30 พ.ค. 2020 เวลา 04:25 • กีฬา
Jay Jay Okocha ราชาไร้มงกุฏ
ถ้าย้อนไปในยุค 90 ถามถึงเกมส์สุดฮิต อย่าง Pro Evolution Soccer (PES) หรือที่รู้จักกันในตอนนั้น ก็คือ วินนิ่ง ที่ไม่ว่าจะไปที่ไหน ก็จะเห็น เด็กๆ นั่งเล่นเกมส์วินนิ่งกันตามร้านเกมส์
โดยถ้าย้อนให้นึกถึงทีมโปรดของหลายๆ คนในยุคนั้น ก็คงหนีไม่พ้น บราซิล ที่นำทัพด้วย ศูนย์หน้าอย่าง โรนัลโด้ และ โรแบโต้ คาลอส !!!!!! ใช่ครับ อ่านไม่ผิดหรอกครับ ด้วยค่าพลังอย่างนี้ต้องจับมาเล่นหน้าเท่านั้น และอีกทีมนึงที่หลายๆ คนคงจำกันได้ คือ ยอดทีมแห่ง กาฬทวีป อย่างไนจีเรีย ที่นำทัพ โดย เอ็นวานโก้ คานู อามูคาชี่ บาบันกีด้า ซันเดย์ โอลิเซ่ และเจย์ เจย์ โอโคชา
วันนี้ ขอมาเล่าเรื่อง เกี่ยวกับนักฟุตบอลของทีมสุดฮิตอย่าง ไนจีเรียที่่ไม่ได้เก่ง แค่ในเกมส์ แต่ตัวจริงก็ฝีเท้าไม่ธรรมดา อย่าง เจย์ เจย์ โอโคชา ซึ่งมีความชื่นชอบในตัวนักเตะคนนี้เป็น พิเศษ เพราะเค้านั้นได้ย้ายมาเล่นในลีกอังกฤษให้กับทีม Bolton Wanderers ทำให้เราได้มีโอกาสได้ดูเค้าเล่นจริงๆ ในช่วงเวลานั้น โอโคชานั้น ถือได้ว่าเป็นตำนานนักเตะของไนจีเรีย และยังเป็นแรงบันดาลใจให้หลายๆ คนที่ชอบฟุตบอลได้ฝึกฝนทริคใหม่ๆ ในการหลอกล่อคู่แข่ง แต่ตลอดชีวิตการค่าแข้งของเค้านั้นไม่เคยได้สัมผัสถ้วยแชมป์ เลย ซักครั้งเดียว
Augustine Azuka "Jay-Jay" Okocha เกิดเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 1973 ในประเทศไนจีเรีย เริ่มเตะบอลครั้งแรกให้กับต้นสังกัดแรกคือทีม Enugu Rangers ทีมในประเทศบ้านเกิด ในฐานะนักฟุตบอลเยาวชน จนกระทั้งปี 1990 เค้าได้ออกแสวงหาความท้าทายใหม่ โดยเข้าร่วมทีม Borussia Neunkirchen ทีมที่อยู่ใน Division 3 ของประเทศเยอรมันในขณะนั้น
ต่อมาในปี 1992 เค้าได้ย้ายมารวมทีมดังอย่าง Eintracht Frankfurt ในบุนเดสลีกา ลีกสูงสุดของประเทศเยอรมัน ทำให้โลกเริ่มได้เห็นฝีเท้าของเค้าว่ามหัศจรรย์ แค่ไหน แม่แต่ โอลิเวอร์ คาห์น ยอดผู้รักษาประตูระดับตำนานทีมชาติเยอรมันก็เคยเสียท่าให้กับ โอโคชามาแล้ว
ในปี 1996 โอโคชาได้ย้ายไปร่วมทีมกับเฟเนบาเช่ ยอดทีมแห่งตุรกี ด้วยค่าตัวประมาณ 1 ล้านยูโร หลังจากที่เค้าไม่สามารถช่วยทีม Eintracht Frankfurt ให้รอดพ้นจากการตกชั้น
PSG ได้ตัดสินใจซื้อโอโคชามาร่วมทีม ในปี 1998 ด้วยค้าตัว 14 ล้านยูโร ซึ่งถือได้ว่าเป็นนักเตะจากกาฬทวีปที่มีค่าตัวแพงที่สุดในเวลานั้น ก็ว่าได้ ซึ่งในเวลานั้น โอโคชา ก็ได้เล่นฟุตบอลร่วมกับ ดาวรุ่งแห่งยุคอย่าง โรนัลดินโญ่ ศูนย์หน้าทีมชาติบราซิล
และเมื่อหมดสัญญากับ PSG โอโคชาได้ย้ายมาร่วมทีมกับ Bolton Wanderers แบบไม่มีค่าตัว ในปี 2002 และถือได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่เรา น่าจะได้เห็นฝีเท้าเค้ามาที่สุด ด้วยเทคนิคอันยอดเยี่ยมของโอโคชา ทำให้เราได้เห็นฝีเท้าของเค้าว่าระดับโลกแค่ไหน เค้าช่วยสร้างให้ทีมที่ดิ้นรนหนีการตกชั้น ที่เล่นแต่บอลไดเร็ก มีมิติที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นลูกยิงไกล ฟรีคิก ที่เป็นเครื่องหมายการค้าของเค้า หรือการเลี้ยงหลบคู่ต่อสู้ ที่ล้มลงไปกองมีให้เห็นเกือบทุกนัด
ในปี 2006 ด้วยวัย 33 ปี ที่กำลังที่ก้าวเข้าสู่ ช่วยปลายอาชีพค้าแข้ง โอโคชาได้ปฏิเสธที่จะขยายสัญญากับทาง Bolton Wanderers และเลือกที่จะไปขุดทองในตะวันออกกลาง เค้าได้เซนต์สัญญาระยะสั้นไปร่วมทีม Qatar SC ด้วยสัญญา 1 ปี
ปี 2007 โอโคชากลับมาโลดแล่นในพรีเมียร์ลีคอีกครั้ง โดยได้ย้ายมาร่วมทีม Hull City แบบไร้ค่าตัว แต่การกลับมาในครั้งนี้อาจจะไม่ได้เห็นอะไรดีๆ ซักเท่าไหร่ เพราะด้วยปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนและอายุที่มากขึ้นของเค้า แต่เค้าก็สามารถช่วยให้ Hull City เลื่อนชั้นขึ้นสู่ลีคสูงสุดของประเทศอังกฤษ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 104 ปีของสโมสร และหลังจากนั้น โอโคชาก็ได้แขวสตั้ด
ส่วนในระดับทีมชาตินั้น โอโคชา นั้นอยู่ในยุคทองของทีมชาติไนจีเรีย ที่รวมดาวดังไว้มากมาย อาทิเช่น คานู ,โอลิเซ่ และบาบายาโร่ ซึ่งเป็นทีมที่คาดหมายว่าจะสามารถเข้ารอบลึก และสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับฟุตบอลโลก ได้ แต่ด้วยความไร้ซึ่งระเบียบวินัยของนักเตะส่วนใหญ่ในชุดนั้น ทำให้พวกเค้าทำได้ดีที่สุด เพียงแค่รอบ 16 ทีมสุดท้ายเท่านั้น ตั้งแต่เข้าร่วมการแข่งขันมา
สถิติระดับสโมสร เค้า ลงเล่นทั้งหมด 454 นัด ยิงได้ 85 ประตู ส่วนในนามทีมชาติลงเล่นทั้งหมด 73 นัด ยิง 14 ประตู เกียรติประวัติของโอโคชานั้น มีเพียงเค้าได้รับเลือกให้เป็นตำนานนักเตะ 1 ใน 100 ของเปเล่ ที่ยังมีชีวิตอยู่ ไม่รู้ว่า จะดีใจหรือเสียใจดี....... แต่ในความทรงจำนั้น เค้ามีลีลา ไม่ต่างจาก โรนัลดินโญ่ ยิงไกลได้ดี เหมือนดัง เจอราร์ด แต่สิ่งที่เค้าขาดน่าจะมีเพียงอย่าง เดียวคือ "ถ้วยรางวัล" เค้าจึงเปรียบดั่งราชาที่ไร้มงกุฏ
#Wondersfootball #JayJayOkocha
โฆษณา