31 พ.ค. 2020 เวลา 02:35 • บันเทิง
ดาราเจอดราม่า!! โพสต์อะไรก็ผิด
ดูเหมือนว่าการ “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ ช่วยชาติ” นั้น จะทำให้หลายคนมีเวลาว่างทางหน้าจอมากขึ้นหลายเท่าตัว เพราะจากนโยบาย Work From Home ที่รณรงค์ให้ทุกคนทำงานที่บ้านั้น
ส่งผลให้หลายคนใช้เวลาอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต ไปจนถึงสมาร์ทโฟน ทุกอุปกรณ์สามารถทำให้งานแต่ละบริษัทสามารถขับเคลื่อนได้
การทำงานในรูปแบบ Work From Home ย่อมมีการผ่อนคลายการทำงานมากกว่าการนั่งอยู่ออฟฟิศ นอกจากการดูหน้าจอผ่านงานที่ทำแล้ว หลายคนก็มีเวลาผ่อนคลายไปกับข่าวสารต่างๆ ในโลกออนไลน์
ต้องยอมรับว่าข่าวบันเทิงถือเป็นข่าวประเภทหนึ่งที่มีหลายคนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ไม่เพียงแค่เฉพาะแฟนคลับที่คอยติดตามดาราที่ตนรักเท่านั้น เป็นเพราะว่าวงการบันเทิงนั้นมีกลุ่มเป้าหมายที่ให้ความสนใจตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้สูงอายุ
เป็นวงการที่มีผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก เมื่อมีคนติดตามมากก็ย่อมเป็นที่พูดถึงอยู่บ่อยครั้ง
แน่นอนว่าการพูดถึงดาราในโลกออนไลน์นั้น ย่อมมีทั้งเรื่องที่ดีและไม่ดีเกิดขึ้นมากมาย ขึ้นอยู่กับมุมมอง ความคิด ทัศนคติที่แตกต่างกันไป การที่ศิลปินดาราโพสต์ความเคลื่อนไหวอะไรสักอย่างจึงทำให้มีความคิดเห็นทั้งเชิงบวกและเชิงลบ
โดยเฉพาะเชิงลบที่ดูเหมือนวง่าช่วงนี้จะมีดาราหลายคนได้รับผลกระทบจากคอมเมนต์จนกลายเป็นกระแสดราม่าขึ้นมามากมาย ให้เหล่าดาราและแฟนคลับต่างก็ต้องออกมาตามเช็ดตามเคลียร์ประเด็นที่เกิดขึ้น
ไม่เว้นแม่แต่นางเอกตัวแม่ยืนหนึ่งช่อง 7 HD อย่าง “อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ” นางเอกที่ขึ้นชื่อว่ามีภาพลักษณ์น้ำดีและคอยยื่นมือส่วนเหลือสังคมและสัตว์สี่ขาอย่างสุนัขมาโดยตลอด
แม้จะทำความดีไว้วมากมาย แต่ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 “อั้ม” ก็ตก็เป็นเป้าให้เหล่านักเลงคีย์บอร์ดผู้มีเวลาว่างมาจ้องจับผิด คอมเมนต์เชิงลบทั้งเรื่องการโพสต์รูปอาหารที่เต็มโต๊ะไปจนถึงการบริจาคเงินให้โรงพยาบาล
เรื่องของอาหารเต็มโต๊ะนั้นแม้จะมีคนมองว่ายามที่พี่น้องได้รับความเดือดร้อนขาดแคลนอาหารการกิน แต่นางเอกสาวกลับกินมื้อหนึ่งมากมายเกินความจำเป็น ซึ่งจริงๆ แล้วอาหารที่เห็นเธอก็ไม่ได้กินแค่มื้อเดียวเท่านั้น
1
แถมเธอยังได้แบ่งปันให้คนอื่นที่สำคัญก็เป็นการโพสต์เพื่อช่วยโปรโมตร้านอาหารที่ส่งมาให้เธอรีวิว โดยที่ “อั้ม” ไม่คิดเงินสักบาท
1
หากมองในมุมของมาร์เก็ตติ้งการที่ส่งของมาให้เธอช่วยรีวิวตรงนี้มูลค่ายังไม่เท่ากับที่ต้องจ้างเธอรีวิวด้วยซ้ำไป แต่เธอก็ไม่ได้ออกมาโวยวายให้เกิดเป็นประเด็นดราม่าเพียงแค่ชี้แจงข้อเท็จจริงให้ทราบเท่านั้น
เช่นเดียวกับเรื่องของเงินบริจาคให้โรงพยาบาลที่มีหลายคนจ้องจับผิดว่า “อั้ม” มีเงินมากมายมหาศาลแต่ทำไมถึงไม่ช่วยบริจาคเหมือนดาราคนอื่น
เรื่องนี้ก็ได้มีการเปิดเผยจากคนใกล้ชิดของ “อั้ม” ว่าเธอได้ร่วมบริจาคแล้ว เพียงแต่ว่าไม่อยากให้เป็นข่าวจึงไม่มีการโพสต์ยอดเงินเหมือนดาราคนอื่น
แต่ก็ใช่ว่าคนที่ออกมาโพสต์ภาพยอดเงินบริจาคจะไม่ได้กระแสเชิงลบ มีดาราหลายคนถูกมองว่าเป็นการทำดีเอาหน้า บริจาคเงินแล้วต้องออกมาโพสต์ให้สังคมรับรู้ เรียกได้ว่าการเป็นคนสาธารณะทำอะไรก็ผิดไปหมด
เรื่องดาราดารม่ากับอาหารนั้นไม่ได้มีแค่ “อั้ม” ที่โดน ที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็น “เนย-โชติกา วงศ์วิลาศ”, “ใบเตย-สุธีวัน ทวีสิน”, “ธัญญ่า-ธัญญาเรศ เองตระกูล” หรือ “เอมมี่ กลิ่นปทุม” ต่างก็เจอกระแสดราม่าด้วยกันทั้งสิ้น
นอกจากเรื่องอาหารและเงินบริจาคที่ดาราหลายคนจะเจอกระแสดราม่านั้น เรื่องอื่นๆ ที่ดาราโพสต์ในช่วงเก็บตัวอยู่บ้านนี้ ก็ยังมีอีกหลายเรื่องราวที่เกิดขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นนางเอกสาว “แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์” กับกระแสดราม่าเรื่องเต้นที่ถูกมองและเปรียบเทียบว่ากับคนอื่น ซึ่งจริงๆ แล้ว “แต้ว” มีความสามารถในเรื่องของการเต้นอยู่แล้ว
เพียงแต่ระยะหลังมานี้เราจะเห็นเธอโพสต์คลิปเต้นมากเป็นพิเศษ เมื่อมีคลิปเต้นออกมามากมายก็ย่อมเป็นเรื่องธรรมดาที่มีคนนำไปเปรียบเทียบ
“บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” กับกระแสที่เธอออกมาบอกว่าเธอก็เป็นคนหนึ่งที่ช่วยเหลือสังคมในยามนี้ หลังจากที่หลายคนมองว่าดาราไทยไม่ได้ให้การช่วยเหลือเหมือนกับดาราต่างประเทศ
อีกหนึ่งคนที่ดูเหมือนว่าจะมีกระแสดราม่าแรงๆ ก็คือ “หมาก-ปริญ สุภารัตน์” ที่ออกมาโพสต์ในทำนองที่ว่าไวรัสโควิด-19 ช่วยทำให้โลกสะอาด สิ่งแวดล้อมดีขึ้น ซึ่งมีคนที่คิดเห็นต่างไปจาก “หมาก” โดยมองว่าเป็นเรื่องของการสูญเสียความลำบาก
การแสดงความคิดเห็นของดารานั้นก็ไม่ต่างไปจากประชาชนทั่วๆ ไป ซึ่งเรื่องหนึ่งสามารถมองได้สองด้าน “หมาก” เลือกมองข้อดีจากการเกิดไวรัสโควิด-19
ซึ่งแน่นอนว่าเขาก็คงรู้ว่าวิกฤติตรงนี้มีข้อเสียมากแค่ไหน เกิดการสูญเสียและมีการใช้ชีวิตที่ลำบากเป็นอย่างมาก
แต่ด้วยความที่เป็นคนของประชาชนการแสดงความคิดเห็นย่อมดังกว่าประชาชนทั่วไป จึงทำให้หลายคนรับรู้และโต้กลับทางความคิดเห็นที่คัดแย้งไปจากเขา
สิ่งหนึ่งที่คนบันเทิงต้องยอมรับก็คือไม่ว่าเราจะแสดงความคิดเห็นอย่างไร ก็ย่อมที่จะมีคนคิดต่างไปจากเรา โดยปกติแล้วกระแสดราม่าเกิดขึ้นได้อยู่ตลอด
เพียงแต่ว่าตอนนี้หลายคนมีเวลาว่างทางหน้าจอมากขึ้น การโพสต์ในแต่ละครั้งก็ย่อมที่จะมีผู้คนเห็นและแสดงความคิดเห็นมากกว่าเดิม ประกอบกับหลายคนกักตัวอยู่บ้านเป็นเวลานาน ก็อาจจะเกิดความวิตกกังวล มีความเครียด จนแสดงความคิดเห็นออกไปโดยที่ไม่ทันได้ไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วน
เชื่อว่าการเป็นบุคคลสาธารณะของศิลปินดาราคงจะต้องทำใจยอมรับผลกระทบที่จะตามมาแล้วในระดับหนึ่ง เพราะเป็นไปไม่ได้ที่จะมีคนเห็นด้วยการการแสดงความคิดเห็นของเราอยู่ตลอดเวลา
โฆษณา