30 พ.ค. 2020 เวลา 09:03 • กีฬา
History of sneakers Chapter 1
ประวัติศาสตร์ของ Air Jordan XIII รองเท้าที่แสดงความเป็น Michael Jordan มากที่สุด
หากทุกคนอยากรู้ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร มาติดตามบทความนี้กันเลยครับ
มีบางอย่างที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ในโทรทัศน์ด้วยความสูงประมาณ 6 ฟุต 6 นิ้ว เขาดูทรงพลังและเคลื่อนไหวด้วยสัญชาตญาณ ฉลาดและแข็งแกร่ง โจมตีเหยื่อได้ถูกที่และถูกช่วงเวลา สิ่งมีชีวิตที่โลดแล่นอยู่ในทีวีไม่ใช่นักล่าแต่เขาคือ Michael Jordan, การเคลื่อนไหวที่ผ่านตาทำให้สุดยอดนักออกแบบ sneaker อย่าง Tinker นึกถึง ”เสือดำ (Black Cat)” เมื่อเห็น Jordan โลดแล่นอยู่ในสนาม เขาเริ่มสเก็ตช์สิ่งที่เค้าคิดภายในหัวออกมาให้อยู่ในกระดาษก่อนที่เค้าจะเดินขึ้นเครื่องบินภายในเวลาต่อมา
ในขณะที่ Jordan ถ่ายโฆษณา Frozen Moment อยู่ Tinker ก็ได้นำบอร์ด พรีเซนเทชั่นที่เขาทำมาเสนอให้ Jordan ดูซึ่งสิ่งที่นำมาพรีเซนต์ก็คือรูปด้านและพื้นรองเท้าของ Air Jordan 13 ที่ขนาบข้างด้วยรูปเสือดำสองตัวที่แววตาส่องประกาย หลังจากนั้น Tinker ได้เล่าว่า Jordan บอกให้เค้าหยุดพูดเมื่อสิ้นสุดคำที่เค้าพูดว่า Black Cat, Jordan ได้พูดกับ Tinker ว่า “คุณรู้ได้ยัง? ผมชอบมันนะ คุณรู้ชื่อเล่นผมได้ยังไง มีแค่เพื่อนสนิทของผมเท่านั้นแหล่ะ ที่เรียกผมว่า Black Cat” เขาตอบ Jordan กลับไปทันทีว่า “ผมไม่รู้มาก่อนนะว่ามีคนไหนที่เรียกคุณว่า Black Cat”
หลังจากนั้น Tinker ได้สเกตช์รูปรองเท้าของ Jordan ออกมาประมาณ 100-200 รูปแบบ และนำไปเสนอ Jordan คำพูดของ Michael Jordan คือ “จริง ๆมันก็ดีทุกแบบเลยนะ แต่ผมยังตัดสินไม่ได้หรอก หากผมยังไม่ได้มันมาอยู่ในมือผมและได้ลองใส่มันจริง ๆ”
ในช่วงที่ Tinker กำลังคิดค้น Air Jordan 12 อยู่นั้นคือช่วงที่ Jordan กำลังหิวกระหายใน Three Peat ครั้งที่สองของอาชีพ ทำให้เพื่อนร่วมลีกของเค้าต้องเปลี่ยนวิธีการป้องกันเป็นหนักขึ้น แรงขึ้น และ ประกบชิดมากขึ้นแต่เค้าต้องสะสมพลังงานและพลังกายซึ่ง Tinker คิดว่า Jordan ต้องการความสบาย ความยืดหยุ่น พื้นรองเท้าที่ยึดติดกับพื้นสนาม เป็นที่มาที่ทำให้ Outsole(รองเท้าชั้นนอกสุดของรองเท้า) มีรูปแบบที่คล้ายกับอุ้งท้าวของเสือ
ในช่วงแรก Tinker ได้ออกแบบให้ Air Jordan 13 มี Strap ที่รองเท้าเพื่อช่วยเรื่องการเคลื่อนไหวเล็กๆน้อยๆที่จะทำให้จัดการกับร่างกายตัวเองได้ง่ายขึ้นแต่เมื่อได้พูดคุยกับ Jordan แล้ว เค้ากลับไม่ต้องการให้มี Strap เพราะไม่จำเป็น รูปแบบรองเท้านี้จึงถูกปัดตกไป, หลังจากการประชุมกับ Jordan ที่ California, Tinker ได้กลับมาที่ Portland แต่ก็ยังติดขัดอยู่กับการคิดดีเทลของเสือที่ไม่สามารถออกแบบได้ด้วยมาร์คเกอร์และดินสอสี การทำหลายๆแบบซ้ำไปซ้ำมามันทำให้เค้ายิ่งทำยิ่งเบื่อ เขาจึงได้ไปขอความช่วยเหลือจาก Mark Smith จากแผนกการดีไซน์ของ Nike
ทั้งสองคนได้ทบทวนซ้ำแล้วซ้ำเล่าหลังจากนั้นทั้งคู่จึงเริ่มเพิ่มเส้นที่มีสีสันเข้าไป บวกกับเพิ่มลูกตาสีเขียวที่ดุดันเพื่อสื่อถึงการจ้องของเสือดำ และ mesh(ตาข่าย) ที่สะท้อนแสงแทนขนที่มันวาวของมัน, ด้วยความช่วยเหลือจาก Smith ทำให้ Air Jordan 13 ออกมาเป็นรูปเป็นร่างและนี่เป็นครั้งแรกที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการดีไซน์รองเท้าของ Nike
และในช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกัน Nike ได้ประกาศข่าวที่ใหญ่ที่สุดออกมาคือให้ Jordan Brand เป็น Subset ของ Nike ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกที่นักกีฬาประเภททีมเป็นเจ้าของแบรนด์ตัวเอง โดย Jordan Brand นั้นสามารถสร้างเม็ดเงินได้ประมาณ 225 ล้านดอลลาร์ต่อปีเลยทีเดียวและรองเท้าคู่แรกหลังจากการทำแบรนด์ก็คือ Air Jordan 13 ที่ Tinker ได้บอกไว้ว่ารองเท้าคู่นี้จะเป็นประวัติศาสตร์ และเป็นคู่ที่แสดงออกถึงเจ้าของ Product อย่าง Michael Jordan
การทำ Three Peat ครั้งที่ 2 ของ Chicago Bulls กำลังเดินทางมาถึง ซึ่งหาย้อนกลับไปดู การได้แชมป์ในปี 1996 Jordan ได้ใส่ Air Jordan 11 ในการลงเล่น, ปีถัดมาของการได้แชมป์ (1997) Jordan ได้ใส่ Air Jordan 12 ในการลงเล่นและปี 1998, Jordan จะใส่ Air Jordan 13 ในการลงเล่นซึ่งสโลแกนที่ Nike ได้ประกาศออกมาก็คือ “Air Jordan ที่เบาที่สุดจากที่เคยมีมา”
Jordan ได้ใส่ Jordan 13 เล่นทั้งฤดูกาลแต่ในช่วง Playoff นัดชิงกับ Utah Jazz เค้าได้ใส่ Air Jordan 14 สลับกับรุ่น 13 เป็นส่วนใหญ่แต่ในเกมสุดท้ายเขาได้ใส่รุ่น 14 ในการเล่นและยิงลูกสำคัญที่พา Chicago Bulls เถลิงแชมป์ครั้งที่ 6 ของทีม, ความน่าเสียดายของ Air Jordan 13 คือไม่มีประวัติศาสตร์ที่น่าจดจำในการเล่นของ Michael อย่างเช่น “Flu Game” ที่ใส่รุ่น 12 ลงเล่น, “Last Shot” ที่ใส่รุ่น 14 หรือ “Free Throw line dunk” ที่ใส่รุ่น 13 แต่ถึงอย่างนั้น Tinker ก็ได้กล่าวไว้ว่า “รองเท้าคู่นี้ไม่เหมือนใคร มันคือการเดินทาง บางรุ่นมักจะเหมือนกับรุ่นก่อนหน้าเล็กน้อยแต่ไม่ใช่กับคู่นี้ แน่นอนที่ผู้ขายและนักการการตลาดนั้นจะประหม่าในการขายรองเท้ารุ่นนี้ แต่ไม่ใช่สำหรับ Jordan, เขารู้สึกชอบรองเท้าคู่นี้เอามาก ๆ เพราะมันทำให้เขาประสบความสำเร็จและแน่นอนการขายรองเท้าคู่นี้เช่นกัน ซึ่งตอนนี้มันได้พิสูจน์แล้ว”
โฆษณา