1 มิ.ย. 2020 เวลา 14:28 • ปรัชญา
# หนังสือของคิง
1
ชีวิตยิ่งถูกปิดกั้นมากเท่าไหร่ ในพื้นที่ของ จินตนาการ จะยิ่งถูกเปิดกว้างออกมากขึ้นเท่านั้น อ่านเรื่องราวต่อไปนี้แล้วคุณจะเข้าใจ
1
เรื่องเล่าของคิง
คิง คือชายที่เติบโตขึ้นมาจากครอบครัวที่ยากจนข้นแค้น เขาเป็นลูกชายคนเล็ก ที่มีเพียงแค่แม่เท่านั้นที่เป็นผู้เลี้ยงดูเขามา เนื่องจากว่าพ่อของเขา เป็นนาวิกโยธิน และได้ทอดทิ้งครอบครัวไปตั้งแต่ คิง ยังเป็นเด็กที่กำลังเริ่มหัดเดิน
ซึ่งงานอดิเรกที่ คิง คลั่งไคล้มากเป็นพิเศษ ก็คือการอ่านนวนิยายที่ติดอันดับหนังสือขายดี จนเป็นเหตุให้เขาอยากที่จะเป็นนักเขียนหนังสือที่ได้รับการยอมรับเช่นนั้นบ้าง
เขาจึงเริ่มฝึกเขียนนิยายในช่วงที่เข้าไปเรียนมหาวิทยาลัย และในขณะเดียวกัน เขาก็ได้พบรักกับ ทาบิธา ภรรยาของเขาในช่วงนั้นอีกด้วย
จุดเริ่มต้น
คิง พยายามเขียน และส่งผลงานให้กับสำนักพิมพ์ต่าง ๆ มาโดยตลอด แต่ก็ถูกปฏิเสธทุกครั้งไป ด้วยสไตล์การเขียนที่ไม่เหมือนใคร และแอบมีความหยาบคายเล็กน้อยผสมอยู่ในงานเขียนของด้วย
จนทำให้ คิง รู้สึกท้อแท้ และสิ้นหวังเป็นอย่างมาก แต่ด้วยความฝัน และความยากจน ที่สร้างบาดแผลให้เขามาตั้งแต่เล็กจนโต จึงทำให้เขายังคงพยายามสู้ต่อไป
กระทั่งในปี 1971 คิง ก็ได้แต่งงานกับ ทาบิธา ภรรยาของเขา และได้อาศัยอยู่ด้วยกันในรถบ้าน เพียงแค่สองคน เพราะความยากจน จึงเป็นให้แม้แต่ในวันแต่งงาน ของพวกเขาเอง ก็ยังไม่มีเงินมากพอ ที่จะซื้อชุดแต่งงานดี ๆ ใส่เลยด้วยซ้ำ พวกเขาจึงต้องใช้วิธีการขอยืมชุดจากเพื่อนบ้านเพื่อให้มีมาใช้เข้าพิธีในวันแต่งเท่านั้น
เพื่อความอยู่รอด
ทาบิธา และ คิง ทำงานหนักแทบจะตลอดเวลา เพื่อหาเลี้ยงครอบครัวให้อยู่รอด อีกทั้งพวกเขายังพยายามที่จะไม่ใช้โทรศัพท์มือถือ เนื่องจากมันแพงมากเกินที่พวกเขาจะจ่ายไหว
แม้ว่าจะทำงานอย่างอื่นประกอบด้วย คิง ก็ยังคงมุ่งมั่นเขียนนวนิยายของเขาต่อไป แต่ถึงเขาจะพยายามมากเพียงใด พัฒนาฝีมือมากขึ้นขนาดไหน งานเขียนของเขาก็ยังคงถูกปฏิเสธจากสำนักพิมพ์อยู่เรื่อยมา
จนทำให้เขาเริ่มท้อแท้ แทบที่จะสิ้นหวัง และเริ่มพูดกับภรรยา ของเขาว่า “ผมไม่สามารถที่จะแบกรับ ความรู้สึกท้อแท้ และสิ้นหวังจากการถูกปฏิเสธงานเขียนกว่า 60 ครั้งนี้ได้อีกต่อไปแล้ว มันช่างแสนเจ็บปวดทรมาน เหมือนการโดนเหล็กที่แหลมคมปักเข้ากลางหัวใจของผมอย่างไงอย่างงั้น”
การปฏิเสธครั้งที่หกสิบ
แม้จะคิดแบบนั้น คิง ก็ยังคงเขียนต่อไป จนกระทั่งหนังสือเล่มแรกของเขาเขียนเสร็จ เขาจึงได้ตะเวนส่งไปให้กับสำนักพิมพ์ต่าง ๆ ได้อ่านและพิจารณาอีกครั้ง แต่มันก็ยังคงถูกปฏิเสธกับมาอยู่ดี
จนกระทั่งเหลือเพียง สำนักพิมพ์ Doubleday ที่เขาได้ส่งไปเป็นที่สุดท้าย จึงทำให้เหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น เนื่องจากว่า งานเขียนของเขาได้รับการตอบรับจากสำนักพิมพ์ และได้ถูกตีพิมพ์วางขายเป็นเรื่องแรก
โอกาสครั้งสำคัญ
ซึ่งหนังสือเล่มนี้มีชื่อว่า “The Glass Floor” ถูกวางขายในราคา $ 35 แม้จะเป็นอย่างนั้น หนังสือเล่มแรกของ คิง ก็ขายออกไปได้เพียงแต่ 13,000 เล่ม ซึ่งถือเป็นจำนวนยอดขายที่น้อยมากสำหรับหนังสือนวนิยายในยุคนั้น
เขาจึงเริ่มตั้งใจปรับปรุง และพัฒนางานเขียนของเขาอย่างจริงจังอีกครั้ง จนกระทั่งสองปีต่อมา หนังสือเรื่อง “Carrie” ของเขาก็ได้ถูกตีพิมพ์อีกครั้ง
และนี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการได้ขึ้นตำแหน่งหนังสือขายดีที่สุดแห่งปีเป็นครั้งแรกของเขาอีกด้วย
ความสำเร็จที่ใกล้เข้ามา
นอกจากนี้หนังสือเล่มนี้ยังถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ที่มีชื่อว่า Brian De Palma ในปี 1976 และสามารถทำรายได้ไปกว่า 33 ล้านเหรียญ ด้วยงบประมาณการสร้างเพียงแค่ 1.8 ล้านเหรียญเท่านั้น
ต่อจากนั้นมา เขาก็ได้เขียนนวนิยายออกมาอีก หกเรื่อง ด้วยกัน ซึ่งได้แก่ Salem's Lot, The Shining, Rage, The Stand, The Long Walk, The Dead Zone และได้รับการตอบรับจากผู้อ่านเป็นอย่างดีเช่นกัน
ด้วยเหตุนี้ในปี 1980 เขาจึงกลายเป็นนักเขียนที่มีชื่อเสียงระดับโลกคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ อีกทั้งหนังสือที่เขาเขียนก็มักจะติดอันดับ หนังสือขายดีที่สุดในโลกอยู่เสมอ ๆ อีกด้วย ซึ่งชายคนนี้ก็คือ Stephen King นักเขียน และผู้กำกับภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงระดับโลกคนหนึ่งนั้นเอง
ดังที่ สตีเว็น ฮอว์กิ้ง กล่าวไว้ว่า “แม้ชีวิตจะดูเหมือนว่า ยากเย็นแสนเข็น แต่ยังไงก็ตามมันก็ยังคงมีสิ่งที่ใช่สำหรับคุณ และรอให้คุณทำมันให้สำเร็จให้ได้อยู่เสมอ”
แปลและเรียบเรียงโดยเรื่องเล่าจากดาวนี้
ที่มา:
อ่านบทความเรื่องเล่าจากดาวนี้เพิ่มเติมได้ที่
หากชื่นชอบก็อย่าลืมกด Like กด Share เพื่อเป็นกำลังใจให้กันด้วยนะคะ สามารถแชร์แนวคิด มุมมองดีๆได้ใน Comments นี้เลย 😄
โฆษณา