31 พ.ค. 2020 เวลา 23:17 • หุ้น & เศรษฐกิจ
S1. EP 2. : หลักการลงทุน Introduction
ลงทุนอย่างไรให้ชนะตลาด???
มินิซีรีย์ "Seeking Alpha" ตามล่าหาสุดยอดไอเดียการลงทุน
ในบทที่แล้ว เราได้พูดถึง หุ้นในตลาดนั้นมี performance ต่างกัน หุ้นบางตัวทำได้เพียงค่าเฉลี่ยพอๆกับตลาด แต่มีหุ้นบางตัวที่สามารถ outperform ตลาดได้ค่อนข้างมาก เราเรียกว่าหุ้นกลุ่มนี้ว่า "กลุ่ม Alpha" การที่เรามีหุ้นเหล่านี้ใน portfolio ของเราได้อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้เราสามารถเอาชนะตลาดได้ในระยะยาว
แล้วเราจะหาหุ้นเหล่านี้แบบสม่ำเสมอต่อเนื่องได้อย่างไร ?
ก่อนที่จะตอบคำถามนี้ผมเชื่อว่าเราจะต้องเริ่มต้นด้วยคำถามพื้นฐานแรกก่อนว่า หลักการลงทุนของเรานั้นเป็นอย่างไร ?
เพราะหลักการหรือกรอบการลงทุนของเราจะเป็นหลักที่ให้เรายึด ในเวลาที่เราจะต้องตัดสินใจ ทั้งในการเลือกหุ้นลงทุน หรือในช่วงเวลาที่ตลาดผันผวน
หากเราไม่สามารถตอบได้ว่า หลักการลงทุนของเราเป็นอย่างไร ก็เปรียบเสมือนเราไม่รู้ตัวเองว่ากำลังทำอะไรอยู่ ซึ่งจะส่งผลเสียต่อการลงทุนของเรามาก
เช่น หากตอนนี้เราลงทุนด้วยวิธี ซื้อหุ้นตามเพื่อน ซื้อตามเซียน ติดตามอ่านข่าวสารแล้วเจอประเด็นที่น่าสนใจก็ซื้อเลย หรือแม้กระทั่ง ซื้อตามที่นักวิเคราะห์แนะนำ อ่านบทวิเคราะห์แล้วเค้าบอกว่าดี เหล่านี้เป็นต้น
ผมคิดว่าโอกาสที่เราได้เงินในระยะสั้นๆ อาจจะมี แต่ถ้าใช้วิธีการนี้ไปเรื่อยๆ โอกาสที่ประสบความสำเร็จเอาชนะตลาดได้ในระยะยาวแล้ว ผมว่าน่าจะน้อยมาก
เพราะว่า เมื่อเราไม่ได้ศึกษาอะไรเองแล้ว พอเวลาหุ้นขึ้นเราจะมองไม่ออกว่ามูลค่าที่แท้จริงของกิจการน่าจะเป็นเท่าไหร่ เราอาจจะขายหมูไปก่อน ทั้งๆที่บริษัทอาจจะมีศักยภาพมากกว่านั้นเยอะ
หรือ เวลามีปัจจัยพื้นฐานอะไรบางอย่างเปลี่ยนแปลงไป เราอาจจะรู้ไม่ทันคนที่เขาศึกษามาอย่างดี เราอาจจะขายไม่ทัน ติดดอย หรือต้องตัดใจตัดขาดทุนในภายหลัง
หรือ ในช่วงเวลาที่ตลาดตื่นตระหนก หวาดกลัวมากๆ หุ้นตกอย่างรุนแรง ทั้งๆที่ไม่กระทบพื้นฐานของกิจการเลย เราอาจจะตัดสินใจขายทิ้งด้วยความกลัว ความกังวล ทำให้ขาดทุน แทนที่จะซื้อของดีราคาถูกเก็บไว้ เมื่อตลาดหายตกใจแล้ว ราคาหุ้นอาจจะเด้งกลับมาที่เดิมหรือมากกว่าเดิม ก็เป็นได้
เรามักทำเรื่องพลาดๆ แบบนี้บ่อย โดยสาเหตุที่สำคัญคือ การที่เราไม่รู้ เราไม่ได้ศึกษาเองอย่างรอบด้าน เราฟังคำบอกต่อจากคนอื่นอีกทีหนึ่ง เมื่อมีเหตุการณ์อะไรมากกระทบหุ้นตัวนั้นๆ เราจะสงสัย เราจะไม่มั่นใจ จะทำให้เราไม่สามารถตัดสินใจได้อย่างถูกต้องได้
นักลงทุนหลายท่านลงทุนมานาน อาจจะยังไม่ประสบผลสำเร็จก็อาจจะเป็นเพราะเหตุผลข้างต้นนี้
วิธีแก้ที่ผมคิดว่าได้ผลดี คือเราต้องวางหลักการและแนวทางลงทุนของเรา เขียนออกมาเป็นให้ชัดเจน เอาไว้เป็นแนวทางที่เราเอาไปใช้ตัดสินใจในการเลือกหุ้น และปรับพอร์ตการลงทุนของเราเมื่อมีสถาณการณ์ใหม่ๆเกิดขึ้น ผมขอเรียกว่าเป็นการวาง "Investment Framework"
โดยใน Framework นี้จะต้องกำหนดหลักที่ใช้ ในการตัดสินใจลงทุนในแต่ละครั้ง ว่า เราจะต้องพิจารณาศึกษาปัจจัยอะไรบ้าง
ที่นี้ขอยกตัวอย่างว่า Invesment framework ที่ผมคิดว่าน่าจะช่วยให้นักลงทุนสามารถใช้เป็นกรอบในการปฏิบัติ เพื่อที่จะเอาชนะตลาดได้ในระยะยาวได้ ตามรูปด้านบนครับ
ใน Framework นี้ จะต้องศึกษาปัจจัยเหล่านี้ ในการคัดเลือกบริษัทที่เราจะลงทุน
ปัจจัยภายในของบริษัท (ส่วนที่เป็นวงกลมสีเขียวของรูป) เราจะพิจารณาเรื่อง
1. Strength ความแข็งแกร่งของกิจการ บริษัทจะต้องมีความสามารถในการแข่งขันที่เหนือกว่าคู่แข่งในตลาด
2. Growth บริษัทต้องมีการเจริญเติบโต สามารถสร้างกิจการให้เติบโตมั่นคงได้
3. Price บริษัทต้องมีมูลค่าที่เหมาะสม ไม่ราคาสูงเกินไป มีส่วนต่างให้ทำกำไรได้ในอนาคต
ซึ่งบริษัทที่เราจะลงทุนนั้น จะต้องมีปัจจัยทั้ง 3 อย่างนี้ทั้งหมด ซึ่งตรงนี้เป็นหลักการพื้นฐานแนว value investment ที่มีนักลงทุนปฏิบัติแล้วประสบผลสำเร็จกันมากมาย
ส่วนปัจจัยภายนอกที่ผมคิดว่าควรมีเสริมอีก 2 เรื่อง (ส่วนสีส้มด้านซ้ายมือของรูป) คือ
1. Share price trend อันนี้เป็นปัจจัยทาง technical ของตลาดว่า ตลาดสนใจหุ้นตัวนี้อยู่หรือไม่ หากผลประกอบการณ์พื้นฐานดีขึ้น ตลาดพร้อมที่จะปรับมูลค่าให้หุ้นตัวนี้หรือไม่ เป็นต้น
2. Story ดูว่า เรื่องราวปัจจัยบวกของหุ้นตัวนั้นๆ สามารถเป็นเรื่องราวที่เข้าใจง่ายต่อคนหมู่มากได้หรือไม่ เช่น เรื่องราวอุตสาหกรรมนั้นกำลังเติบโต หรือไม่ พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมนั้นๆ หรือไม่
ปัจจัยภายนอกนี้ จะเป็นตัวส่งเสริมให้ มูลค่าราคาหุ้นของกิจการ แปรผันไปตามผลประกอบการณ์ที่เราคาดไว้เร็วขึ้น เราจะได้ไม่ต้องรอนานกันจนเกินไป
ในการลงทุนแต่ละครั้ง ผมจะพยายามหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้ง 5 ปัจจัยนี้ให้ได้มากที่สุด พร้อมทั้งจดบันทึกเรื่องราวที่เราศึกษามา ว่าเรามีสมมติฐาน เรามีมุมมองการคาดการณ์ว่าอย่างไรบ้าง
การลงทุนเป็นเรื่องการมองอนาคตค่อนข้างเยอะ แต่เมื่อเวลาผ่านไป เราสามารถเปรียบเทียบได้ว่า ในความเป็นจริงนั้นเป็นอย่างไร ถูกผิดไปจากที่เราคิดแค่ไหน
เมื่อมีสถานการณ์ใหม่เกิดขึ้น เราก็จะสามารถ ปรับ assumption ใหม่ให้เป็นไปตามสถานการณ์ ข้อมูลต่างๆที่เราได้มาใหม่จะถือว่าเป็น input นึงประกอบการตัดสินใจจากภาพรวม framework ใหญ่ของเรา
ซึ่งจะช่วยทำให้เรามีหลักยึดในการตัดสินใจในการ ซื้อ ขาย หรือถือต่อไปในแต่ละครั้ง โดยที่ไม่จำเป็นต้องไปถามใครอื่นว่าเราควรจะทำอย่างไรดี
ผมเชื่อว่าวิธีการนี้จะเป็นการช่วยให้เราสามารถเอาชนะตลาดในระยะยาวได้
ใน Ep หน้า ผมจะลงรายละเอียดเพิ่มเติมของ Investment framework นี้ว่าปัจจัยต่างๆ มีความสำคัญอย่างไร ทำไมเราจำเป็นต้องศึกษาปัจจัยเหล่านี้ และแต่ละปัจจัยมันมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันอย่างไร
ขอให้สนุกและมีความสุขในการลงทุน
ขอบคุณครับ
ALPHA investing
01/06/2020
หมายเหตุ:
Framework อาจจะเริ่มต้นสร้างมาจากความเข้าใจของเราเอง จากการศึกษา อ่านหนังสือ สังเกตุแนวทางของนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จมาแล้วในอดีต เอาหลักการต่างๆ มาทดลองใช้จริง และเมื่อเรามีประสบการณ์มากขึ้น เราจะเริ่มเข้าใจว่า อะไรที่ทำแล้วได้ผลดี หรือ อะไรที่ทำแล้วไม่ได้ผล และนำความผิดพลาดมาแก้ไข นำประสบการณ์มาตกผลึกทางความคิด เอามาพัฒนาปรับปรุง Framework ของเราเองให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆ ตราบใดที่เรายังลงทุนอยู่
Investment Framework ของแต่ละคนอาจจะไม่เหมือนกัน แล้วแต่ความถนัดของแต่ละคน แต่เมื่อมีเหตุการณ์อะไรมากระทบ เราจะมีหลักยึด และ จะไม่เมาหมัด จนทำอะไรไม่ถูก
ข้อดีอีกอย่างของการมี framework นี้จะช่วยบอกว่าเรารู้อะไร และ ไม่รู้อะไร เราต้องไปเรียนรู้เพิ่มเติมที่ส่วนไหนบ้างเป็นต้น เช่น เราอาจจะมองออกในปัจจุบันว่ากระแส digital technology กำลังมา บริษัทในธุรกิจนี้เติบโตเร็วแน่นอน แต่เราอาจจะไม่รู้ ไม่เข้าใจ สภาพการแข่งขันของแต่ละบริษัท ไม่เข้าใจวิธีการประเมิณมูลค่าบริษัทเหล่านี้ เราจึงจำเป็นต้องไปหาความรู้ศึกษาในส่วนที่เราไม่เข้าใจให้มากขึ้น เป็นต้น เป็นการพัฒนาขอบเขตความรู้ของเราให้กว้างขึ้น

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา