31 พ.ค. 2020 เวลา 07:12 • ครอบครัว & เด็ก
Small Steps Everyday
หรือ...หนทางหมื่นลี้เริ่มที่ก้าวแรก ไม่ว่าสำนวนแบบไหนความหมายคงไม่ต่างกันเท่าไหร่ คือต้องมี ก้าวแรกเสมอ
ใกล้จะเปิดเทอมแรกของปีการศึกษา 2563 เริ่มต้นกลางปีของปี 2563 วันนี้น้องๆมีเป้าหมายของตัวเองแล้วรึยัง ถ้าตอบว่ายัง ต้องรีบแล้วนะคะ โลกหมุนเร็วมาก เดี๋ยวจะตกขบวนรถได้
มาตอกย้ำกันอีกครั้ง SMART หัวใจของ หลักการ OKRs แต่วันนี้ขอเพิ่มเป็น D-SMART เราต้องมี “ดี”(D)อีกตัวจะดี😀😀
D มาจาก Desirable คือมีความพอใจที่จะทำ ถ้าไม่มี D คงไม่ทำ ไม่อยากจะพิชิตเป้าหมายนั้น มันก็จะไม่มีวันสำเร็จ
S มาจาก Specific เจาะจงเป้าหมายลงไป ไม่เลื่อนลอย บอกจะอ่านหนังสือ ก็เจาะจงไปเลยว่าจะอ่านวันละ 1 ชม. จะได้ทำให้เรารู้ว่าเราต้องทำอะไรบ้าง
M มาจาก Measurable เป้าหมายจะต้องมีการวัดความคืบหน้าและความสำเร็จได้ ทำให้เราสามารถวางแผนต่อๆไปได้
ทุกๆปลายสัปดาห์เราควรมี นัดกับตัวเอง วางแผนไว้ว่ามีนัดกับตัวเองวันไหนดี เพื่อที่จะวัดความคืบหน้า
A มาจาก Attainable การบรรลุเป้าหมาย ตั้งเป้าหมายย่อยลงมาจากเป้าหมายใหญ่ เพื่อที่สำเร็จเป็นขั้นๆจะได้ไม่รู้สึกหมดกำลังใจ
R มาจาก Relevant การตั้งเป็นหมายที่ใหญ่เป็นสิ่งที่ดี แต่จะอย่างไรก็ตาม ต้องคำนึงถึงความเป็นจริง ว่าสามารถทำให้เกิดได้จริง ในเวลาที่ตั้งไว้หรือไม่ เพราะถ้าตั้งไว้ใหญ่เกินไป จะทำให้เกิดความรู้สึกร้าเเละถอดใจ ทางที่ดีคือทั้งเป้าหมายที่สามารถบรรลุได้ทีละอย่าง เพราะจะเป็นเเรงผลักให้เด็กๆได้บรรลุเป้าหมายต่อไปที่ใหญ่ขึ้นได้
T มาจาก Time Bound คือกรอบเวลา ต้องมีระยะเวลาที่แน่นอนว่าเป้าหมายนั้นจะจบลงเมื่อไหร่ ต้องตั้ง deadline ไว้ ไม่เช่นนั้นก็จะเรื่อยเปื่อยไปเรื่อยๆ
วันนี้ผู้เขียนกลับมาเน้นย้ำเรื่องนี้อีกครั้ง อยากให้เด็กๆเริ่มลงมือทำเสียแต่วันนี้
หลักการนี้เราสามารถนำไปใช้ได้ตลอดชีวิต ตั้งแต่เรียน จนเรียนจบ และนำไปใช้ในชีวิตการทำงานในองค์กรที่ทำงานได้เลยทีเดียว
ส่วนผู้ปกครองนั้นยิ่งจำเป็นอย่างมาก ที่ต้องให้เด็กๆมีเป้าหมาย รู้จักการวางแผน มองไปข้างหน้าไกลๆแล้วค่อยย้อนกลับมาณ.ปัจจุบัน
มีหนังสือเล่มนึงกล่าวถึง 7 ข้อที่วัยทีนควรมี และหนึ่งใน7ข้อนั้นคือ การมองไปข้างหน้ามองออกไปไกลๆ
Begin with the End in Mindให้คิดถึงผลลัพธ์สุดท้ายก่อนว่าอยากให้มันเป็นอย่างไรออกมาแบบไหน แล้วค่อยวางแผนการ จะทำให้เป้าหมายเราชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ผู้เขียนได้ประสบการณ์ตรงจากลูกที่ไปเรียนต่อที่ประเทศเยอรมัน เขาจะสอนให้เด็กมองไปข้างหน้าเพื่อกลับมาวางแผนการ ยกตัวอย่างตั้งแต่เรื่องของการศึกษาการเลือกเรียนในมหาวิทยาลัย
ครั้งหน้าเรามาคุยเรื่องนี้กันนะคะ 7ข้อที่ว่ามันคืออะไรบ้าง
ก่อนจะจากกันวันนี้ ทำอะไรตามแผนที่กำหนดไว้ ไม่ต้องถึงกับเป๊ะๆ แต่ควรต้องมีแผนการวางไว้นะคะ ให้เด็กๆหัดทำจนติดเป็นนิสัย
อย่าลืมว่าโลกยุคโควิด เป้าหมายธรรมดาอาจไม่เพียงพอ ต้องตั้งให้ท้าทาย แต่ถ้าไม่ตั้งเป้าหมายไว้เลยเด็กๆก็จะเฉื่อยชาไม่ยอมทำอะไร สุดท้ายนี้อยากพูดถึงข้อที่ 7 มาเกริ่นนำไว้ก่อน
Sharpen the saw หมั่นลับเลื่อยให้คมอยู่เสมอ กล่าวคือ หมั่นดูแลร่างกายตนเองทั้ง 4 ด้านนี้อยู่เสมอ
😇😇สติปัญญา เช่น อ่านหนังสือ เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
💪💪กายภาพ เช่น ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ
😀😀อารมณ์ เช่น พยายามคิดในสิ่งที่ดี มีสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง
🌺🌺จิตวิญญาณ เช่น อยู่กับธรรมชาติ เสียงเพลง หรือเข้าหาศาสนา
โฆษณา