Blockdit Logo (Mobile)
Astory
•
31 พ.ค. 2020 เวลา 15:30 • ธุรกิจ
วันละเรื่อง ตอน Took a knee กับ Nike
ที่สหรัฐกำลังเกิดเหตุประท้วงครั้งใหญ่ โดยมีชนวนมาจากความไม่พอใจการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อชาวอเมริกันเขื้อสายแอฟริกัน การประท้วง #BlackLivesMatter ขยายเป็นวงกว้าง มีทั้งการประท้วงที่ใช้ความรุนแรงและการประท้วงโดยสงบ
หนึ่งในการประท้วงโดยสงบ คือ การคุกเข่าลงหนึ่งข้าง
อดนึกถึง Colin Kaepernick นักอเมริกันฟุตบอลไม่ได้ ไม่สิ อดีตนักอเมริกันฟุตบอลต่างหาก
ที่ใช้คำว่าอดีต เพราะ Kaepernick โดนถอดออกจากทีมฟุตบอลและโดนถอดออกจากลีคส์ระดับประเทศ เพราะคุกเข่าลงข้างหนึ่งแบบเดียวกับแกลดิเอเตอร์ เพื่อประท้วงการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจกับชาวผิวดำที่ไม่มีแม้แต่อาวุธ
ในตอนนั้น Kaepernick เจอเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากการคุกเข่าลงข้างหนึ่งระหว่างเคารพธงชาติ แม้กระทั่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก็ร่วมวงวิจารณ์ด้วยเช่นเดียวกัน โดยบอกว่านักอเมริกันฟุตบอลผู้นี้ไม่เคารพต่อประเทศ ไม่เคารพต่อธงชาติของสหรัฐอเมริกา
แต่ตอนนี้ Kaepernick ได้รับการยกย่อง มีผู้หยิบยกภาพของเขาที่คุกเข่าลงข้างหนึ่งมาเทียบกับตำรวจที่ล็อคคอ Goerge Floyd ชายชาวผิวดำจนเสียชีวิต ซึ่งกลายเป็นชนวนในการประท้วงครั้งนี้
บทความของวอชิงตันโพสต์เปรียบเปรยไว้ว่าเข่าทั้งสองข้างเปรียบได้กับการกดขี่ ที่ทำให้ประชาชนไร้สิทธิ์ไร้เสียงและหายใจไม่ออก ขณะที่เข่าข้างหนึ่งของ Kaepernick คือสัญลักษณ์ของการประท้วงสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
kaepernick ทำในสิ่งที่ตนเองเชื่อ ซึ่งตรงกับสโลแกน Just Do It ของ Nike แบรนด์กีฬาชื่อดังของโลก
ไม่แปลกใจที่ Nike จ้าง Kaepernick ซึ่งไม่มีแม้แต่ทีมลงแข่งในบีคส์ระดับประเทศ มาเป็นพรีเซนเตอร์ในปี 2018 ในส่วนหนึ่งของแคมเปญ Dream Crazy
“เชื่อในบางสิ่ง แม้จะหมายถึงต้องเสียสละซึ่งทุกสิ่ง”
ในครั้งนั้น Nike ถูกบอยคอตต์ รองเท้าโดนเผา เรียกได้ว่าเจอกระแสลบอย่างหยุดไม่อยู่
การเหยียดเชื้อชาติและความหลากหลายทางชาติพันธุ์กำลังเป็นประเด็นที่เข้มข้นในยุคสมัยของประธานาธิบดีทรัมป์เนื่องมาจากนโยบายอเมริกามาก่อน (เชื้อชาติอื่น/ชาติอื่นไว้ทีหลัง) ซึ่งนโยบายของทรัมป์และความนิยมที่ผงาดขึ้นมามาเป็นผู้นำประเทศได้ ทำให้หลายแบรนด์ยากจะจุดกระแสสนับสนุนความหลากหลายทางเชื้อชาติไปเมื่อช่วงปี 2017 และการที่ Nike โดนโจมตีก็เป็นหลักฐานอย่างดีต่อความยากนั้น
แต่ Nike รู้ดีว่ากำลังทำอะไรอยู่ แบรนด์ระดับโลกมีทีมมาร์เกตติ้งที่ประเมินผลตอบรับด้านลบที่จะตามมาจากการออกแอดตัวหนึ่งอยู่แล้ว แม้จะมีผลบ้างในระยะสั้น เช่น หุ้นที่ตกลงหลังปล่อยแอดได้ไม่นาน แต่ในระยะยาว Nike ได้สร้างแบรนด์ที่เข้มแข็ง
แบรนด์ Nike ที่เข้มแข็งจากการมีจุดยืนต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติ
ในการประท้วงปัจจุบันนี้ Nike มาด้วยแคมเปญ “Don’t Do It” ที่ตอกย้ำการต่อต้านความเกลียดชังและความไม่เท่าเทียมทุกรูปแบบ แม้กระทั่งแบรนด์คู่แข่งอย่าง Adidas ยังรีทวิตวิดีโอดังกล่าว
วิดีโอความยาวหนึ่งนาทีของ Nike มีข้อความที่เรียกร้องให้ผู้คนลุกขึ้นสู้กับสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
"แค่ครั้งนี้ อย่าทำ
อย่าแสร้งว่าอเมริกาไม่ได้มีปัญหาใด
อย่าเมินการเหยียดเชื้อชาติ
อย่ายอมรับให้ชีวิตบริสุทธ์ต้องถูกพรากไปจากเรา
อย่าหาข้ออ้างไปมากกว่านี้เลย
อย่าคิดว่าเรื่องนี้ไม่ส่งผลกระทบกับคุณ
อย่านั่งเฉยและปิดปากสนิท
อย่าคิดว่าคุณไม่สามารถเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลง
จงให้ทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลง"
สามารถรับชมวิดีโอเต็มได้ที่นี่ https://twitter.com/nike/status/1266502116463370241?s=21
อ้างอิง
โฆษณา