Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
pharanee
•
ติดตาม
2 มิ.ย. 2020 เวลา 01:25 • ปรัชญา
เรื่องเล่าจากร้านขายของ
มีโอกาสได้พาตัวเองเดินเข้าใน tesco lotus ตลาด ที่รูปแบบการวางสินค้า มันจะดูแปลกตาเราๆ ไปเสียหน่อย
ไม่ใช่ว่าเขาจัดเรียงสินค้าไม่ดีนะคะ
เพราะเมื่อลองคิดดูดีๆ แล้ว ความแปลกที่ว่านี้ มันน่าจะมีต้นตอจากตัวเราเองที่เคยชินกับการจัดเรียงสินค้าแบบ seven-eleven มากกว่า
หลังจากที่เราเดินซอกนั้นออกซอกนี้ ถามป้าแม่บ้านที่กวาดพื้นอยู่แถวนั้นบ้าง ถามพนักงานที่เดินผ่านไปผ่านมาบ้าง.....ท้ายที่สุด
เราก็สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ของตนเอง โดยการจัดการหาซื้อข้าวสารอาหารแห้งใส่บาตรได้จนครบทั้งหมด
จากนั้นเราก็หอบข้าวหอบของ (ต้องใช้คำนี้เลยค่ะ) เพื่อที่จะไปจ่ายเงินที่ที่คิดเงิน ก็ปรากฏว่าพนักงานคนแรก และคนเดียวในที่แห่งนั้น......ไม่ว่าง!! .....
แต่ไม่วางก็ไม่เป็นไรค่ะ รอได้ๆ .....เราคิดในใจ ก่อนที่จะได้ยินเสียงพนักงานชายคนหนึ่งเอ่ยเสียงสดใสออกมาว่า “เชิญลูกค้าทางนี้เลยครับๆ”
เมื่อได้ยินดังนั้นเราเองก็จัดการหอบข้าวหอบของไปวางไว้ที่ที่ดังกล่าว.....จริงๆ แล้ว โดยปกติเรามักจะมีการเตรียมเงินเอาออกมานอกกระเป๋าล่วงหน้า เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาในการชำระเงินค่าสินค้า
แต่วันนี้....เอ่....พูดง่ายๆ เลยละกันว่าเราลืม (แหะๆ) ดังนั้นเราจึงเสียเวลาหามันอยู่สักพัก
ในขณะที่ปากเราก็เอ่ยขอโทษกับพนักงานไปด้วยเป็นระยะๆ ประมาณว่า “เดี๋ยวขอหาเงินก่อนนะคะ ขอโทษนะคะ”
และในเวลาเดียวกันนี้ ก็เริ่มมีลูกค้าคนอื่นถือของมารอจ่ายเงินต่อจากเราแล้วอีกต่างหาก
“ไม่เป็นไรครับ ใจเย็นๆ ไม่ต้องรีบนะครับ รอได้ครับรอได้”
พนักงานคนเดิมเอ่ยออกมาอีกครั้ง ให้เราที่กำลังค้นกระเป๋าอันแสนจะรกรุงรังของตัวเองรู้สึกเกรงใจมากขึ้นไปอีก แต่ด้วยน้ำเสียงและท่าทีสุภาพไม่ได้แฝงการข่มขู่หรือประชดประชันนั่นก็ทำให้เราใจชื้นขึ้นมาเล็กน้อย
เวลาผ่านไปไม่นาน เราเองก็สามารถควักเงินออกมาจากกระเป๋า (ที่เกือบๆ จะเป็นน้องถังขยะ) ได้เป็นที่สำเร็จ ด้วยความเกรงใจทำให้เราเราอดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากขอโทษพนักงานหนุ่มคนนั้นอีกครั้ง
และในครั้งนี้นี่เองที่พนักงานหนุ่มคนนั้นเริ่มเอ่ยเป็ยฝ่ายเอ่ยปากชวนเราคุยขึ้นมาบ้าง
“ผมเป็นพนักงาน ยังไงๆ ผมก็รอลูกค้าได้อยู่แล้วครับ” (ให้คะแนนความหล่อ+10) “แต่ในทางตรงกันข้ามถ้าผมให้ลูกค้ารอสิ ผมผิด”
“เอ่อ....ถ้าเป็นพี่ พี่รอได้นะคะ ไม่เป็นไร” เราจำได้ว่าตนเองเอ่ยออกไปแบบนั้นโดยที่รู้สึกแบบนั้นจริงๆ
และประโยคต่อมาที่ถือเป็นประโยคสุดท้ายของการสนทนาของพวกเราทั้งสองคนในวันนั้น ก็ทำให้เราต้องแอบเอากลับมาคิดคนเดียวต่อไปอีกนาน
“บางคนไม่เป็นแบบนั้นนะครับ รอไม่ได้ ใจร้อนจะเอาให้ได้ตอนนั้น บางทีผมทำให้ไม่ทันทั้งๆ ที่ผมพยายามทำเต็มที่แล้ว”
อืมม์.....จริงๆ แล้วถ้าจะว่าไป เราเองก็เจอเรื่องแบบที่น้องพนักงานคนนี้เจอ บ่อยไม่ใช่เล่นเหมือนกัน
ด้วยความว่าตนเองนั้นก็มีร้านขายของเล็กๆ อยู่แห่งหนึ่ง เมื่อขึ้นชื่อว่าเป็นร้านขายของ มันก็ต้องมีการให้บริการลูกค้าอย่างเต็มที่ แต่.....ลูกค้าบางคนก็เหลือเกินที่จะบรรยาย.....แต่ก็นะ.....คำว่า
“ลูกค้าคือพระเจ้า” นั่นแหละที่ทำให้เราต้องทำตัวอ่อนน้อมถ่อมตน ถ้าอยากจะขายของได้ก็ต้องอดทน ก็เราอยากได้เงินเขานี่ จริงไหมละ!!
อืมม์....ในส่วนของความรู้สึกของเราในยามที่โดนลูกค้าของร้านตัวเองทำไม่ดีใส่ เราก็มักจะเก็บไว้สอนตัวเองว่า
อย่าได้ริอาจไปทำแบบนี้ต่อกับใครที่ไหน เรารู้สึกแย่อย่างไร คนที่เขาโดนเรากระทำแบบนั้นใส่เขาก็รู้สึกแย่ไม่แพ้กัน!!
ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น เราไม่ชอบการต่อราคา ก็อย่าได้ไปต่อราคาสินค้าของใคร เพราะเราไม่ทราบต้นทุนที่แท้จริงของสินค้าๆ นั้นๆ ......
หากเราคิดว่าราคาสินค้านั้นสูงเกินความเป็นจริง สิ่งที่ควรจะทำง่ายๆ ก็แค่การเดินไปหาสินค้านั้นๆ ในร้านอื่นแค่นั้น.......
ถ้าเขาอยากจะลดให้เราจริงๆ เขาก็ลดของเขาเองนั่นแหละ......แล้ว.....ร้านไหนที่บริการไม่ดี หรือตั้งราคาสินค้าแพงเกินควร สุดท้ายแล้วมันก็จะเลือนหายไปตามกาลเวลาเอง.....
มันเป็นเรื่องธรรมชาติอยู่แล้ว เราไม่ต้องจัดการอะไรให้มากไปกว่าการรับรู้และมองดู........
บางทีสิ่งที่บรรดาผู้ซื้อและบรรดาผู้ขายควรมีพกติดตัวไว้ในกระเป๋าของแต่ละคน อาจไม่ใช่เงินที่เตรียมไว้ซื้อของหรือทอนให้กับลูกค้า.....จริงๆ แล้วมันอาจเป็นแค่ความเอาใจเขามาใส่ใจเรา
(ปล. เพื่อนๆ ของเราบางคนยังเคยมานั่งบ่นให้ฟังว่า ราคาที่ลูกค้าบางคนต่อลงมานั่นเล่นเอาทำให้ตัวเขาเองนั้นถึงกับหน้าซีด......ก็นะลูกค้าต่อราคาได้เก่งมาก ต่อราคาได้ต่ำกว่าต้นทุนที่ซื้อมาเสียอีก!! 555+)
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย