแต่ปีที่แล้วที่ สกรีนโลโก้ ปั่นแค่ไหว ก็ยังใส่ได้สบายๆ
* พาวเวอร์แบงค์ : เตรียมไป 3 ตัว เพราะรอบนี้ต้องชาร์ตไมล์กามินด้วย
* ไมล์จักรยาน : เพิ่งเริ่มใช้กามิน 520 มาได้ 4 เดือน เพื่อแก้ปัญหาปั่นจบแต่ระยะไมล์เพี้ยนและก็ยังมีสำรองอีกอันที่ใช้ดุมวัดรอบล้อเหมือนเดิม
* สัมภาระอื่นๆ : เสื้อสำรอง 1 ตัว , กางเกงสำรอง 2 ตัว , ถุงมือ 2 , ถุงเท้า 2, ผ้าบัฟ , รองเท้าผ้าใบสำรอง, กระเป๋ากันน้ำ 1 ใบ, สายชาร์ตแบต และล้อสำลอง 1 คู่
* ฝากสัมภาระไว้กับรถเซอร์วิสพี่บอล : พวกกระเป๋าต่างๆ ยางนอก 1 เส้น และล้อสำรอง
เรื่องราวที่เขียนขึ้นเป็นเพียงมุมมองของนักปั่นล้อเล็กๆ ปั่นได้ไม่เร็ว จักรยานก็ไม่มีเกียร์ ตามใครไม่ค่อยทัน ปกติจะต้องปั่นคนเดียว ต้องเอาตัวรอดตัวคนเดียวให้ได้ในเส้นทางไกลและเปลี่ยวๆในเวลามึดๆ อุปกรณ์ ล้อ ยาง อะไหล่จักรยานก็ไม่เหมือนใคร ดังนั้นอุปกรณ์ที่พกต้องพร้อมมากกว่าคนอื่น รูปแบบการปั่นก็อาจจะไม่เหมือนนักปั่นเสือหมอบที่ปั่นเร็วๆกัน ล้อเล็กใช้วิธีปั่นไปเรื่อยๆตามแรงขา เกาะใครได้ก็เกาะไปเรื่อยๆ ปั่นแค่ไหวไม่ไหวจูง ก็นอนพัก มันคือการปั่นแบบ "ปั่นแค่ไหวสไตล์"
เมื่อได้ล้อเล็กคันใหม่สมใจก็ดึกละ กลับไปบ้านก็เริ่มเอาอุปกรณ์ต่างๆที่จำเป็นมาประกอบ โหลดแผนที่ เตรียมอุปกรณ์ต่างๆ เพราะวางแผนว่าจะไปนอนที่อุทัยธานีคืนวันที่ 8 พ.ย. เพื่อนอนพักให้เต็มที่สัก 1 คืน เพราะถ้าเดินทางมาวันที่ 9 พ.ย. แล้วไม่ได้นอน ต้องปั่นคืนวันที่ 9 พ.ย. เวลา 20:oo น. เลยน่าจะได้พักน้อยไปหน่อย
ต้องขอบพระคุณพี่ช้าง กับ พี่เก๋ Apiradee Kay มากๆ ที่จัดการเรื่องจองที่พักให้ เป็นเจ้าถิ่นที่น่ารักและใจดีมากๆครับๆ แล้วก็ออกเดินทางไปอุทัยธานีช่วงเย็นไปถึงก็มึดแล้ว พี่เก๋แวะมาเลี้ยงข้าว แล้วพาไปส่งที่พัก #บ้านผู้ใหญ่ นอนสบาย อาหารอร่อย (ลูกสาวก็น่ารัก ^^ )
 
คืนนั้นฝนตกหนักมากที่นี่
ประกอบเสร็จสมบูรณ์ โดยเฮียเป้
วันที่ 9 พ.ย. ก็แวะไปตัดผม กินข้าว และก็ขึ้นไปไหว้พระเอาฤกษ์เอาชัย เป็นศิริมงคลแต่ตัวเราเอง ขอแค่ปั่นแล้วปลอดภัยตลอดเส้นทางก็พอ แล้วก็กลับไปที่พัก รีบนอนพักผ่อนให้เต็มที่ เอาจริงๆก็นอนหลับไปประมาณ 1 ชม.กว่าๆ แล้วก็เริ่มนอนไม่หลับแล้วเพราะมันนอนผิดเวลา ก็เลยลุกมาจัดเตรียมของ เตรียมความพร้อม เอ้าๆๆ สู้โว้ยๆๆๆๆๆๆ
ขึ้นมาไหว้พระก่อนปั่น
พอ 5 โมงเย็นก็ไปลงทะเบียนรับเอกสาร แล้วก็ไปแวะไปกินข้าวกับพี่ช้าง Nipon Tatpong พี่บอล Parinya Bangsuwan และก็น้องจุ๋ม พันโลฯ Sansri Jintanaแล้วก็ขอฝากสัมภาระต่างๆไว้ที่รถพี่บอลเลย กราบขอบพระคุณพี่บอลงามๆ ที่ให้ฝากสัมภาระไปด้วยในทริปนี้
คนน่ารักมาเจอกัน
ออกตัวกลางคืน โต้เนินไปเขื่อนภูมิพล ขากลับเลาะน้ำปิง "อุทัย-แม่วงก์-เขื่อนภูมิพล-กำแพงเพชร-อุทัยฯ"
เส้นทาง ระยะทางในการปั่น
เส้นทางการปั่น
จุด CHECK POINTS ต่างๆที่ผู้จัดกำหนด
จุดพักต่างๆ ที่ผู้จัดกำหนด
START : วัดสังกัสรัตนคีรี
จุดปล่อยตัว วัดสังกัสรัตนคีรี ช่วงเย็นที่มาลงทะเบียนก่อนเจอนักปั่นหน้าตาคุ้นเคย และก็ไม่คุ้นเยอะเลย เพราะล้อเล็กนานๆจะปั่นสนามทางไกล 600 กม. สักที เดี๋ยวนี่นักปั่นเก่งเพียบๆ ส่วนหน้าเก่าๆก็ยังอยู่กันเพียบเหมือนเดิม เจอพี่วี อันอัน พี่นักปั่นชาวนา ทริปนี้มาด้วยล้อโต เชอรี่พันโลฯ น้องจุ๋ม พี่ต่อ และนักปั่นคนอื่นเยอะ จำได้บ้างไม่ได้บ้างต้องขออภัย
สามทหารเสือ
ส่วนแก็งค์เรารวมตัวกันได้ 3 คนคือ สิทธิ์ Isith Jasmine และพี่เบญ Bengy Bigboy ส่วนผู้กองประสพโชค ติดภารกิจสำคัญมาไมไ่ด้ พี่เก๋ พี่ช้างก็มาส่ง มีพี่บอลคอยขับรถเซอร์วิสตลอดเส้นทาง รู้สึกอุ่นใจมาก เพราะเวลาไม่ไหวแล้วต้องยก สบายเลย 555+
จุดลงทะเบียน
ช่วงก่อนปล่อยตัว นักปั่นก็เริ่มทะยอยมา ลงทะเบียน ทักทาย ถ่ายรูปกันสนุกสนาน ประหนึ่งว่ามาปั่นเปิดเมืองชิลล์ๆ 50-60 โลฯ เพราะว่าแต่ละคนขาแรงทั้งนั้นจักรยานที่ใช้ก็น่าจะเป็นเสือหมอบ 95% ที่เหลือก็ล้อโต และก็มีล้อเล็ก 1 คันเท่านั้นทริปนี้จากนักปั่นทั้งหมด 188 คน ที่ลงทะเบียน (แต่ปั่นจริง 168 คน)
เปิดตัวทริปแรกก็ 600 กมเลยนะ “น้องเจ้าคุณ"
คลิป 1 : ก่อนปล่อยตัว : https://web.facebook.com/PUNKAEWAI/videos/200446287521289/
หน้าตาคุ้นๆ
คลิป 2 : ปล่อยตัว : https://web.facebook.com/PUNKAEWAI/videos/711452932586617/
CP1 : เทศบาลตำบลลาดยาว (57 กม.)
พอใกล้ถึงเวลา มีการยืนสงบนิ่งไว้อาลัยให้นักปั่นที่เสียชีวิตสนาม 300 เขาใหญ่ และตรวจไฟส่องสว่างของจักรยานนักปั่น แล้วติดสติกเกอร์ปล่อยตัว (ปล่อยก่อนเวลานิดหน่อย) แผนที่เตรียมไว้คือปั่นตามพี่เบญและสิทธิ์ ไปเรื่อยๆ เท่าที่จะปั่นตามไหว เพราะรอบนี้เค้าเอาเสือหมอบมาทั้งคู่ ล้อเล็กโดนทิ้งแน่ๆ ว๊ากกกก
เหล่าผู้บ้า 555+
ปี้ดๆๆ ปล่อยตัวๆๆ
พอออกตัวเท่านั้นแหละ ไม่ถึง 50 เมตร ตรงหน้าวัดฯ ไมล์สำรองไม่ทำงานจร้าๆๆๆ เวงกำ!! ต้องหยุดตรวจสอบ คิดว่าดุมที่ติดตรงล้อหน้าอาจจะไม่ตรง พอจอดเช็คมันก็ตรงอยู่นะ ทำไงดีนักปั่นคนอื่นก็เริ่มแซงไปกันหมดละ เลยตัดสินใจปั่นต่อเพราะยังมีไมล์หลักอยู่อีกตัว ปั่นไปเรื่อยๆไมล์สำรองมันก็ดับบ้างติดบ้าง ปั่นมาได้สัก 2 กม.เลยจอดดูอีกรอบ ลองย้ายไฟหลักไปอีกฝั่ง เพราะเคยได้ยินว่าติดไฟไว้ไกล้ ไมล์ ระวังระยะไมค์จะเพี้ยน
ย้ายจุดไฟ
และก็จริงๆด้วย พอย้ายไฟเสร็จไมค์ก็ทำงานได้ปกติ ช่วงนี้เสียเวลารื้อไฟไปหลายนาทีจนเพื่อนๆนักปั่นปั่นแซงไปกันเกือบหมดละ รีบปั่นตามไป ปั่นมาเรื่อยๆแทบไม่เจอใครเลย เจอนักปั่นแซงไปไม่กี่คนและก็เห็นปั่นตามหลังมาแค่ 1-2 คน
พี่จักรยานชาวนา แต่ทริปนี้ใช้ล้อโต
ปั่นมาเรื่อยๆ แล้วก็เจอพี่เก๊กจักรยานชาวนา หน้าตาคุ้นเคยเจอกันล่าสุดคือ 200 อยุธยา ทริปนี้ปั่นจักรยานล้อโต ดูแปลกตาไป ทักทาย ถ่ายรูปแล้วก็แซงไป ถนนช่วงนี้ดีมากๆไฟสว่างตลอดทาง ดูแล้วปลอดภัย รถก็น้อยด้วย
ปั่นไปเรื่อยๆ แล้วก็มาเจออันอันกับพี่วีกำลังปะยางกันอยู่ ถามไปว่าให้ช่วยมั้ย? อันบอกว่าให้ไปก่อนเลย ล้อเล็กมีน้ำใจมากปั่นต่อไปเลย 555+ ปั่นไปเรื่อยๆตอนนี้พี่เบญกับสิทธิ์ไม่รู้ไปถึงไหนกันแล้ว หายไปเลยๆๆๆๆ
สักแปบอันกับพี่วีก็ตามมาทันก็เลยได้ถ่ายรูปและไลค์สดกันสักแปบนึ่ง ปั่นไปคุยกันไป ดูแล้วน่าอิจฉาคนปั่นเป็นคู่น่าแอบตัดซี่ลวดจริงๆ 555+
คลิป 3 : เจออันอันกับพี่วี
คลิป 4 : ปั่นตามอันอัน :https://web.facebook.com/PUNKAEWAI/videos/251120472247156/
ระหว่างทางก็เจอนักปั่นที่ปั่นกันกลุ่มใหญ่แซงไป บางคนก็ปั่นคนเดียว ก็ยังดี ยังพอเห็นนักปั่นด้วยกันบ้าง เพราะทีแรกคิดว่าอยู่ท้ายสุดคนเดียวซะแล้ว
อุส่าเอายางนอกมาให้ ด้วยความมีน้ำใจของล้อเล็ก 55+
แล้วอันอันกับพี่วีก็ปั่นนำไป ด้วยรอบขอที่ไม่เท่ากัน ยังไงล้อเล็กก็ตามเสือหมอบไม่ทันอยู่แล้วๆ แต่ปั่นไปไม่เท่าไหร่ พี่วีโดนไม่ลูกชิ้นเสียบเข้าเต็มๆ ยางรั่วอีกแล้วๆ เลยจอดเป็นกำลังใจถ่ายรูปกันสักหน่อย แล้วก็ปั่นนำไปก่อน “ปั่นต่อ....ไม่รอแล้วน้าๆๆๆๆ”
ขอบคุณเพื่อนนักปั่นที่ถ่ายรูปให้นะครับ
ช่วงนี้ไฟสว่างเกือบตลอดเส้นทาง ก็พยายามประหยัดไฟโดยเปิดไฟโหมดเบาสุดเวลาเจอถนนช่วงที่ไฟถนนสว่างๆ เพราะว่าต้องปั่นข้ามคืน 2 คืนเต็มๆ มีช่วงหนึ่งเสือหมอบมากัน 3 คนก็เลยปั่นตามๆเค้าไป ดูดๆๆ ความเร็วพอจะตามไปได้ก็เลยดูดไปหลายโลฯ แต่สักพักมีกลุ่มใหญ่ตามมาข้างหลังคิดว่าเค้ามาด้วยกันกับ 3 คนแรกก็เลยปล่อยให้แซงขึ้นไป แล้วล้อเล็กก็ไปอยู่ท้ายสุดแทน แต่ปรากฎว่าเค้ามาคนละทีม พี่เสือหมอบ 3 คนที่ดูดมาเริ่มหายไปๆๆ ขบวนใหญ่ที่เราดูดมาก็ไม่ตามไป เลยตัดสินใจแซงกลุ่มใหญ่ไปคนเดียวตั้งใจจะไปเกาะเสือหมอบ 3 คันนะ แต่ไม่ทันแล้วจร้าๆ หมดแรงเองซะก่อน ก็เลยปั่นไปเรื่อยๆ จนถึง CP1 (22:19 น.)
เพิ่งมาถึง มันก็ยังมึนๆหน่อย
เข้ามาถึงแล้วรู้สึกอุ่นใจ เพราะทีแรกตั้งแต่ออกตัวช้านึกซะว่าจะไม่เจอใครซะแล้ว พอมาถึงเจอคนคุ้นเคยเพียบ พี่เก๋ พี่ช้างก็ยังมาให้กำลังใจ พี่บอลก็ยังตามเซอร์วิสตลอด แต่น้องจุ๋มน่าจะออกไปนานแล้ว เข้ามาเจอพี่เบญ แต่ไม่เจอสิทธิ์คิดว่าคงนำไปกับกลุ่มใหญ่แล้ว
ทีมเซอร์วิสทรงคุณค่าแห่งปี พี่เก๋ พี่บอล พี่ช้าง
ยังตามมาทันเจอสาวเชอรี่ด้วยดีใจมาก เพราะปกติจะเจอกันแค่จุดปล่อยตัวและเส้นชัย พอลงเวลาเสร็จ ถ่ายรูปนิดหน่อย ก็ชวนพี่เบญออกตัวเลย แล้วไปหาอะไรกินกันที่ปั้มหน้า แต่กำลังจะออกตัวก็เจออันกับพี่วีกำลังเข้ามา และสิทธิ์ก็ตามาติดๆ “อ้าวๆ สิทธิ์หายไปไหนมานึกว่าไปซะแล้ว” แต่ล้อเล็กกับพี่เบญก็ออกกันมาก่อนไม่ได้รอ เพราะปั่นทางไกลแบบนี้ถ้าไม่ได้ซ้อมด้วยกันมารอบขาไม่เท่ากันอยู่แล้ว ต้องใช้วิธีปั่นไปเรื่อยๆตามแรงขาตัวเอง เจอกลุ่มไหนเกาะได้ก็ไป ไม่ไหวก็ผ่อน
เจอนางฟ้านักปั่น "เชอรี่"
พี่บอลถ่ายได้หล่อมาก
ออกมาจาก CP ได้ก็คำนวนหาจุดพักต่อไปเลย เพราะตั้งใจไปแวะปั้มข้างหน้าทางซ้าย ตามที่เคยเห็นตอนมาสำรวจเส้นทาง แต่ปรากฎว่าปั้มมันปิดไม่มีร้านสะดวกซื้อด้วย อ้าวผิดแผน พี่เบญบอกว่าอีก 10 กม.มี 7-11 และพี่เบญเป็นคนแถวนี้ด้วย อ้าวสบายแล้วๆๆ แต่ปั่นไปไม่กี่กิโลฯ เจอปั้ม ปตท.อยู่ทางขวา เลยจอดพักเติมน้ำกันก่อน พี่เบญป่วยก่อนมาปั่นดูร่างกายอ่อนล้ามากๆ ไม่แน่ใจจะไหวหรือป่าว และที่สำคัญแบกสัมภาระอุปกรณ์ต่างๆมาเยอะมาก พักได้ 10 นาที ก็ชวนพี่เบญไปต่อเถอะเรา เพราะช่วงแรกแรงยังดี ถนนยังมีไฟสว่างต้องรีบทำเวลาบวกให้เยอะที่สุด
พักเติมน้ำกับพี่เบญ
ปั่นกันออกมายาวๆ ความเร็วพี่เบญเริ่มตกลง สงสัยจะเริ่มง่วงเพราะปกติเคยปั่นกับพี่เบญหลายสนามช่วงกลางคืน พี่เบญมักจะปั่นไม่ค่อยออกเพราะอดนอนไม่ค่อยได้ ล้อเล็กปั่นนำมาก่อน พี่เบญเร่งตามมาข้างหลังแล้วบอกว่า “สิงห์ถ้าผมปั่นตามไม่ทัน ไปก่อนได้เลยนะ”
ก่อนปั่นนำไปสักพักอย่างห่างๆ พอเจอเนินล้อเล็กก็ต้องเร่งขึ้นเพราะว่าไม่มีเกียร์เลยต้องเร่งส่ง หันมาอีกทีพี่เบญเริ่มห่างไปเรื่อยๆๆๆ ปั่นมาสักพักก็มีกลุ่มใหญ่แซงไปก็เห็นสิทธิ์เกาะมาด้วยก็เลยปั่นตามไปแล้วถามว่าเจอพี่เบญมั้ย สิทธิ์บอกว่าตามมาอยู่ข้างหลังไกลๆ
ช่วงนี้ถนนก็เริ่มมีมึดๆ ไม่มีไฟเลย ช่วงไหนที่ปั่นคนเดียวก็น่ากลัวเหมือนกัน แต่ยังดีที่ก็ยังเจอนักปั่นตลอดเส้นทาง ปั่นกับสิทธิ์สักพักแล้วสิทธิ์ก็ไปนำหายไป เจอพี่ต่อแซงไปทักทายกัน แล้วพอว่าเห็นพี่เบญตามหลังอยู่ท้ายๆเลย ดูท่าท่างจะหมดแรง
ช่วงนี้ก็ปั่นมาเป็นร้อยโลฯละ ยังเจอนักปั่นอยู่เรื่อยๆ แล้วก็มาถึง CP2 (01:52 น.)
CP2 : 7-11 คลองลาน (130.2 กม.)
มาถึง Cp2 นักปั่นเพียบเลย ต้องต่อคิวกันเสียเวลานิดหน่อย เจอนักปั่นหลายๆคน อันอันกับพี่วีก็มาถึงแล้ว
สวรรค์ของนักปั่น "7-11"
เริ่มหมดแรง
เติมพลัง ซื้อน้ำ เติมเกลือแร่ ซื้อของกินตุนไว้นิดหน่อย พังเหนื่อยไม่นานก็รีบออกไปต่อเลย เพราะตอนนี้ทำเวลาได้ดีมากเวลาบวกอยู่ประมาณ 3 ชม. ก่อนออกก็เห็นพี่เบญตามมาทันพอดี ก็เข้าไปบอกว่าไปก่อนนะ ส่วนพี่เบญของพักนอนก่อนสักตื่น
ก่อนออกมีน้องผู้หญิงคนหนึ่งขอปั่นออกมาด้วยกัน สอบถามได้ความว่ามากับพี่ๆ แต่พี่ๆเค้าขอนอนกันสักตื่นเลยอยากออกมาก่อน น้องเค้าตั้งใจจะเก็บ SR ภายใน 1 เดือนให้ได้เพราะเพิ่งไปจบ 300 เขาใหญ่มา เอาใจช่วยสู้ๆนะครับๆ
เราปั่นมาด้ยกันได้ไม่กี่โลฯ ดูแล้วรอบราน้องเค้าแรงมากก็เลยบอกว่า ไปก่อนได้เลยนะ เกาะกลุ่มหน้าไปเลย แล้วน้องเค้าก็หายๆๆๆไปเลย ไม่เจออีกเลยตั้งแต่วันนั้น 555+
แวะเติมแรง พักขา
ปั่นมาเดี่ยวๆคนเดียวหลาย 10 กม. จำได้ว่าจะเจอปั้มปตท.ใหญ่ซ้ายมือก่อนต้องเลี้ยวไปทางเล็กๆที่ไม่ค่อยมีร้านค้า เลยหยุดพักเติมพลังมาม่า และตุนของกินอีกแล้วจร้าๆ 7-11 มันโล่งๆมากๆๆ ไม่เจอนักปั่นท่านอื่นเลย สงสัยล้อเล็กปั่นไวเกิ้นเค้าตามไม่ทัน 555+
(คือว่าเค้าไปกันหมดแล้วๆๆๆๆๆๆ)
ถ่ายรุปเป็นที่ระทึก จุดเริ่มต้นของบัดดี้ชั่วคราว
แล้วก็สิทธิ์ก็ตามมาเจอกันที่ปั้มปตท. ถ่ายรูป พักเหนื่อยกันนิดหน่อยแล้วก็ไปต่อเลยๆ เราปั่นไปเรื่อยๆ เจอทางมึดๆ ทั้งเนินขึ้น เนินลง เจอนักปั่นบ้างพอสมควร เป้าหมายต่อไปคือ CP3
ขอบคุณรูปจากพี่บอล
ปั่นไปเรื่อยๆ ช่วงนี้เริ่มจำไม่ได้ละ รู้แต่ว่าไปถึง CP3 เวลาดีมากบวกอยู่ 3 ชั่วโมง 20 นาที พี่บอลก็ออกมาทักทายและถ่ายรูปให้ ดูแลดีจริงๆ แล้วเราก็นอนพักกันแบบยาวๆสักงีบ ตั้งเวลาปลุกไว้ 06.15 น. ถือว่าเป็นการนอนแบบจริงจังครั้งแรกด้วย
ในที่สุดสิทธิ์ก็เสร็จล้อเล็ก 555+
ก็จะดูตันๆหน่อยข้างหลัง
ตื่นมาอย่างสดใสล้างหน้าล้างตาเข้าห้องน้ำ ฝากแบตไฟไว้ให้พี่บอลชาร์ตเพื่อใช้ในคืนที่สอง ก่อนออกตัวก็เจอพี่ต่อเพิ่งกำลังเข้ามากัน 3-4 คน แล้วถามหากางเกงปั่น เพราะนักปั่นในทีมมีปัญหาเรื่องกางเกง ก็เลยเอากางเกงขาสั้นสำรองให้ยืมไป แล้วล้อเล็กกับสิทธิ์ก็รีบออกตัวไปกันก่อนเลย
CP3 : จุดตรวจบ้านหนองแดน (194.8 กม.)
ชอบใจสนามนี้มากก็เพราะผู้จัดมีตากล้องตามถ่ายตลอดทุก Cp เลย ได้รูปเยอะสบายเลย เพราะว่าทริปนี้ตั้งใจไม่แบกกล้องมาอยู่แล้ว
คลิป 5 : ช่วงเช้าก่อนเจอเนิน : https://web.facebook.com/Isith.Jasmine/videos/vb.100001962195751/2340482056027178/?type=3
ปั่นออกมากันสองคน ถ่ายรูปไลค์สดกันสนุกสนาน เจอเนินขึ้นๆลงๆ แล้วจักรยานดันตกหลุม แฮนด์ที่ต่อสเต็มมาเลื่อนเลยต้องหยุดแก้ไขนิดหน่อย ช่วงนี้ก็มีนักปั่นเริ่มปั่นตามๆกันมาและก็แซงกันไปหลายคัน พอแก้ไขเสร็จก็ปั่นกันต่อไป
ช่วงนี้เริ่มหมดแรงเพราะยังไม่ได้กินข้าวกันเลยต้องเริ่มมองหาร้านข้าวแต่ก็ไม่เจอ
ปั่นไปจนถึงสามแยกใหญ่เลี้ยวซ้ายไปช่วง กม. 213 เริ่มทนหิวไม่ไหวละเจอร้านค้าก็แวะจอดหาข้าวกินเลย
เป็นร้านก๋วยเตี๋ยว แต่ป้ายังต้มน้ำไม่เดือดเลย ก็บอกป้าไปว่ามีอะไรก็กินได้ สรุปว่าได้ปลาทอดกะปลากรอบมา 2 ถุง น้ำปลาพริกและก็ข้าวปาว ระหว่างนั้นก็มีนักปั่นๆแซงๆกันปั่นก็เรียกกินข้าวด้วยกัน มีพี่นักปั่นคนหนึ่งหยุดกินด้วย แถมเลี้ยงข้าวมื้อนี้เราด้วย ขอบพระคุณครับๆ
ระหว่างนั้นก็หันไปเจออันอันกับพี่วีปั่นแซงไปเรียกกินข้าวก็ไม่หยุด เหมือนอันอันกำลังจะรีบไปหาห้องน้ำเข้านะ อิอิ และก็มีนักปั่นอีก 3 คนหยุดพักด้วยจะกินข้าวด้วยกัน แต่เนื่องจากมันมีกลับข้าวแค่นั้นจริงๆเลยไม่ได้กินแล้วไปหาเอาข้างหน้ากันเองต่อ ขนาดล้อเล็กเองยังกินไม่อิ่มเลยเพราะมันเริ่มเหนื่อยมากและกินไม่ลงด้วย แล้วเราก็ไปกันต่อ
30 กม. เนินไม่รู้จบ
และแล้วหายนะก็มาเยือนจนได้ “30 กม. เนินไม่รู้จบ” เจอเนินตลอดเวลาขึ้นๆลงๆ จนจะอวกเป็นเนินอยู่แล้ว ปั่นเท่าไหร่ก็ไม่หมดเนินสักที่ สิทธิ์ก็บอกว่าเนินเยอะอยู่นะ แต่ในหัวตัวเองก็มาขับรถสำรวจเส้นทางเองแล้วนะทำไมไม่เจอเนินเยอะขนาดนี้ฟะ?
ก็จะเจอได้ไงละ คืนนั้นที่มาขับรถสำรวจเส้นทางมันเลยไม่ค่อยรู้สึกเพราะเนินไม่ได้สูงมาก แต่มันเป็นเนินตลอด แล้วดันมาช่วงมึดด้วยก็เลยมองไม่เห็นอีก พลาดละเส้นทางนี้สำรวจผิดเวลาดันมากลางคืนมันเลยไม่เห็นเนินว่ามันมีเยอะมากๆๆ โอ้ยยย ตายๆแล้วๆๆ ช่วยล้อเล้กด้วยๆๆปั่นไปเรื่อยๆถึงจะท้อก็ต้องปั่นกันต่อไป มีหยุดแวะร้านกาแฟเติมคาเฟอีนสักแก้ว ได้มะละกอหวานจากนักปั่นสาวมาหนึ่งชิ้นชื่นใจมากๆๆ โกๆๆๆ ไปต่อๆๆๆ พอออกมาถึงถนนใหญ่ แม่สอด-ตาก เลี้ยวขวาไปก็ลงเนินยาวๆเกือบ 10 โลฯ แต่ก็มีปีนขึ้นเนินบ้างก่อนที่จะไหลไปอีก
แล้วเราก็มาถึง CP4 (12:56)
"ช่วง 30 กม.นี้นักปั่นที่ปั่นเสือหมอบหรือจักรยานมีเกียร์อาจจะไม่ค่อยเดือดร้อนมากนัก เพราะยังไงก็มีเกียร์ผ่อนแรงช่วย ปั่นไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็ถึง แต่สำหรับล้อเล็กไม่มีเกียร์เนินแบบนี้ไม่ชอบเลย เพราะว่ามันเยอะมากๆๆๆๆ เดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลง บางทีขึ้นไปไม่ลง ดันขึ้นต่ออีกโอ้ยๆอยากจะร้องไห้ สู้เป็นเนินสูงๆสัก 3-4 เนินไม่ได้ แล้วก็ไหลลงยาวๆจะช่วยผ่อนแรงได้ดีกว่าเนินเยอะๆแบบนี้ __T"
CP4 : บ้านผักรักตะวัน (253.5 กม.)
ช่วงที่เรามาถึง มีนักปั่นอยู่ไม่เยอะมาก ฝนก็เพิ่งจะตกไปรีบกินข้าวกันเติมพลังให้เต็มที่เพราะ CP ต่อไปอีก 63 กม. ต้องเจอเนินอีกเยอะและต้องปีนขึ้นเขื่อนภูมิพลอีกด้วย
เจอพี่ต่อ น่าจะมาถึงนานแล้ว คงได้นอนพักยาวๆ เจอทีมเชอรี่กำลังจะไปต่อ
ช่วงนี้ทำไมดูนักปั่นบางตาจัง ถามแม่ค้าว่ากลุ่มแรกมาถึงกันกี่โมง
“กลุ่มแรกมาถึงตีห้า”
โอ้ยๆๆจะรีบไปไหนกัน 555+
เราไม่รีบก็ไปเรื่อยๆ จริงๆก็รีบนะแต่ปั่นได้แค่นี้แหละ ^^
พอหายเหนื่อยก็รีบไปกันต่อ ช่วงนี้ฝากเสื้อสะท้อนแสงพี่บอลไปกับรถเซอร์วิส เพราะคิดว่าสว่างแล้ว และเสื้อมันก็ไม่พริ้วใส่แล้วอึดอัดบ้างนิดหน่อย แต่ก็เปิดไฟท้ายปั่นตลอด เพราะดูเหมือนว่าไม่มีแดดเลยฟ้าก็ครึ้มๆเพราะฝนเพิ่งตกไป
เราปั่นไปทางถนนเลี่ยงเมืองตาก และลัดเลาะไปตามถนนเลียบแม่น้ำปิง มุ่งหน้าไปเขื่อนภูมิพล ปั่นไปได้นิดเดียวเริ่มดูระยะทางเราอยู่แถว กม.275 แต่เริ่มมีนักปั่นขาแรงกลุ่มแรกปั่นกลับมาจากเขื่อนภูมิพลแล้ว ถ้าเทียบระยะทางไปกลับพวกเค้านำล้อเล็กอยู่ร้อยกว่าโลฯเอง 555+ จะรีบไปไหนกันนัก ช่วงนี้ 60 กม. ปั่นไปเรื่อยๆก็จะมีนักปั่นสวนกลับมา จะเจอกันตลอดรู้สึกกดดันนิดหน่อย จะรีบไปไหนกัน ^^
แต่พวกเราไม่สนใจปั่นไปเรื่อยๆตามสไตล์เรา “ปั่นแค่ไหว ไม่ไหวก็นอนพัก” แบบว่ามันสบาย สบายๆ 555+ ปั่นมาช่วงหนึ่งเจอทุ่งนาวิวสวยสิทธิ์ขอจอดถ่ายรูปก่อนก็เลยได้รูปเท่ห์ๆมาหลายรูปเลย แล้วก็เริ่มเกินอาการง่วงมากๆ เนินก็เยอะเลยหยุดพักนอนข้างทางกัน 15 นาที
หลังจากตื่นมาก็สดชื่นแล้วก็ลุยกันต่อ เนินก็จะเยอะไปไหนล่ะนี่ ปั่นไปจนถึง 7-11 หน้าเขื่อนฯ ก็เลยแวะกินก๋วยเตี๋ยวเติมพลังกันหน่อย แล้วก็เริ่มนึกถึงพี่เบญว่าเป็นยังไงบ้าง ดูจากในกลุ่ม Line พี่เบญก็เข้า CP3 หลังเราออกมาไม่เท่าไหร่ น่าจะไปนอนพักมาถึงเข้าช้า แล้วก็คงตามพวกเรามาเรื่อยๆๆ
แต่ๆนั่งกินก๋วยเตี๋ยวอยู่ ก็มีรถตู้เซอร์วิสขับผ่านไป อ้าวๆ นั่นมันจักรยานพี่เบญนี่หว่า เรียบร้อย...ยกแล้วแต่ๆเลย เราเลยรีบกินแล้วก็ไปก่อนต่อเพราะว่าทางข้างหน้าคือขึ้นสันเขื่อนฯชั้น 3 กม. จูงตลอดแน่ๆตรูพอออกตัวก็ไต่เนินกันเลย ช่วงนี้สิทธิ์นำไปก่อนเลยเพราะจักรยานมีเกียร์สบายอยู่แล้วๆๆๆ
รูปสวยๆจากเชอรี่
โอ้ยๆๆ ยังไม่ขึ้นสันเขื่อนฯเลยก็เจอเนินสูงๆเพียบเลย เริ่มปั่นไม่ไหวจูงมันซะเลย เจอทีมเชอรี่ปั่นลงมาพอดีเลยได้รูปสวยๆ “ยกโชว์ซะเลย ให้ถ่ายรูปตอนจูงได้ไง 555+” ทำไมมันรู้สึกว่าเหนื่อยๆมากๆ ขนาดเตรียมใจมาแล้วนะนี่ว่าเนินเยอะ เห็นเส้นทางมาก่อนแล้ว ทำใจไว้แล้ว แต่พอปั่นขึ้นมาจริงๆร้องจ๊ากเลยจร้าๆๆ ___T
ช่วงที่เหนื่อยสุดๆ ตอนขึ้นสันเขื่อนภูมิพล
และพอขึ้นสันเขื่อนฯจริงๆ ก็จูงสิครับๆๆๆๆหลายๆคนก็ไหลลงมาอย่างมันส์ แต่เราก็จูงสวนขึ้นไปแบบหมดแรง ระยะทางขึ้นเขื่อนฯ 3 กม.
มุ่งมั่นมากๆ ได้มาหลายรูปเลย
ล้อเล็กจูงขึ้นไปได้ 2 กม. ก็เจอตากล้องผู้จัด
“อ้าว...ปั่นหน่อย”
เท่านั้นแหละ ปั่นต่อไม่รอแล้วนะ ไปๆๆ แล้วก็ปั่นไปถึงสันเขื่อนฯอีก 1 กม.ที่เหลือได้อย่างไม่น่าเชื่อ ไม่รู้เอาแรงมาจากไหน 555+
Control : สันเขื่อนภูมิพล (316.1 กม.)
พอขึ้นมาถึง ก็มีนักปั่นอยู่ไม่กี่คนละเพราะเค้าไปกันหมดแล้วส่วนใหญ่ ล้อเล้กใช้เวลาถ่ายรูปอยู่นานพอสมควร พอตั้งสติได้ก็รีบปั่นลงไปจุดพักเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าดีกว่า ไปๆๆ
ถึงแล้วเขื่อนภูมิพล
คลิป 5 : เขื่อนภูมิพล : https://web.facebook.com/PUNKAEWAI/videos/321595328430611/
ท้ายรูปเป็นที่ระลึกกัน กับนักปั่นกลุ่มท้ายๆ
นักปั่น 3 ท่านนี้เจอกันเรื่อยๆตลอดเส้นทาง
ปั่นลงมาก็ได้รูปสวยๆ
ขาลงก็เก๊กท่าหล่อๆหน่อย เพราะมีตากล้องรออยู่ ขอบพระคุณครับๆๆ
CP5 : จุดกางเต้นท์เขื่อนภูมิพล (323.4 กม.)
พอมาถึงจุดพัก ก็เจอพี่เบญนั่งพักในรถตู้สอบถามเหมือนจะไม่สบายเยอะเลย ดีแล้วที่ยอมยก ยังไงเน้นความปลอดภัยไว้ก่อนดีที่สุดนะครับๆๆๆ
มาถึงก็ไม่สนใจใครละ รีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เตรียมไฟและขอแบตสำรองจากพี่บอลที่ให้ช่วยชาร์ตให้ ส่วนสิทธิ์ก็มาถึงก่อนนอนละ เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วด้วย
แล้วล้อเล้กก็รีบกินข้าวที่ผู้จัดเตรียมให้ เจอนักปั่นหลายๆท่านกำลังนอนพักผ่อนกัน แต่สำหรับล้อเล็กไม่ได้นอนพักเลยเพราะคิดว่าตอนนี้เวลาบวกไม่เยอะ ถ้าไม่รีบไปเดี๋ยวช่วงท้ายๆหนีตายกันแน่ๆ
จุดนี้มีนักปั่นหลายๆคนเริ่มยกกันเยอะละ เพราะเป็นจุดกลับตัวพอดี
เราสองคนออกมาด้วยกัน ก็แวะ 7-11 ตุนของกินกันนิดหน่อย เจอพี่ต่อและคนอื่นๆอีกหลายคน พอพร้อมก็ออกกันเลย ไม่อยากให้เสียเวลาเยอะ
อันอัน ถ่ายรูปให้
ปั่นย้อนกลับไปทางเดินอีกประมาณ 70 กม. ช่วงนี้ก็เจอเนินเรื่อยๆเหมือนขามาแต่ดูจะน้อยกว่า ตอนนี้สิทธิ์ทำความเร็วได้ดีกว่า ก็เลยเร่งไปก่อน แล้วก็หายไปเลยๆๆๆๆ ปั่นมาเรื่อยๆเริ่มหมดแรงและง่วงมาก เลยหยุดพักนอนเอาแรงสัก 10 นาที ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ เดี๋ยวหลับยาว
ปั่นมาสักพักก็เริ่มมึด นักปั่นก็เริ่มไม่เจอละ ปั่นคนเดียวยาวๆ เหนื่อยก้หยุดพักกินน้ำ เติมเกลือแร่สักขวด แล้วก็ลุยกันต่อ สู้ๆๆๆ ปั่นมาคนเดียวยาวๆ แต่ก็เจอนักปั่นคนอื่นๆเรื่อยๆนะ แต่ไม่เยอะมาก
พอมาถึง จ.ตาก ก็ต้องปั่นข้ามสะพานแขวนวิวสวยมาก มีหนุ่มสาวมานั่งกันบนสะพานเพียบเลย อยากหยุดถ่ายรูปนะแต่ก็กลัวจะเสียเวลาเยอะเลยปั่นไปเรื่อยๆ และก็โชคดีของล้อเล็กจริงๆตากล้องผู้จัดเดินมาถ่ายไฟตรงสะพานพอดี เลยได้มาอีกหนึ่งรูป ขอบพระคุณนะครับ แล้วก็เข้า 7-11 จุดพัก
Control : 7-11 ตลาดจอมพล (377.7 กม.)
มาถึง 7-11 ก็รีบซื้อของเก็บใบเสร็จ แล้วหาอะไรกิน จุดนี้เจอพี่ต่ออีกแล้ว แต่ดูเหมือนเริ่มหมดแรงนั่งพักอยู่ พี่ต่อบอกว่าสิทธิ์เพิ่งออกไปเมื้อกี้นี้เอง ล้อเล็กก็เลยรีบหาข้าวกิน แต่กินไม่ค่อยลงเลยเปลี่ยนเป็นตุนเสบียงแทน ซื้อไก่ทอด ข้าวเหนียวหมูติดไว้ด้วย เพราะเส้นทางต่อไปจะมึดๆ เปลี่ยวๆ หมาก็เยอะมากๆ
ปั่นผ่านตลาดมาตามเส้นทาง แต่เส้นทางในแผนที่ดันปิดเพราะมีการจัดงานเลยต้องปั่นอ้อมนิดหน่อย แล้วก็เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนหลักได้ เลี้ยวขวาอีกที คราวนี้ทางตรงๆยาวๆ ถนนช่วงแรกก็ไหล่ทางกว้าง ไฟสว่างดีมาก แต่ปั่นไปสักพักงานเริ่มเข้า
มันเริ่มมึด มองไปข้างหน้าไม่มีใครเลย ข้างหลังก็ไม่มี และที่สำคัญเนินเยอะซะด้วยๆๆ โอ้ยๆ ไหนว่ากราฟมันไหลลงไง ขนาดทำใจไว้แล้วนะ วันที่มาสำรวจเส้นทางก็ขับดูกลางวันมันก็ชิลล์ๆนะเนินไม่เท่าไหร่ แต่พอปั่นจริงทำไมมันเหนื่อยล้าเช่นนี้ จริงๆก็เพราะล้อเล็กปั่นมา 400 กว่าโลฯแล้วนั้นเอง แค่เนินเล็กๆยังเห็นเป็นภูเขาลูกโตๆเลย
ปั่นมาคนเดียวเรื่อยๆเจอนักปั่นบ้างนิดหน่อย แต่พอเข้าเขตบ้านคน โอ้โห หมาเยอะมากๆๆๆ เหมือนยืนต้อนรับล้อเล็กก่อนปั่นเข้าเส้นชัย เย้ๆๆๆ จะบ้าหรือ AV พุงซิครับ โดนไล่ไป 2-3 รอบสนุกสนานกันเลยที่เดียว
ช่วยเหลือให้ยางสำรองนักปั่น
ปั่นมาสักพักเจอเพื่อนนักปั่นยางมีปัญหา และไม่มียางสำรองแล้วด้วย กำลังจะหาทางเรียกรถไป CP ต่อไป พอดีมีกลุ่มพี่ ประเสริฐ เลาะเมาะ ปั่นตามหลังมาพอดีก็เลยโบกและขอยางเปลี่ยนให้พี่ที่ยางรั่ว แล้วล้อเล็กก็ขอล่วงหน้าไปก่อนเลย เพราะดูแล้วปั่นช้ากว่าคนอื่นแน่นอน
แต่ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ายางที่ได้ไปจะใช้ได้หรือป่าว เห็นพี่เค้าบ่น “เซงจริงๆ ปั่นมา 400 กว่าโลฯละ ถ้าไปต่อไม่ได้เสียดายจริงๆ”
ระหว่างทางเจอรถพี่เก๋ พี่ช้าง พี่เบญขับสวนทางมาส่งสัยจะย้อนกลับมาดูว่าล้อเล็กไปแอบหลับข้างทางตรงไหนหรือป่าวแน่ๆ เพราะว่าไม่ได้ติดต่อใครหรือส่งข้าวในกลุ่ม Line เลย พอเจอกันผมก็บอกให้ย้อนกลับไปดูนักปั่นที่ยางรั่วหน่อยเพราะว่าล้อเข้าขอบสูงยางที่ได้ไปไม่รู้ใส่ได้หรือป่าว เพราะถ้าปั่นต่อไม่ได้จะได้รับขึ้นรถมาด้วยเลย
น่าแอบตัดซี่ลวดจริงๆ
แล้วล้อเล็กก็รีบไปต่อ จนถึง CP6 (23:52 น.)
แล้วทีมเชอรี่ก็มาถึงเหมือนกัน “อ้าวหายไปไหนมากันมา” สรุปว่าไปเปิดโรงแรมนอนกันที่ ตาก ได้หลายชั่วโมงเลย ส่วนล้อเล็กแทบไม่ได้พัก
CP6 : 7-11 : หน้าสารพัดช่าง (442.9 กม.)
มาถึงก็เจอพี่บอลและถ่ายรูปให้เจอนักปั่นกลุ่มใหญ่กำลังนอน เจอสิทธิ์ ด้วยกำลังจะออกไปกับกลุ่มใหญ่ แหมๆได้คนใหม่แล้วลืมล้อเล็กเลยนะ ชิ ชิ ชิ
หมดแรง หมดสภาพ
รีบซื้อสินค้าเก็บสลิป หาอะไรกิน แล้วก็ขอนอนพัก 10 นาที มีนักปั่นนอนใน 7-11 กันนิดหน่อย ส่วนใหญ่จะนอนหน้าร้านกัน ล้อเล็กนอนไปแปปเดียวตั้งปลุกไว้ รู้สึกว่านอนไม่ค่อยหลับ เลยลุกมากินต่อ แล้วเติมน้ำ ไฟก็เริ่มหมดเหลือแบตก้อนเดียว เลยส่งแบตที่หมดให้พี่บอลไป พี่บอลก็บอกมีไฟสำรองอีกก้อนที่ชาร์ตให้แล้ว โอ้ๆๆโชคดีจริงๆ ทีนี้ก็ไม่ต้องกังวนเรื่องไฟแล้ว พี่เก๋ พี่ช้าง ก็ยังตามมาให้กำลังใจ แล้วก็รีบไปต่อเพราะดูแล้วพี่เบญที่อยู่ในรถท่าทางจะอ่อนล้าเอามากๆ หลับ คร๊อกกกก zZzZz
พอเติมน้ำเต็มที่ ไฟพร้อม ก็ลุยต่อเลย คนเดียวอีกแล้ว ช่วงนี้ไม่มีอะไรมากปั่นหนีหมาบ้างปะปราย ความทรงจำช่วงนี้หายไป จำไม่ได้รู้แต่ว่าปั่นไปเรื่อยๆ 555+
ปั่นไปยาวๆ CP ต่อไปอีก 57 กม. เวลายังบวกอีก 4 ชม.กว่าๆ ช่วงนี้ แต่ก็ประมาณไม่ได้ เพราะแรงเริ่มเหลือน้อย ง่วงก็ง่วง เริ่มปั่นเซไปเซมาละ
อาศัยประสบการณ์นิดหน่อย
“ปั่นแค่ไหว ไม่ไหวก็จอด”
และแล้วก็งานงอกจนได้ ยางรั่วล้อหลัง ตรงมึดๆคนเดียวประมาณ ตีหนึ่งนิดๆ แล้วอยู่คนเดียวด้วยไฟข้างทางก็ไม่มี ต้องรื้อล้อหลังออกมา แต่ปรากฎว่าดึงล้อหลังออกมาเปลี่ยนไม่ได้ทั้งเคาะทั้งทุบเสียเวลาไปอยู่นาน มีหลายๆคันผ่านไปได้แต่ทักทาย ล้อเล้กก็ชะเง้อรอใครจะหยุดช่วยล้อเล็กนะ “ส่องไฟให้ที ___T ”
และแล้วแก๊งนางฟ้า Kaewjai Phongjit ก็ปั่นผ่านมา 3 คน แล้วก็วนกลับมาช่วงส่องไฟให้ตอนนั้นเปลี่ยนยางเสร็จแล้วโดยเปลี่ยนทั้งยางในยางนอกที่เตรียมสำรองมาไว้เลย แต่ยังสูบลมเข้าล้อไม่ได้ หลังอานที่เป็นสูบลมอันใหญ่ก็สูบไม่เข้าคงเพราะทั้งรีบทั้งรน ก็เลยขอยืมสูบลมจากเสือหมอบที่หยุดช่วยเหลือ ขอบพระคุณมากๆนะครับ เสียเวลาตรงจุดนี้ประมาณ 30+ นาที
เหลืออีก 116 กม. กลับเวลา 7 ชม.
และคุยกันได้ความว่าทั้งสามคนก็หลงทางไปไกลพอสมควร เพิ่งจะย้อนกลับเข้าเส้นทางได้ถูกแล้วมาเจอล้อเล้กยางรั่วนี่แหละ แล้วเราก็ปั่นตามๆกันไป แต่ก็ปั่นตามเสือหมอบไม่ทันหรอก ก็ปั่นไปเรื่อยๆคนเดียวจนถึง CP7 (04:40น.)
CP7 : อบต.วังแขม (499.6 กม.)
ในที่สุดก็มาถึงจนได้ จุดนี้นักปั่นเพียบ ส่วนใหญ่จะนอนพักกัน หลายคนเพิ่งตื่นเพราะนอนไปหลายชั่วโมง อันอันก็เพิ่งตื่น ล้อเล็กลงเวลาเรียบร้อย ก็เช็คลมยางเพราะปั่นมา 500 กม.แล้วยังไม่ได้เติมลมเลย ลมล้อเล็กกับล้อหน้าอ่อนมากเลย ดีนะที่เช็คก่อน
จากนั้นก็ไปกินข้างต้มที่ผู้จัดเตรียมไว้ให้ และก็ทักทายเพื่อนๆนักปั่น จำได้บ้าง ไม่ได้บ้างต้องขออภัยนะครับ แล้วก็จอพี่เก๊กนักปั่นชาวนา ที่ปั่นโลโตเข้ามาถึงไล่เรี่ยกัน
นักปั่นชาวนา
พี่เก๊กยังบ่นเลยสำหรับความยาก “สนามนี้ยากกว่า 600 พัทยา-ตราด อีก นี่ดีนะว่าพี่วานไม่เจอแดดเลยทั้งวัน ถ้าเจอแดดแรงๆกับเนินด้วยนะ มีล่วงกันเยอะแน่ๆ” ล้อเล็กก็ได้แต่สนับสนุนว่าจริง เนินเยอะจริงๆ 555+
คุยกันเสร็จ พี่เก๊กบอกจะออกเลย ไม่นอนพัก เพราะ เหลือ 7 ชม.กับอีก 100 กม. และเนินอีกเท่าไหร่ก็ไม่รู้ ก็ถือว่าเวลาไม่เยอะนะ รีบออกเดี๋ยวหนีตายท้ายๆละแย่เลย
แต่นักปั่นส่วนใหญ่จะนอนพักแล้วออก 6 โมงเช้า แต่ล้อเล็กไม่พักเลย ออกตามพี่เก๊กมาเลยตอนตี 5
Control : 7-11 เก้าเลี้ยว (552.9 กม.)
ก่อนออกก็ได้พี่บอลถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ปกติปั่น Audax ล้อเล็กจะแบกกล้องมาด้วยนะ แต่ระยะ 600 นี้ปั่นกลางคืนซะส่วนใหญ่ เลยไม่พกกล้องดีกว่า เพราะแค่ปั่นอย่างเดียวก็แทบแย่แล้ว ดีนะไม่มีแดด ยังบอกพี่บอลเลย พรุ่งนี้เช้าขอแดดช่วง 10 โมงละกันก่อนเข้าเส้นชัย จะได้อบอุ่นบ้าง 555+
ทีมพี่เก๊กนักปั่นชาวนาปั่นออกมากัน 3 คน ล้อเล็กก็รีบปั่นตามดูดๆๆ มาเรื่อยๆ ช่วงแรกลงเนินยาวๆสบายๆ แต่หลังจากตามดูดได้พักเริ่มไปต่อไม่ไหว ขนาดลากแค่ 23+ เองนะ แต่ตอนนี้ล้อเล็กเริ่มหมดแรงจึงต้องผ่อน
ปั่นคนเดียวมาเรื่อยๆ เริ่มง่วงมากๆเพราะแทบไม่ได้นอนพักเลย 2 คืนแล้ว ก็เลยจอดพัก มีนักปั่นกลุ่มใหญ่ๆที่เพิ่งตื่นกันแต่ปั่นได้เร็วกว่าปั่นแซงไปเรื่อยๆ ล้อเล็กจอดพักบ่อยมาก จอดฉี่หลายครั้ง(จริงๆหมดแรง) จอดกินน้ำ นั่งพักบ้าง จนสว่างไม่ไหวแล้วจริงๆ จึงต้องหยุดนอนศาลาข้างทางอีก 10 นาที พอตื่นมาเริ่มสดชื่นแต่ก็ยังมึนๆ แล้วก็ไปต่อ ตอนนี้ปั่นมา 2 ชม.ครึ่งได้ระยะทางแค่ 20 กม. เสี่ยงมากต่อการที่จะ DNF เริ่มท้อ เริ่มเหนื่อยล้า แวะกินกาแฟ และเกลือแร่ที่ร้านค้าด้วย
แล้วก็ปั่นมาเจอแก๊งนางฟ้า Kaewjai Phongjit อีกรอบปั่นไปด้วยกัน พอเจอร้านหมูปิ้ง ไก่ปิ้ง ก็จอดกินกันถือว่าเป็นมื้อเช้ากันเลยทีเดียว
กำลังใจเพียบ ขอบคุณทุกๆท่าน
ระหว่างกินก็เช็คกลุ่ม Line แจ้งข่าวไปว่าอีก 90 กม.กับ 5 ชม.ไม่ทันแน่ๆ คือว่าโครตท้อและหมดแรงแล้ว แต่ในกลุ่มก็กำลังใจดีเยี่ยม พี่ปอพันโลฯ Por Racingweb ผู้เชี่ยวชาญเชิงเทคนิคเริ่มออกกลอุบาย
“ปั่นจบให้ ไลน์ id น้องเลยเอ้า”
แล้วพี่ปอก็เริ่มแจ้งเรื่องกราฟความสูงว่า ช่วงท้ายๆ ไหลลงแล้วๆๆ
ไหลตรงไหนฟะ? __T เหมือนจะดีนะ แต่กดกัดตรูชัดๆ 555+
ส่วนน้องจุ๋มขาแรงก็ใกล้จะจบแล้วๆๆๆๆๆ
หลังจากกินอิ่ม เริ่มมีแรง รีบออกตัวก่อนเลยแล้วอัดยาวๆ ไม่มีพัก ไม่รู้เอาแรงมาจากไหน แรงจากพี่ปอ หรือแรงจากไก่ปิ้งฟะ?
ปั่นยาวๆจนถึง Control : 7-11 เก้าเลี้ยว (08:23)
FINISH : วัดสังกัสรัตนคีรี (615.6 กม.)
ถึง 7-11 เจอนักปั่นหลายๆท่านที่ตามๆกันมา เจอพี่เก๊กออกไปก่อนละ ล้อเล้กพักเติมน้ำ เก็บสลิป เจอพี่นักปั่นกลุ่มเสื้อน้ำเงินที่เจอกันตลอดทางให้ส้มลูกเล็กๆมาเป็นเสบียง ขอบพระคุณมากๆครับ อร่อยมาก
และตอนนี้คือช่วงหนีตายอย่างแท้จริงๆ เวลาที่เหลือคือ 3 ชั่วโมงครึ่ง กับระยะทาง 64 กม. ถ้าไม่ได้ปั่นมาแล้ว 552 กม. ระยะทางแค่นี้กับเวลาถือว่าสบายๆมาแต่นี่ไม่ใช่ ล้อเล็กปั่นมา 2 คืนแล้วแทบไม่ได้นอนเลยจร้าๆ
ไปๆลุยต่อ ก่อนออกตัวก็เจอกลุ่มเชอรี่เข้ามาพอดี ทักทายกันแล้วล้อเล็กก็ติดเทอร์โบร เร่งเครื่องเลยจร้าๆๆ ไปๆๆๆ โกๆๆๆ เพื่อนพี่เขยโว้ยๆๆๆ 555+
ปั่นไปได้ไม่กี่โลฯเจอพี่เก๊กนักปั่นชาวนาปั่นอยู่ ก็เลยทักทายแล้วปั่นแซงไป
ปั่นไปเรื่อยๆจนออกถนนใหญ่ เลี้ยวขวาไปทางนครสวรรค์ ช่วงนี้รถเยอะเริ่มมีแดด แต่รู้สึกว่าปั่นทำความเร็วได้ดีมากๆ ปั่นยาวไปเรื่อยๆ ก่อนเข้านครสวรรค์ก็เจอปั้มปตท.เลยแวะล้างหน้าล้างตาให้สดชื่นหน่อย แล้วไปต่อ
ปั่นผ่านถนนเส้นหลังของนครสวรรค์ รถเยอะมาก มีบางช่วงทำถนนน แต่ก็ไปได้เรื่อยๆ ช่วงนี้นำโด่งมาคนเดียว ไม่เจอนักปั่นคนอื่นเลย คือว่าเค้าไปกันหมดแล้ว 555+
แล้วก็ปั่นผ่านถนนที่มีป้ายเหลืองๆเยอะมาก ช่วงนี้จะเจอแยกไฟแดงเยอะๆ มีนักปั่นปั่นแซงไปเหมือนกัน
ปั่นเข้าถนนรอง ยาวไปเรื่อยๆ ช่วงนี้แดดเริ่มแรง ไม่น่าไปขอแดดเลยเมื่อคืนเล้ย ร้อนจริง พอเลี้ยวขวาป้ายบอกว่าไปทางอุทัยธานี เห็นป้าย “22 กม. อุทัยธานี” กับเวลาอีก 2 ชม. ใจชื่นขึ้นมาทันทียังไงก็ทันแน่ๆ
ปั่นมานิดเดียวเจอปั้ม ปตท. ก็แวะเติมเกลือแร่หน่อย น้อง 7-11 ถามว่า “ทำไมพี่เพิ่งมาคะ เค้าไปกันนานแล้ว” อ๋อพี่ไม่รีบ 555+ จริงๆพี่ก็รีบนะแต่ปั่นได้แค่นี้แหละ ระหว่างนั้นก็มีนักปั่นแซงไป 2-3 คนก็เลยรีบออกแล้วปั่นตามๆไป แต่ไล่ไม่ทัน
ปั่นไปเรื่อยๆคนเดียวถนนแคบ ไหล่ทางไม่ดีมีเศษหินแหลมๆช่วงนี้เสียวมากเลยว่ายางจะรั่ว ถ้ายางรั่วอีกรอบงานเข้าแน่นอน ปั่นระวังๆไปเรื่อยๆ แต่เอ๊ะทำไมมันนืดๆปั่นได้ช้าๆ อ๋อเจอนเนินซึมๆช่วง 10 กม.สุดท้ายอีก จะเข้าเส้นชัยอยู่แล้วเนินก็ยังไม่หมดอีก เจอเนินลูกใหญ่อีกหนึ่งลูกเข้าไปถึงกับร้องเสียงหลงล้อเล็ก ว๊ากๆๆ
ก่อนเข้าเมืองอุทัยฯเจอนักปั่นขับรถส่วนมาบีบแตรทักทายด้วย คงสงสัยทำไมเพิ่งมาฟะ 555+ ช่วงนี้ล้อเล้กเริ่มผ่อนละเวลาเหลือเยอะอีกแค่ 4-5 กม. ปั่นประครองไปเรื่อยๆ จนก่อนถึงแยกไปแดงใหญ่ 2 กม.สุดท้ายกลุ่มเชอรี่ก็ตามมาทันแล้วแซงไป มีเรียกเข้าขบวนด้วยนะ แต่ตอนนั้นไม่อยากเร่งละ ขอชิลล์ๆสบายๆดีกว่า
แล้วก็ปั่นไปคนเดียวเข้าเส้นชัย อย่างภูมิใจ ล้อเล็กทำได้แล้วโว้ยๆๆ
สองสาวแยกตัวกันใหญ่ อิอิ
มาถึงก็มีเสียงเฮ จากกองเชียร์ที่จ้างมาโดยเฉพาะ 555+ อันอัน กับน้องจุ๋มรีบเข้ามาขอถ่ายรูป พี่บอล พี่เก๋ พี่ช้าง และคนอื่นๆร่วมแสดงความดีใจ และถ่ายรูปให้ ขอบพระคุณทุกๆคนมากๆนะครับที่ช่วยเหลือในเรื่องๆต่างๆ ขอบพระคุณจริงๆเจอสิทธิ์ที่จบก่อนตั้งแต่ 10 โมงกว่า เจอพี่ต่อจับมือแสดงความยินดีด้วย อ้าวพี่ต่อ DNF ตั้งแต่เมื่อคืน ไม่เป็นไรไว้มาแก้มือกันใหม่ครับ พอลงเวลาเสร็จก็กลับมาถ่ายรูปกันต่อสนุกสนานมากมาย
หมดแรง หมดสภาพ
แต่ก็ดีใจที่ทำได้สำเร็จ
ล้อเล็กทำได้
ใครๆก็ทำได้
เป็นการปั่นผ่านระยะ 600 กม.
ได้สำเร็จเป็นครั้งที่ 5 แล้วจร้าๆ
ปั่นแค่ไหว ไม่ไหวก็จูง
จบแล้วนะ สนามแรก ฤดูกาล 2019
ขอบคุณนักปั่นทุกๆท่านที่ทักทายกันตลอดเส้นทาง จำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ไม่ว่ากันนะครับ ^^
เส้นทางสวย ดูปลอดภัย ผู้จัดใจดี มีรูปเพียบ มีโอกาสจะกลับมาเยือนอีกนะครับ และที่ขาดไม่ได้เลยทีมเซอร์วิส พี่บอล พี่เก๋ พี่ช้าง กราบงามๆ ที่ดูแลเป็นอย่างดีครับ
เน้นรูปเยอะๆ ให้รูปมันเล่าเรื่อง
ปั่นแค่ไหวพิชิตระยะ 600 กม. ครั้งที่ 5 สำเร็จ แล้วจร้าๆ
เจ้าคุณ Crius Smart 2.0 (Single Speed)
สถิติต่างๆ จาก GARMIN ที่บันทึกไว้
เส้นทางปั่น
หัวใจ ความเร็ว อุณหภูมิ
การเข้าร่วมปั่นทางไกลระยะ 600 กม. ของล้อเล็ก...ปั่นแค่ไหว
ครั้งที่ 1 [17 มกราคม 2558] : Audax 600BRM , พัทยา-ตราด (Trip@52 DNF)
ครั้งที่ 2 [19 มิถุนายน 2558] : Audax 600BRM, พัทยา - ตราด (Trip@82)
ครั้งที่ 3 [13 สิงหาคม 2559] : Audax 600BRM, พัทยา-ตราด (Trip@133)
ครั้งที่ 4 [5 พฤษภาคม 2560] : Audax 600BRM, นครปฐม - อุทัยธานี(Trip@165)
ครั้งที่ 5 [6-8 เมษายน 2561] : Audax 600BRM, นครปฐม - อุทัยธานี(Trip@200)
ครั้งที่ 6 [9-10 พฤศจิกายน 2561] : Audax 600BRM เขื่อนภูมิพล (Trip@218)
เหนื่อยจริงๆสนามนี้ แต่ก็ปั่นจบมาได้ กับระยะทาง 600 กม.
ปั่นแค่ไหว ไม่ไหวก็จูง (29.05.63)
#เรื่องเก่าเล่าใหม่ #Audax600BRM #เขื่อนภูมิพล2019
ปั่นแค่ไหว : เรื่องราวการปั่นจักรยานล้อเล็กเพื่อสุขภาพ สนุกสนาน เฮฮา สร้างรอยยิ้ม มิตรภาพ และแรงบันดาลใจ #ปั่นแค่ไหวไม่ไหวก็จูง

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา