30 พ.ค. 2020 เวลา 06:56 • ข่าว
แนวทางที่แตกต่างกันของ Facebook กับ Twitter เกี่ยวกับเนื้อหาที่มีความรุนแรงและข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
มีการถกเถียงกันในโลกออนไลน์ระหว่าง2แพลตฟอร์ม
โซเชียลมีเดีย ระหว่าง Facebook และ Twitter ว่า 2 แพลตฟอร์มควรตรวจสอบข้อเท็จจริงของนักการเมืองและการโพสต์เนื้อหาเชิงรุนแรงได้หรือไม่
หลังจากที่ โดนัลด์ ทรัมป์ โพสต์ข้อความเนื้อหาทางการเมืองที่รุนแรง ทั้งในFacebook และ Twitter แบบเดียวกัน แต่ทางTwitter ได้ซ่อนเนื้อหาของโพสต์ที่ ทรัมป์ ได้โพสต์ไว้
และกล่าวว่าเนื้อหาที่ทรัมป์ได้โพสต์นั้น เป็นเนื้อหาที่รุนแรง
แต่ทางFacebook นั้นไม่ได้ดำเนินการซ่อนเนื้อหาโพสต์ของ ทรัมป์แต่อย่างไร Marsk Zuckerberg กล่าวว่า เขาจะไม่ซ่อนเนื้อหาของทรัมป์ เพราะไม่ได้ผิดต่อกฎของFacebook และไม่ได้เป็นเนื้อหาเชิงรุนแรงเกินไป
ประโยคของเนื้อหาทรัมป์ โพสต์นั้น
“ผมพึ่งมีการพูดคุยกับผู้ว่าการรัฐ Tim Walz และบอกกับเขาว่าทหารจะอยู่ข้างเราตลอด เราจะเป็นฝ่ายควบคุมเรื่องที่เกิดขึ้น เมื่อมีการปล้นเริ่มขึ้นเมื่อใด ผมจะสั่งให้ทหารยิงทันที”
ซึ่งพอทรัมป์ได้โพสต์ข้อความนี้ลงในTwitter ปุ๊ป Twitter ก็ซ่อนเนื้อหาของทรัมป์ว่าเป็นเนื้อหาเชิงรุนแรง ละเมิดกฎของTwitter
ซึ่งก่อนหน้านั้นเพียงไม่กี่วันก่อน ทรัมป์ ก็ได้โพสต์เรื่องการลงคะแนนเสียงทางไปรษณีย์ในรัฐแคลิฟอร์เนีย
Twitter ก็ได้ให้คำแนะนำในโพสต์ของทรัมป์ เพิ่มเติมว่า เนื้อหาที่โพสต์นั้น เป็นเนื้อหาที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริง พร้อมคำแนะนำเพิ่มเติมในการเลือกตั้งเกี่ยวกับข้อเท็จจริงเพิ่มเติม
เรื่องนี้ทำให้ ทรัมป์ หัวร้อนและไม่พอใจอย่างมาก กล่าวหาว่า Twitter นั้นได้เข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้งของเขา และขู่ด้วยว่าเขาจะแบน Twitter ด้วย แต่ทางTwitter นั้นก็ยืนยันที่จะไม่เอาคำแนะนำที่ถูกต้องออกจากโพสต์ของทรัมป์
ต่างกับทาง Facebook ที่ไม่ได้ซ่อนเนื้อหาของทรัมป์ใดๆทั้งสิ้น Marsk Zuckerberg CEO ของFacebook กล่าวกับทาง Fox News ว่าจะไม่ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เหมือนกับทาง Twitter ได้ทำไป
Zuckerberg กล่าวว่า Facebook "ฉันเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่า Facebook ไม่ควรเป็นผู้ตัดสินความจริงของทุกสิ่งที่ผู้คนพูดออนไลน์ฉันคิดว่าโดยทั่วไปแล้ว บริษัท เอกชนไม่ควรเป็นเช่นนั้นโดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริษัท แพลตฟอร์มอย่างFacebook”
ซึ่งทรัมป์ตั้งแต่ได้ดำรงตำแหน่ง ประธานาธิบดีมาตั้งแต่ปี2016 นั้น ทรัมป์ ได้ใช้Twitter เป็นสื่อหลักในการเเสดงความคิดเห็น และโพสต์เรื่องราวเชิงการเมืองต่างๆมากมาย
ซึ่งมีคนติดตาม ทรัมป์ใน Twitter มากกว่า80ล้านคน และได้โพสต์ไปมากกว่า 10,000 ทวีตข้อความ ซึ่งคนติดตามทรัมป์ในFacebook มีเพียง27ล้านคน
ถึงแม้ว่า 2 แพลตฟอร์มนี้จะมีรายได้ที่ต่างกันอย่างมหาศาล และผู้ใช้งานของ Twitter ไม่ได้มากเท่า Facebook แต่Twitter ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าไม่ว่าจะเป็นใครหรือยิ่งใหญ่มากแค่ไหน ก็ไม่มีสิทธิ์ละเมิดกฎของทางTwitter ได้
ต้องมารอติดตามดูกันว่า Twitter จะเป็นอย่างไรต่อไป ถึงขนาดกล้าเล่นกับลุงทรัมป์กันขนาดนี้ มองอีกมุมหนึ่งที่ไม่ได้คิดอะไรมากก็เป็นเรื่องที่ตลกไม่น้อย
หากผู้อ่านชื่นชอบบทความ อย่าลืม กด like กด Share เพื่อเป็นกำลังใจดีๆสำหรับผู้เขียนด้วยนะครับ สามารถ Comments แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้เลย
โฆษณา