29 พ.ค. 2020 เวลา 04:35 • ธุรกิจ
#เถ้าแก่มีตังค์ : ขายดีจนเจ๊ง เพราะไม่รู้เรื่องนี้
ในโลกของธุรกิจ ทุกคนมักเริ่มต้นจากความคิดว่า
ทำยังไงให้เราขายได้ ขายดี ขายโดนจนลูกค้าบอกต่อ
แต่ถ้าหากไม่รู้จัก 3 ข้อนี้ ธุรกิจจะมีปัญหา
1. ขายได้ แต่เก็บเงินไม่ได้
2. ขายได้ แต่ไม่มีวินัยการใช้จ่าย
3. ขายได้ แต่ไม่รู้จักวิธีเพิ่มเงินสด
จำให้ชัดก่อนซัดเข้าประเด็น
ยอดขาย คือ เงินที่ได้รับเมื่อส่งมอบสินค้า/บริการให้ลูกค้า
กำไร คือ ยอดขาย - ต้นทุนขาย - ค่าใช้จ่ายบริหาร
โดย กำไรขั้นต้น = ยอดขาย - ต้นทุนขาย
กำไรสุทธิ = กำไรขั้นต้น - ค่าใช้จ่ายบริหาร
และ เงินสด คือ สิ่งสำคัญที่สุดในธุรกิจ
เพราะเป็นตัวหมุนเวียนไว้ใช้จ่ายค่าใช้จ่าย
ดังนั้น ยอดขายดี อาจจะไม่ได้แปลว่ากำไร
และกำไรมี ก็ไม่ได้แปลว่าจะมีเงินสดเพียงพอ
ลองมาดูกัน...
ประเด็นแรก : ขายได้ เก็บเงินไม่ได้เพราะ
1) ตั้งราคาขายไม่เหมาะสม
สูงไป (ขายไม่ได้) ต่ำไป (กำไรไม่คุ้ม)
แนวทางแก้ คือ พิจารณาตั้งราคาขายที่เหมาะสมให้เป็น
อาจมองหาการสร้างราคาที่เหมาะสมจากการทดลองโฆษณา
หรือพิจารณาจากความต้องการของลูกค้าร่วมกับคุณภาพ
2) ขายเชื่อไม่เป็น ไม่วางแผนการเก็บเงินเมื่อขายได้
แนวทางแก้ คือ ดูช่วงเวลาเก็บเงินจ่ายเงินของธุรกิจ วางเงินสดสำรอง
หรือใช้เทคนิคบางอย่างก็ได้
เช่น จ่ายสดทันทีให้ส่วนลดกี่ %
หรือ เซลล์พกเครื่องรูดบัตรเครดิตไปเลย
จำไว้ว่า ของจะขายดีและขายง่าย ต่อเมื่อคุณภาพมันดีก่อน
และของที่คุณภาพดี จะไม่มีทางราคาถูกได้เลย
ประเด็นสอง : ขายได้ แต่ไม่มีวินัยในการใช้จ่าย เพราะ
1) ไม่ควบคุมวินัยการใช้จ่ายของธุรกิจ
แนวทางแก้ คือ รู้ว่ารายจ่ายอันไหนจ่ายแล้วหายไป (ค่าใช้จ่าย)
และรู้ด้วยว่าอันไหนจ่ายแล้วเพื่อให้สินค้าหรือบริการขายได้ (ต้นทุน)
การคุมค่าใช้จ่ายทีดี คือ ไม่มีการละเมิดกฎ
เมื่อเรามอบสิทธิ์ให้ใคร อย่าไปละเมิดสิทธิ์เขา
อย่าใช้ความเป็นเจ้านายลูกน้องเข้าแทรกแซง
วิธีการของเจ้านายต้องเหมือนกับลูกน้อง
ไม่มีทางที่เจ้านายได้อภิสิทธิ์เหนือกว่า
เช่น ถ้าไม่มีบิลมา เบิกเงินไม่ได้
ก็ขอให้เป็นแบบนั้นจริงทุกกรณี
ถ้าเป็นต้นทุน ไม่ควรลดแต่ควรรักษาคุณภาพ
ถ้าเป็นรายจ่าย ประหยัดได้ให้ประหยัด จะได้ไม่เสียเปล่า
2) จัดการเงินสดไม่เป็น จ่ายเร็วในสิ่งที่ไม่ควรจ่าย
แนวทางแก้ คือ ให้ถือหลักต่อไปนี้
- จ่ายเท่าเดิม = หาทางจ่ายช้าที่สุด
ถ้าจะจ่ายเร็ว = ควรได้ส่วนลด (กำไรเพิ่ม)
- ถ้ามีเงินสดเหลือ = ลงทุนในส่วนต้นทุน
หรือสร้างโอกาสในการรับส่วนลดเพื่อลดต้นทุน
เช่น เพิ่มจำนวนการซื้อสินค้าที่คิดว่าขายดี
หรือขอสิทธิ์จ่ายเงินไวเพิ่มได้ส่วนลดเพิ่ม
และอย่าลืม ตรวจสอบหนี้ค้างจ่าย ก่อนจ่าย
เพื่อที่ธุรกิจจะได้มีเงินสดหมุนเวียนเพียงพอ
ประเด็นสาม : ขายได้ แต่ไม่รู้วิธีเพิ่มเงินสด
หลักๆ มาจาก
สต็อกหลังบ้าน กับ หนี้ที่อยู่กับลูกค้าของเรา
เงินสองก้อนนี้ใหญ่ที่สุดแล้ว ต้องรีบจัดการ
รีบนับสต็อกก่อน ถ้าเกิน 1 ปี ควรเอามาโละให้หมด
ควรโละขาย (แบบฉลาด) ใช้สินค้าทำหน้าที่เรียกแขก
หรือจัดโปรโมชั่นดีๆเด็ดๆโดนๆให้กับสินค้าเก่าพ่วงใหม่
ไล่ทวงหนี้ หนี้ที่ค้างจริงจัง เอาเงินกลับมาก่อน
ถ้าให้ส่วนลดลูกค้าไปแล้วแต่ไม่กระทบกำไรมาก
จงพยายามเอาเงินกลับมาก่อน แล้วค่อยตั้งหลัก
หรืออาจจะเลือกหนทางสร้างเงินสดเพิ่ม
เช่น เปิด Pre-Order สินค้าบางชนิดล่วงหน้า
เพื่อให้ได้รับเงินล่วงหน้าจากลูกค้าก่อน
หรือ Model Subscription ได้เงินน้อยแต่ได้เงินนานๆ
หลักการคือ เงินมากสำหรับเรา แต่น้อยจนเขาไม่เสียดาย
เช่น ค่าบริการสมาชิกรายเดือนหลักร้อยบาท
หลักการเพิ่มเติมเพื่อให้ ขายดี
กลายเป็น ขายมีกำไร และ มีเงินสด
สิ่งที่ควรทำ คือ การจัดการงบประมาณรายเดือนล่วงหน้า (สัก 1 ปี)
"งบประมาณยอดขาย"
เพื่อให้รู้ประเภท ที่มา ปัจจัยที่มีผลกระทบ
รู้ว่ายอดขายในฝันที่เราต้องการเป็นเท่าไร
ยอดขายจริงควรเป็นเท่าไร ให้ส่วนลดได้ไหม?
"งบประมาณรายจ่าย"
เพื่อให้รู้รายจ่ายที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือน
และการทำงบประมาณยอดขาย
จะช่วยให้เราสามารถกำหนดค่าใช้จ่ายได้
ถ้าเรากำหนดค่าใช้จ่าย
ไม่เกินยอดขายที่ได้รับ = ไม่ขาดทุน
"งบประมาณเงินสด"
เพื่อให้รู้เงินสดหมุนเวียนของกิจการ
หลักการที่แนะนำ คือ
ประมาณการรายจ่ายว่าต้องจ่ายสด
แต่ประมาณการยอดขายเป็นเงินเชื่อ
จะได้รู้ว่าต้องเผื่อเงินต้องสำรองเท่าไร
(มอง Worst case ไว้ก่อนเพราะจะได้มีเงินพอ)
ไม่ว่าอย่างไร ขอฝากเอาไว้ว่า
ยอดขาย และรายจ่าย มีผลกระทบกับเงินสด
อย่าลืมว่า ขายได้กลับมาดูเรื่องเก็บเงินได้ด้วย
และรายจ่ายที่ต้องจ่ายสัมพันธ์กับเงินสดในมือ
#Money coach
โฆษณา