2 มิ.ย. 2020 เวลา 01:56 • ธุรกิจ
ไม่รู้ล่ะ … คุณเป็นคนติดแอร์ ถ้าแอร์ไม่เย็น คุณต้องรับผิดชอบ
คุณอาจเคยได้ยินประโยคแบบนี้ จากลูกค้า เจ้าของบ้าน หรือคอนซัลฯ หรือคุณอาจเคยเป็นคนพูดเองก็ตาม ผมจะเล่าประสบการณ์การทำงานครั้งหนึ่ง
ผมรับงานติดตั้งแอร์ให้ผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง โดยรับงานจากผู้รับเหมาก่อสร้าง
วันแรกที่เข้าไปหน้างานประชุมกัน คอนซัลฯ ก็บอกว่า คุณเป็นคนติดแอร์ สุดท้ายแอร์ต้องเย็น ถ้าแอร์ไม่เย็น คุณต้องรับผิดชอบ แต่ผมไม่ได้เป็นคนออกแบบนี่นา ผู้ออกแบบเป็นคนกำหนดขนาดแอร์มาให้ทั้งหมด เราทำตามแบบ แล้วถ้าไม่เย็นล่ะ จะทำไงดีฟร่ะ … งานเข้าล่ะ
ผมจึงขอคุยกับคอนซัลฯ นอกรอบ และอธิบายถึงที่มาที่ไปทั้งหมดให้คอนซัลฯ ทราบ (คอนซัลฯทราบดีอยู่แล้วนะ) และบอกเพิ่มเติมว่า ผมไม่สามารถรับประกันความเย็นได้ เพราะผมทำตามผู้ออกแบบซึ่งได้คำนวณขนาดแอร์แต่ละห้องมาให้แล้ว และผมเลือกแอร์ที่มีขนาดไม่น้อยกว่าที่กำหนด สิ่งที่ผมทำได้คือ รับประกันว่า แอร์ที่ติดตั้งถูกต้องและทำงานเป็นปกติ สามารถให้คนกลางหรือผู้ผลิตเข้ามาตรวจสอบได้ แต่ห้องจะเย็นหรือไม่ ต้องเป็นความรับผิดชอบของผู้ออกแบบ
ในโลกความเป็นจริงของการทำงานนั้น ผู้ออกแบบได้ทำหน้าที่ของเขาจบแล้ว ส่วนคนที่ทำงานต่อต้องรับผิดชอบทั้งหมด ไม่เกี่ยวข้องกับผู้ออกแบบอีกต่อไป
ดังนั้น ผมในฐานะของผู้ติดตั้งแอร์ ต้องรับผิดชอบเรื่องความเย็นโดยปริยาย ไม่มีข้อโต้แย้ง
สิ่งที่ผมทำได้คือ ตรวจสอบขนาดแอร์ทั้งหมดทุกห้อง และส่งเรื่องนำเสนอปรับเปลี่ยนขนาดแอร์ให้เหมาะสมตามประสบการณ์ของผมล้วนๆ … ไม่ได้กลับไปคำนวณตามหลักวิชาการทางวิศวกรรมนะ ซึ่งอันนั้นเป็นหน้าที่ของวิศวกรออกแบบ
ซึ่งผมบอกไปอย่างชัดเจนว่า ถ้าติดแอร์ตามขนาดที่ผมกำหนดนี้ ผมรับประกันว่าเย็นทุกห้อง ถ้ามีห้องไหนที่ไม่เย็น ผมรับผิดชอบทั้งหมด!!!
เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่ ต้องกลับไปคุยกลับผู้ออกแบบ แม้จะพ้นความรับผิดชอบไปแล้วก็ตาม เรื่องนี้ได้ถูกนำเสนอกลับไปกลับมา มีการปรับเปลี่ยนขนาดเครื่องถึงสามรอบ ใช้ระยะเวลาในการพูดคุยและเจรจากันนานถึงหนึ่งปี (โดยประมาณ) กว่าจะได้ข้อสรุป เนื่องจากมันกระทบถึงความน่าเชื่อถือของผู้ออกแบบ และงบประมาณที่เพิ่มขึ้นด้วย
แน่นอน!!! ไม่มีใครกล้าออกมารับผิดชอบ ขนาดแอร์ที่เล็กกว่าที่ผมเลือกให้ ทั้งที่ได้ออกแบบตามหลักวิชามาแล้วก็ตาม
สุดท้าย … คุณเดาได้ไหม ข้อสรุปเป็นอย่างไร?
ใช่แล้วครับ … ข้อสรุปคือ ให้ผมรับผิดชอบทั้งหมด ก็คือเลือกขนาดแอร์ตามที่ผมเสนอไปทั้งหมดนั่นแหละ
แต่หน้างานไม่ได้รอนะครับ ระหว่างหนึ่งปีที่คุยกันงานก็เดินไปเรื่อยๆ ไม่ให้ติดขัดกับผู้ที่เกี่ยวข้องอื่นๆ พอเรื่องสรุปได้ ก็ต้องมาตามแก้กันให้หมดครบถ้วนทุกจุดได้อย่างไม่มีปัญหา
หลังจากติดตั้งจบ ลูกค้าแฮปปี้ แอร์เย็นสบาย ใช้ชีวิตมีความสุข ไม่กระทบกับการทำงาน ไม่ต้องกังวลกับเรื่องแอร์ไม่เย็นเลย สรุปเรื่องนี้จบแบบแฮปปี้เอ็นดิ้ง
ประเด็นหรือจุดยืนของผมในเรื่องนี้
ประเด็นแรก: ผมตรวจสอบขนาดแอร์แล้ว มีบางห้องที่ขนาดแอร์เล็กกว่าขนาดห้อง ซึ่งอาจส่งผลให้ไม่เย็นได้ แต่ผมก็ได้ชี้แจงด้วยนะว่า ผมพิจารณาจากประสบการณ์เท่านั้น ไม่ได้นั่งคำนวณอย่างละเอียดนะว่า ผนังสองชั้น กระจกสองชั้น ฝ้าพร้อมฉนวน และอื่นๆ ที่สามารถป้องกันความร้อนได้ดี จนสามารถใช้ขนาดแอร์ที่เล็กลงได้ ซึ่งผมก็ขอให้มีการยืนยันให้แน่ชัดว่า ติดแอร์ตามขนาดที่กำหนดให้แล้ว ห้องจะต้องเย็นแน่นอน
แต่ไม่มีใครออกมาแสดงความมั่นใจเลยว่า ขนาดที่กำหนดให้เย็นแน่นอน แม้กระทั่งผู้ออกแบบที่เป็นคนคำนวณกับมือเองก็ตาม สุดท้ายก็เลยต้องเลือกแอร์ขนาดใหญ่ขึ้นตามที่ผมแนะนำไป เพราะไม่กล้ารับผิดชอบผลกระทบที่ตามมาถ้าแอร์ไม่เย็น
คนระดับนี้ต้องการแอร์ที่เย็นเร็ว ผมหมายถึงแอร์ต้องเย็นเร็วกว่าปกติทั่วไป เรียกว่า 15-20 นาที ถ้าแอร์ยังไม่เย็นก็ไม่เอาแล้ว
และระดับความเย็นหรืออุณหภูมิของอากาศในห้อง ก็ต่ำกว่าของคนทั่วไปด้วย ปกติใช้กันอยู่ที่ 25 องศา แต่คนระดับนี้มักจะเย็นที่ระดับ 22-23 องศา
แต่ … ขนาดแอร์ที่เราพูดคุยกันทั้งหมด ถูกคำนวณที่อุณหภูมิห้อง 25 องศา อุณหภูมิอากาศภายนอก 35 องศา ดังนั้น ถ้าจุดที่เราคุยกันไม่ใช่จุดนี้ ก็ต้องคำนวณขนาดแอร์กันใหม่ และอย่าลืมเผื่อ safety factor เข้าไปด้วย
สุดท้าย … อยากฝากให้ทุกคน ทำงานอย่างเต็มที่และมั่นใจในการทำงานของเรา ที่สำคัญพร้อมรับผิดชอบและรับประกันผลงานให้ลูกค้า แล้วคุณจะทำงานอย่างมีความสุข เพราะคุณทำให้ลูกค้ามีความสุข นั่นเอง
ขอบคุณที่ติดตามอ่านมาถึงจุดนี้ ถ้าชอบ ถ้าเป็นประโยชน์ ฝากกดไลค์ กดแชร์ และกดติดตาม เป็นกำลังให้ด้วยนะครับ ขอบคุณอีกครั้ง
โฆษณา