ชายผู้มีอายุหมื่นกว่าปี จากมนุษย์ยุคน้ำแข็ง
ไม่ยอมแก่และยังไม่ตาย เขาอ้างว่า
เขาคือพระเจ้า :The man from earth
:The man from earth 2007
สวัสดีครับ วันนี้ผมมีเรื่องราวจากหนัง
:The man from earth 2007
ขอบอกก่อนว่าเป็นการสปอยจนเป็นผง
เรื่องราวจะน่าสนใจเพียงใด เชิญอ่านครับ
ชายที่มีใบหน้าอายุประมาณ33-37ปี ชื่อ จอห์น โอแมน เป็นอาจารย์สอนประวัติศาสตร์ประจำ
ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง
เค้ากำลังรีบขนของขึ้นท้ายรถกระบะ
หลังจากที่เขาพึ่งลาออกจากการสอนได้เพียง2วัน
นั้นเพราะเขากำลังจะย้ายไปอยู่ที่อื่นอย่างเงีบบๆโดยไม่บอกใคร
แต่แล้ว
แซนดี้(แอบชอบจอห์น)
อีดิท(ผู้เฉี่ยวฉานด้านศาสนา)
แฮรี่(นักชีววิทยา)
แดนซ์(โค้ชสอนบาส)
เพื่อนๆของเค้าเมื่อรู้ข่าว ก็ได้ขับรถมาที่บ้านมาทันบอกอำลาจอห์นก่อนที่จอห์นจะจากไปอย่างเงียบๆ
แฮรี่ได้ถามจอห์นว่า จะไปโดยไม่บอกนี่มันคืออะไรกัน
จอห์นบอกว่าผมไม่ชอบการบอกลา
แฮรี่บอกต่อว่ามันต้องมีปาร์ตี้เลี้ยงอำลานะพร้อมกับถืออาหารเดินเข้ามาหาจอห์น
อีดิท ได้เหลือบไปเห็นภาพวาด แล้วร้องขึ้นด้วยความตื่นเต้นว่า โอ้โหอะไรเนี่ย ดูเหมือนภาพวาดของแวนโก๊ะเลย
อีดิทอยากให้จอห์นเอารูปไปตรวจสอบ
แต่จอห์นปฏิเสธ
บอกว่ามีคนให้เค้ามาเขาไม่อยากตีค่าให้มันเป็นเงินหรอก
จากนั้นทุกคนก็พากันเดินเข้าไปในบ้าน
แดนซ์ได้ถามจอห์ว่า
คุณสอนหนังสือมาเป็นสิบปี จะได้ขึ้นเป็นคณบดีอยู่แล้วคุณมีปัญหาอะไรจอห์น
ทำไมถึงลาออก
จอห์นตอบกลับไปว่า ไม่มีอะไรเอาเป็นว่าผมอยากอยู่อย่างสันโดษ นี่ไม่ใช่ครั้งแรก
แดนซ์ตอบกลับทันทีว่า ไม่ๆคุณหนุ่มเกินไปที่จะบอกว่าเคยทำแบบนี้มาแล้ว
อีดิทจึงพูดเสริมขึ้นมา ใช่10ปีมานี้เค้าไม่แก่ลงมาเลยซักนิดนึง ผู้หญิงในคณะคงยอมจ่ายเพียงเพื่อให้เค้าบอกเคล็ดลับ
จอห์นและเพื่อนได้คุยกันได้สักพัก
อาร์ค(นักโบราณคดี)กับลินดา
ก็ถึงบ้านจอห์นเพื่อมาเลี้ยงส่งจอห์นด้วยเช่นกัน เมื่ออาร์คกับลินดาเข้ามาในบ้านของจอห์น จึงกล่าวทักทายจอห์น
และให้หนังสือมนุษย์ยุคแรก
ที่เค้าเป็นคนเขียนเองให้กับจอห์น
จากนั้นอาร์ค ก็ได้ยิงคำถามจอห์นอีกครั้งว่าคุณจะไปไหนจอห์น
มันทำให้เพื่อนๆที่อยู่ในห้องสงใสขึ้นมา
อีกครั้ง และได้รุมถามจอห์นอย่างต่อเนื่อง
จอห์นจึงยอม และเริ่มด้วยคำพูดว่า
มีแรื่องบางอย่างที่ผมอยากบอก
ให้พวกคุณรับรู้ นี่เป็นครั้งแรก
จอห์นจึงตั้งปัญหาคำถามนึงว่า
ถ้าหากมีคนในยุคน้ำแข็งรอดชีวิตจนมาถึงปัจจุบันนี้ อายุ14,000ปีจะเป็นยังไง
จากนั้นทุกคนที่มีความรู้ระดับอาจารย์
ได้พูดคุย ให้เหตุผลกันต่างๆนาๆในสาขาวิชาชีพของตน กันอย่างน่าสนใจ
ในระหว่างที่ทุกคนให้ความเห็น
กันอย่างสนุก
จอห์นก็ได้พูดน้ำเสียงจริงจังขึ้นว่า
ผมมีโอกาสได้ล่องเรือโคลัมบัส
แต่ผมไม่ชอบการผจญภัย ตอนนั้นผมก็มั่นใจว่าโลกของเราน่ะกลม
แต่ยุคนั้นผมก็ยังกลัวว่าเราอาจจะ
ตกขอบโลกกันอยู่ดีนั้นแหละ
ด้วยคำพูดของจอห์น ทำให้ทุกคนอึ้งต่างมองหน้ากัน
อาร์คขำเล็กน้อยเพราะคิดว่าจอห์นแค่พูดตลก
จอห์นเล่าต่อ ทุกๆ10ปีเมื่อมีคนสังเกตุเห็นว่าผมไม่แก่ลงผมต้องเปลี่ยนที่อยู่
อาร์คพูดแทรกขึ้น เก่งมากน่าสนใจ
ถ้าคุณเขียนหนังสือเล่มนี้จบ
คุณต้องส่งให้ผมอ่านนะ
จากนั้นจอห์นก็เล่าเรื่องราวของเค้าตั้งแต่เริ่มจนถึงอายุ35ปีเค้าก็ไม่แก่ลงอีกเลย
ตั้งแต่อยู่ในชนเผ่าเดิม และเล่าถึงการย้ายชนเผ่าจนเป็นอาณานิคมเป็นบ้านเจอป่า เจอเขา ผ่านท้องทุ่ง
เจอสิ่งใหม่นานับประการ
เป็นเมืองเป็นแควนจนถึงยุคปัจจุบัน
ในระหว่างที่เล่าเพื่อนๆที่เป็นนักวิชาการในด้านต่างๆ ต่างถามและทดสอบเค้าในหลายๆเรื่อง
แต่จอห์นก็ตอบได้ทุกอย่างทุกคำถาม
อาร์คบอกจอห์นเค้าอาจรู้จากตำราเพราะทุกคำถามก็มาจากตำรา
อีดิท จึงถามแล้วภาพวาดของแวนโก๊ะล่ะ
จอห์นบอกว่า เค้าให้ผมเองครับเราเคย
คุยกัน เค้าชอบออกมาวาดภาพแถวบ้าน
แล้วจอห์นก็พูดถึงการเปลี่ยนที่อยู่
หรือเปลี่ยนตัวตน
เป็นลูกชายตัวเองก็เคยเป็นมาแล้ว
แต่ก็เคยโดนจับได้
ผมติดคุกปีนึงที่เบลเยี่ยมปี1862
ไม่ลืมเด็ดเข็ด ข้อหาปลอมแปลง
เอกสารทางราชการ
มีการถามความสมเหตุสมผลอีกหลายอย่าง
จนอาร์คบอกว่ามีคำตอบให้กับทุกคำถาม เริ่มไม่ตลก
อาร์คบอกคุณทำแบบนี้ทำไม
อาร์คลุกออกไปด้วยอาการไม่พอใจเพราะคิดว่าจอห์นโกหกเค้ามากไปแล้ว
จอห์นจึงออกไปขนของที่ยังเหลือต่อ
เพื่อนๆของจอห์น จึงได้โอกาสปรึกษากัน
ว่าจอห์นเค้าต้องการจะพูดให้เราเชื่อ
แบบนี้จริงๆเหรอ
แฮรี่ก็พูดขึ้นว่าแต่เค้าก็ไม่ได้มีอะไร
นี้ดูไม่มีพิษมีภัย
อาร์คได้โทรหาเพื่อนอีกคนที่เป็นจิตแพทย์
บอกให้ฟังว่าจอห์นเล่าเรื่องที่บ้ามาก ให้รีบมาดูอาการของจอห์นหน่อย คิดว่าเค้าน่าจะสติเสีย
แซนดี้ตามจอห์นไปขนของ
และบอกความในใจแก่จอห์น
คุณรู้มั้ยฉันรักคุณ
จอห์นบอกว่าผมรู้ครับ
แซนดี้ถาม แล้วคุณล่ะ
จอห์นบอก ผมก็แคร์คุณมากๆครับ
แต่ถ้าเราคบกัน คุณก็น่าจะรู้นะว่าคุณจะต้องเจออะไร
แซนดี้เลยถามว่าคุณเชื่อจริงๆเหรอ
ว่าคุณเป็นมนุยษ์ถ้ำ
จอห์นเลยบอกว่า ถ้าเราคบกันคุณกับลูกๆจะต้องแก่ลง แต่ผมไม่
แล้วสักวันผมจะต้องจากพวกคุณไป
จากนั้นจอห์นได้เดินกลับเข้ามาในบ้าน
แฮรี่ได้แอบอยู่และพุ่งเข้าล็อกตัวจอห์นจากด้านหลัง แต่จอห์นกับจับเขาทุ่มลงเพื่อนอย่างง่ายดาย
จอห์นถามว่า ทำแบบนี้ทำไม
แฮรี่บอกว่าอยากรู้ว่าคนอายุหมื่นกว่าปี
จะเก่งและปราดเปรียวแค่ไหนกัน
จอห์นบอกว่าผมไม่ใช่ซุปเปอร์
แฮรี่จึงบอกใช่ แต่ผมได้สายดำระดับ2นะ
จอห์นจึงบอกงั้นไปฝึกอีกสักพันปีนะ
ลินดาและคนอื่นบอกจอห์นว่ายังมีข้อข้องใจ
อยากให้จอห์นเล่าต่อ
จอห์นจึงได้พูดถึง ภาพวาดผนัง อุณหภูมิในแต่ล่ะยุค ทะเล แมมมอธ ภาษาต่างๆ ชนเผ่าต่างๆ เคยแกล้งตายเพื่อเป็นคนใหม่
อาร์ค บอกความรู้พวกนี้มันมีจากในตำรา
จอห์บอกว่าใช่ ผมต้องอ้างอิ้งจากตำรา เพราะผมต้องบอกในสิ่งที่คุณรู้
ซึ่งมีแต่ในตำรา
จากนั้นจอห์นเล่าต่อว่าได้เดินทางไปที่
อินเดีย
จอห์นบอกว่าเค้าโชคดีมากๆ เพราะเค้าได้พบ พระพุทธเจ้า ที่นั้น
เป็นคนพิเศษสุดเท่าที่ผมเคยเจอมา
เค้าสอนผมในสิ่งที่ผมไม่เคยรู้มาก่อน
พระองค์รู้ว่าผมไม่เหมือนคนธรรมดา
ซึ่งผมก็ไม่เคยบอก
อาร์คจึงพูดขึ้นมาว่า แต่ถ้าหากว่าที่
คุณพูดมันเป็นเรื่องจริงคุณจะมาบอกเราทำไม พวกเราอาจจะไปบอกคนอื่น
คุณอาจจะเดือดร้อนนะ
จอห์นจึงบอก คงไม่มีใครเชื่อคุณหรอก
มันแค่เรื่องเล่ากันในหมู่เพื่อน
ต่อให้วันนี้ผมพูดจนคุณเชื่อ
แต่อีกเดือนนึงคุณอาจไม่เชื่อ
อาร์คกับอีดิทเริ่มไม่พอใจ
เพราะเค้าหวังให้จอห์นพูดสักที
ว่ามันเป็นแค่เรื่องอำกันเล่น
ในระหว่างนั้น วิว(จิตแพทย์)
ที่อาร์คได้โทรตามก็มาถึง
วิวทักท้ายจอห์นเสร็จนั่งลงแล้วบอกว่า ผมก็ไม่อยากจะพูดแบบนี้หลอกนะจอห์น
แต่เราทุกคนในที่นี้เป็นห่วงคุณนะจอห์น
จอห์นได้บอกว่าครับ ทุกคนเกรงว่าผมจะเพี้ยนไปแล้ว
วิวจึงบอก ผมล่ะอยากอยู่ตั้งแต่แรกเหมือนคนอื่นจังเลย
และแดนซ์ ได้พูดขึ้นว่า
มันไม่มีวิธีไหนเลยที่จอห์นจะพิสูจน์ได้ว่าเรื่องราวที่เขาพูดคือความจริง
และก็เหมือนกับเรา
ก็พิสูจน์ไม่ได้ว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง
เพื่อนเราคนนี้ถ้าเค้าไม่เป็นมุษย์ถ้ำ
เค้าก็โกหก รึไม่ก็ บ้า ถ้าเป็นแบบนี้แล้ว
เราก็ลองปล่อยให้เค้าพูดเถอะ
เราอาจดึงเค้ากลับมาสู่โลกความจริง
หรือไม่อาจมีบางคนเชื่อเค้าจริงๆก็ได้
จากนั้นวิวที่เป็นจิตแพทย์ก็ได้ถามคำถามต่างๆในแง่จิตวิทยา
จนมาถึงคำถามว่า คุณเคยป่วยมั้ย
จอห์นบอกว่าเคย
แฮรี่จึงพูดขึ้นถามจอห์นว่า
ก่อนที่คุณจะไป
คุณช่วยไปห้องแล็บของผมได้มั้ย
ให้ผมทดสอบอะไรหน่อย
จอห์นเลยบอกว่า ผมกลัวห้องแล็บ
ต้องไปอยู่ในนั้นเป็นพันปีเพื่อ
ให้คนที่สูบบุรี่มาศึกษาร่างกายผม
แดนซ์จึงบอกทางการแพทย์อาจพิสูจน์
เรื่องที่คุณเล่าได้
อาร์คจึงพูดแทรกขึ้นมาทันที่
คุณกำลังเล่าเรื่องเหลือเชื่อให้เราฟัง
แต่กับไม่แคร์ว่าเราจะเชื่อคุณรึเปล่า
อย่างนั้นน่ะเหรอจอห์น
จอห์นจึงบอก ผมก็ไม่ได้หวังให้พวกคุณเชื่อ
อาร์คได้ตอบกลับ
ในใจคุณกำลังหัวเราะเยาะเราเป็นตัวตลกหรือเปล่าจอห์น
จอห์นบอกว่า ผมไม่อยากให้คุณคิดแบบนั้น
ผมมีปริญญา10ใบในสาขาวิชาชีพ
ของพวกคุณทั้งหมด ยกเว้นวิวที่เป็นจิตแพทย์
วิวจึงยืนขึ้น แล้วบอกว่าสมัยนี้นะทุกคนอาจ
พกปืนไปไหนต่อไหน
แล้ววิวจึงทำท่ามือจะยิงปืนใส่จอห์น
แล้วถามจอห์นว่าคุณเป็นอมตะมั้ยคุณจะรอดตายรึเปล่า
จอห์นจึงบอก ผมไม่เคยบอกว่าผม
เป็นอมตะแค่อายุยืน
ผมอาจตายและคุณต้องสงใสไปทั้งชีวิตว่า คุณทำให้ใครตาย
คำตอบนี้ทำให้วิวไปไม่เป็นและได้นั่งลง
วิวจึงถามต่อ เคยอยากให้ชีวิตคุณจบลงบ้างมั้ย
จอห์นตอบ ไม่
วิวถามต่อ 14,000ปีทั้งบาดเจ็บป่วยไข้ความเสียใจ คุณผ่านมาหมดแล้ว ถือว่าโชคดีมากที่ยังรอด คุณเคยกลัวตายมั้ย
และคำถามต่างๆมากมาย
ในเชิงจิตวิทยา
จนวิวถามคำถามที่ลึกลงไปเรื่อยๆ
จนจอห์นบอกว่างั้นคุณก็เชื่อเรื่องผมสินะ
วิวเลยบอกว่ามันไม่สำคัญกับคุณหรอก
ว่าผมจะเชื่อหรือไม่เชื่อ
เพราะคุณจะอยู่แต่เราจะตาย
ถ้ามันเป็นจริงมีใครที่ไหนมั้ย
ที่จะไม่อิจฉาคุณ
คุณเล่าเรื่องให้เราฟังจอห์น เคยคิดมั้ยว่าเราจะรู้สึกยังไง คุณไม่ตาย
แต่ที่แน่ๆเราต้องตาย
วิวได้ยืนขึ้น
แล้วพูดต่อว่า คุณเป็นผีดิบดูพลังชีวิตคนอื่นรึเปล่าจอห์น โดยที่คุณอาจไม่รู้ตัว
คุณอาจมีชีวิตยืนยาวโดยที่คนอื่นต้องตาย
แดนซ์บอกกับวิวว่าคุณพูดเกินไปแล้วนะวิว
แต่วิวก็ไม่หยุด พูดต่ออีกว่า
เบื่อมั้ย ว้าเหว่มั้ย รึในจิตใจคุณมัน
รักใครไม่เป็น
คุณมีชิวิตที่ผิดรึเปล่า
จากนั้นวิวได้หยิบปืนในกระเป๋าออกมาและเล็งไปที่จอห์น
พร้อมกับบอกว่า ถ้าอย่างนั้นคุณอาจถึงเวลาตาย
แดนซ์จึงเข้ามาห้าม
แต่วิวยังคงจ่อปืนไปที่จอห์น
แล้วบอก ให้ผมยิงที่แขนมั้ย
เราอาจได้เห็นแผลคุณหายเอง
รึถ้ายิงที่หัวถ้าอย่างนั้นมันจะเป็นยังไงล่ะ
จอห์นก็เงียบเพียงแต่มองวิวและปล่อยให้วิวพูดอยู่ฝ่ายเดียวเท่านั้น
วิวจึงเอาปืนลงแล้วบอกว่า ผมคงต้องกลับไปตรวจข้อสอบแล้ว เชิญคุยกันตามสบาย
พอวิวออกไปเพื่อนๆต่างพูดว่าเค้าเป็นอะไร เค้าเปลี่ยนไปมากเลย
แฮรี่จึงได้บอกทุกคนว่าแมรี่ที่เป็นภรรยาวิวพึ่งตายไปเมื่อวาน
จอห์นเมื่อได้ยินอย่างนั้นจึงรีบวิ่ง
ตามวิวไปข้างนอก จอห์นจึงเรียกวิว
และบอกว่าผมไม่รู้เรื่องแมรี่ผมขอโทษ
ผมรู้เรื่องของผมมันส่งผลกับคุณยังไง
วิวบอกผมขออยู่ตามลำพัง
จอห์นจึงขอปืนที่วิวพกอยู่
เพราะกลัวว่าวิวจะคิดสั่น
แต่เมื่อจอห์นได้ปืน
ในปืนนั้นไม่ได้มีลูกกระสุน
ทำให้จอห์นเบาใจและกลับเข้ามาในบ้าน
ทุกคนในห้องต่างยังอยากฟังเรื่อง
ของจอห์นอีก
แดนซ์จึงถามขึ้นว่า ยังมีคนอื่นที่รอดตายเหมือนคุณอีกมั้ย
จอห์นบอกว่าผมเจอคนนึงตอนศตวรรษที่15
ผมสงใสว่าเค้าเป็นแบบผม ผมเลยบอกเรื่องของผมไป
อาร์คจึงบอกว่า อ้าวไหนคุณบอกว่านี่เป็นครั้งแรกที่คุณบอกไงจอห์น
จอห์นบอกว่าผมลืมไปเพราะความแก่ที่มี
จอห์นเล่าต่อ
เราคุยกันอยู่2วันเค้าบอกว่าเค้าก็เป็นแบบผมแต่ผมก็ไม่แน่ใจ
จน200ปีต่อมาผมคิดว่าผมเห็นเค้าตรงสถานีรถไฟในบรัสเซลส์
เค้าหายไปไหนฝูงชน
แฮรี่ถามต่อยามว่างคุณทำอะไรจอห์น
ยามว่างผมจะไปในชนเผ่า ปาปัวนิวกินี
พวกนั้นนับถือผมเป็นพระเจ้าแห่งความอมตะ พวกนั้นสร้างรูปปั้นของผมด้วย
มีงานเลี้ยงที่ใหญ่ผมถ่ายรูปไว้ด้วยแต่เสียใจด้วยผมเก็บของไปแล้ว
อีดิทจึงบอกถ้าเรื่องของคุณเป็นจริง ทำไมพระเจ้าถึงปล่อยให้มีคนแบบคุณไว้
แล้วแดนซ์ก็ถามขึ้นมาว่าคุณนับถือ
ศาสนามั้ย
จอห์นบอกผมไม่นับถือศาสนาที่พวกคุณนับถือหรอก ผมเคยนับถือเมื่อนานมากแล้ว
แดนซ์ถามต่อคุณเคยเจอบุคคลปวัติศาสตร์ที่สำคัญต่อศาสนามั้ยเช่นคนในพระคัมภีร์
จอห์นบอกว่ามีบ้าง
อีดิทถามต่อทันที่ว่าใคร
จอห์นเงียบสักพัก
แล้วบอกว่าเราข้ามเรื่องนี้ดีกว่า จอห์นไม่อยากเล่าเรื่องนี้ และบอกว่าคืนนี้พอแค่นี้เถอะครับ
เมื่อจอห์นบอกเช่นนั้นมันยิ่งทำให้ทุกคนต่างอยากรู้มากกว่าเก่า ทุกคนต่างรุมถาม
ขยั้นขยอถามจอห์นกันใหญ่
จนจอห์นก็ต้องยอม
ตอบว่าใช่ ผมรู้จัก
จอห์นบอกต่อว่าเค้าโครงและตำนานศาสนานั้นกว้างมาก
สัจธรรมของศาสนาเนี่ยมันมีเพียงนิดเดียว พระคำภีร์ที่ผมจะบอกเนี่ยอาจมีไม่ถึงร้อยคำด้วยซ้ำ คุณพร้อมจะฟังมั้ย
อีดิทที่เป็นผู้เฉี่ยวฉานในด้านศาสนาได้ลุกขึ้นและพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจว่า
ฉันไม่อยากฟังหรอก
แฮรี่พาฉันกลับบ้านหน่อย
อาร์คได้พูดขึ้น
นั่งลงอีดิท คุณทำเหมือนคุณเชื่อเค้าจริงๆอย่างนั้นแหละ
อีดิทบอกว่าแต่นี้มันเป็นการดูหมิ่นศาสนา แค่แต่งคำภีร์ใหม่ก็ดูหมิ่นแล้ว
แดนซ์จึงบอกว่ามีพระคำภีร์ใหม่
เป็นสิบสิบฉบับจากหลายคนหลายสมัย ทุกคนต่างปลอบอีดีท
อีดิทจึงยอมนั่งลง
จอห์นจึงเล่าต่อ
มีคนได้พบพระพุทธเจ้าเชื่อในคำสอนและนำกลับไปคิดอยู่พักนึง 500ปีได้มั้ง
เมื่อเค้ากลับมาในโรมันเค้าไม่เห็นด้วยในอาณาจักรโรมัน
เค้าเลยคิดว่าทำไมไม่นำคำสอนของพระพุทธเจ้ามาสอนในรูปแบบใหม่
เค้าลองดู
และแสดงความขัดแย้งกับทางโรม
โรมชนะ
ที่เหลือเป็นเพียงประวัติศาสตร์ประมาณนั้น มีแต่งเติมเสริมแต่งเข้าไปบ้าง
อีดิทได้พูดใบหน้าที่เหนื่ยใจ
นึกแล้วเชียว เค้าว่าเค้าเป็นพระเยซู
จอห์นได้เล่าต่อว่าเรื่องที่ถูกตรึงกางเขน
เพราะได้เรียนรู้การระงับความเจ็บปวดจากในธิเบตและอินเดีย
ด้วยวิธีการชลอการทำงานของร่างกายจนถึงจุดที่ดูเหมือนตาย
พวกโรมคิดว่าเค้าตาย
ผู้นำถือดึงร่างลงจากกางเขน แล้วพาไปไว้ในถ้ำ ต่อมา เมื่อรู้สึกตัว พยายามหลบโดยไม่ให้ใครรู้ แต่ก็มีคนเห็น พยามบอกความจริงกับทุกคน ไม่มีใครฟัง
แต่พวกนั้นปลื้มปิติเป็นอย่างมาก
จึงดูเหมือนฟื้นคืนชีพ
ผมจึงหนีไปอยู่ยุโรบ
จากนั้นเพื่อนๆทุกคนได้ถกเถียงในเรื่องราวต่างนาๆ
จนอีดิทพูดว่าพวกคุณรู้มั้ยพวกคุณทำร้ายจิตใจฉันแค่ไหน
แดนซ์ได้พูดต่อความจริงแล้วคำสอนศาสนาเราก็คล้ายๆคำสอนของพระพุทธเจ้า
เมตตา ความอดกลั้น ความมีน้ำใจ ความรัก เรียนรู้สัจธรรมเกิดแก่เจ็บตายของสัตว์บนโลก หมายถึงคุณความดี
จอน์บอกว่าผมเห็นพิธีกรรมการปวงสรวงการคุกเข่าเครพ การสวดมนต์ การสักการะต่างๆ เห็นคุกกึ้เห็นไวท์ นั้นทำให้ผมคิด นั้นไม่ใช่สิ่งที่ผมสอน
ในระหว่างที่พูดกันวิวก็ได้กลับเข้ามาอีกครั้ง โดยบอกว่า
ผมไปนั่งคิดอยู่พักนึงผมหนาวมาก ยังไงผมก็ยังไม่เชื่อคุณหรอก แต่คุณต้องการคนช่วยจอห์น
เพื่อนจึงเล่าเรื่องที่วิวพลาดไปให้เค้าฟัง จากนั้นวิวก็นั่งลง จอห์นขอตัวไปเก็บของที่เหลือเพราะมืดแล้ว
ในระหว่างนั้นเอง จิตแพทก็ได้พูดขึ้นว่า
บางคนที่เค้าผิดปกติเนี่ย สามารถสร้างเรื่องได้ทั้งชีวิตและเชื่อมั่นได้อย่างสนิทใจ
เค้าก็เชื่ออย่างนั้น ตัวตนที่แท้จริงของเค้าเนี่ยยอมเปิดทางให้กับจินตนาการที่เพ้อเจ้อ
หากจอน์เป็นอย่างนั้น เค้าก็คงผิดปกติ
เพื่อนต่างให้ความเห็นต่างๆนาๆว่าทำไมจอห์นถึงแกล้งเล่าเรื่องแบบนี้ ว่าติดยารึเปล่า แฮรี่บอกไม่ใช่ สติไม่ดีหรือเปล่า
วิวก็บอกเค้าสติดี
อาร์คพูดขึ้นว่า ทุกสิ่งที่จอน์ตอบเรา เราก็ไม่สามารถแย้งจอน์ได้จริงๆ ในระหว่างที่ถกเถียงกันเรื่องจอห์น
จอห์นก็ได้เดินเข้ามานั่ง
แดนซ์ได้พูดขึ้นว่า คุณทำให้นักวิชาการ4คนอึ้งพูดไม่ออก
ไม่รู้จะคิดกับคุณยังไง
จากนั้นจอห์นก็พูดถึงคนในอดีต
ที่เป็นผู้เริ่มแนวคิดในสิ่งต่างๆ เช่นการเกิดบิกแบงของจักรวาล พูดถึงไปอียิปต์
อีดิทได้พูดถึงเรื่องศาสนาอีกครั้ง โดยบอกว่า คิดว่าศาสนาเป็นเรื่องแค่ความอยู่รอดแค่นั้นเองเหรอ
จอห์นบอกว่า คำภีร์เก่าขายความกลัว
คำภีร์ใหม่ขายคุณงามความดี
ถูกป้อนโดยนักกวีนักปรัชญาที่ฉลาดกว่าผมมาก
แฮรี่ถามต่อว่า เทศนาอะไรที่บนเขา
จอห์นถามกลับว่าฉับบไหนล่ะ
ผมเคยเทศนาบนเนินวันนึง มีคนอยู่ฟังไม่เท่าไหร่นัก
เยซูในพระคำภีร์กล่าวว่า
เจ้าคิดว่าข้าเป็นใคร
และเค้าให้ตัวเลือก
ผมก็ให้ตัวเลือกคุณ
อีดิทที่ได้ยินแบบนั้นทำให้จ้องจอห์นด้วยสายตาสับสน
และถามจอห์ว่า จริงเหรอ แล้วเธอก็ร้องไห้
ทำให้วิวลุกขึ้นมาเปิดไฟ
พร้อมน้ำเสียงที่ไม่พอใจว่า
นี้มันชักจะไปกันใหญ่แล้ว
มันเลยเถิดไปใหญ่แล้ว
พวกเรากำลังเครียดกันหมดแล้ว
ผมไม่คิดว่าคุณเสียสตินะ
แต่สิ่งที่คุณพูดน่ะมันไม่จริง
จึงเหลือเพียงเหตุผลเดียว
ถึงเวลาที่คุณต้องยอมรับว่าสิ่งที่คุณพูดมันเป็นแค่เรื่องหลอกลวง โกหก
ถูกต้องมั้ยล่ะจอห์น
ถ้าคุณไม่เลิกทำในตอนที่ยังเลิกได้
ผมคิดว่าคุณต้องการความช่วยเหลือ
ผมจะส่งตัวคุณเข้าไปให้หมอดูอาการ
ผมทำได้
ผมเลยจะขอร้อง ไม่สิ
ผมขอสั่งเลย
ให้คุณบอกความจริงกับคนพวกนี้
ให้ยุติซะ ถึงเวลาแล้วนะจอห์น
ได้โปรด
ทุกคนเงียบกันหมด
แล้วจอห์นก็พูดขึ้น
ถึงที่หมายแล้ว ทุกคนลงได้
มันเป็นเรื่องโกหก มันเป็นแค่
เรื่องแต่งขึ้น
ทุกคนต่างเสียใจ โดยเฉพาะอีดิทที่ร้องไห้
ต่างถามจอห์นว่าทำไมทำแบบนี้!
อาร์ค ตะคอกใส่จอห์น
เรื่องแต่งขึ้นเหรอ คุณไปเอาความคิด
บ้าบอคอแตกนี้มาจากไหน
จอห์นเลยบอกว่า
พวกคุณให้ไอเดียวผมเอง
อีดิทเห็นรูปแวนโก๊ะปลอมแล้วก็พูดเรื่องผมไม่แก่ลง
อาร์คให้หนังสือมนุษย์ยุคแรกแกผม
ผมได้ความคิด ผมลองเช็คปฏิกิริยากับทุกคน แต่ว่า ผมทำเกินไปหน่อย
ผมเล่นเกมส์ของพวกคุณ
พวกคุณก็เล่นเกมส์ของผม
แดนซ์พูดขึ้น
ให้ตายสิคุณหลอกพวกเราสินิทคุณทำเนียนมากเลย คุณเนี่ยมันเลวจริงๆเลยจอห์น
อีดิทบอกฉันอุส่าเป็นห่วงคุณ
จอห์นบอกผมทราบผมเกือบจะหลุดออกมาตั้งหลายรอบแน่ะ
และอาร์คได้พูดขึ้นผมรับเรื่องนี้ไม่ไหวแล้วขอกลับก่อน และได้บอกกับจอห์นว่าคุณมันบ้าสุดๆผมไม่รู้จักคุณ
และก็เดินออกไปพร้อมกับลินดา
และทุกคนในห้องก็เริ่มทยอยกลับ
ก่อนกลับแดนซ์ได้บอกมันเป็นไอเดียที่พิเศษมีหลักการ มีความเป็นไปได้
จอห์นได้เดินออกไปเก็บของชิ้นสุดท้ายแล้วเดินออกมาหน้าบ้าน
แซนดี้ตามจอห์นมาด้วย
แซนดี้ได้บอกจอห์นว่า
เท่าที่ฉันได้รู้จักคุณมา คุณไม่ใช่คนหลอกใช้คนอื่น ไม่หลอกปั่นหัวคนอื่นอย่างที่คุณทำข้างในเมื่อกี้เด็ดขาด
คิดว่าโกหกเก่งใช่มั้ย
อายุ14,000ปีเนี่ยพนันได้ว่าต้องเจอสาวๆมาเพียบ
เพื่อนๆจอห์นได้เดินออกมาจากบ้านจอห์น
พร้อมยกโทษกับสิ่งที่จอห์นทำและบอกลาจอห์น เมื่อเพื่อนๆได้เดินกลับ
เหลือวิวที่กำลังจะออกมาคนสุดท้าย
แซนดี้ได้ถามจอห์นต่อ
แล้วคุณใช้นามสกุลอะไรมาบ้าง
จอห์นบอกว่าเยอะ
จอห์นเฮรี่ จอห์นซอวิท ตอนสอนที่ฮาร์วาร์ด ผมใช้ชื่อ จอห์นทอมมัส
สอนที่บอสตัน จอห์นพาที จอห์นทีพาตี้
วิวที่กำลังเดินออกมา
เมื่อได้ยินแบบนั้น จึงถาม เดี๋ยวๆๆ จอหน์พาที ที่บอสตันเหรอ
ทำให้จอห์นตกใจถึงกับเอามือกุมปาก
แล้ววิวพูดต่อ ผมไม่มีวันเชื่อคุณหรอก
วิวเริ่มยืนไม่อยู่
จอห์นจึงเดินไปประคองตัว แล้วพูดว่า
แม่ของคุณชื่อโนล่า
วิวเริ่มร้องไห้ สบัดมือจอห์นออกเล็กน้อย
พร้อมพูดว่า ใช่แม่ผมเอง
ผมไม่ยอมเชื่อหรอก
แล้วหันมาเกาะแขนจอห์น
ถามด้วยน้ำเสียงที่สะอื้นว่า
แล้วหมาผมล่ะเราเลี้ยงมันก่อนผมจะเกิดอีก
จอห์นได้บอกชื่อทันที ใช่ วูฟฟี่ไง
ทำให้วิวร้องไห้หนัก
แล้วเข้ากอดจอห์นและร้องไห้
จอห์นจึงถามถึงโนล่าว่า
เธอแต่งงานใหม่เหรอ
วิวได้พูดไปด้วยร้องไปด้วยว่า
คุณทิ้งเราไป
จอห์นบอกว่าผมขอโทษนะ
ผมต้องเปลี่ยนที่อยู่คุณก็รู้
แต่ผมทิ้งทรัพย์สินไว้มากพอนะ
วิวร้องไห้หนักและบอกว่าหนาว
จอห์นประคองวิวเข้าไปในบ้าน
พร้อมพูดวิวรี่ของพ่อหนาวเสมอ
ลูกไม่ชอบอากาศหนาว
วิวพูดขึ้นอีกว่าสมัยนั้น
คุณไว้เครา
จอห์นบอกใช่ๆ
คุณชอบดึงเพื่อดูว่ามันจริงมั้ย
พอจอห์นพูดจบ
โรคหัวใจวิวก็กำเริบ
จอห์นได้โทรเรียก911
แต่ไม่ทันแล้ววิวได้ตายแล้ว
จอห์นจึงออกเดินทางต่อ
พร้อมกับรับแซนดี้ไปด้วยกัน
จบ.
ปล.ไม่มีเจตนาดูหมิ่นศาสนาใดๆทั้งสิ้น
เป็นเพียงเนื้อเรื่องในหนังเรื่องหนึ่งเท่านั้น
หากผิดพลาดหรือทำให้ท่านใดไม่พอใจ
เข้าพเจ้าขออภัยมาในณที่นี้ด้วยครับ
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
