บางแสน ดินแดนแสนสุข
ทะเลบางแสน
วันนี้ เริ่มคลายล็อกดาวน์หลายที่ คนเริ่มไปท่องเที่ยวกันมากขึ้น มีสถานที่ยอดนิยมแห่งหนึ่งคือบางแสน มีทะเลและสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ไกลจากกรุงเทพมหานคร .. บางแสน จังหวัดชลบุรี ระยะทางเพียง 80 กว่ากิโลเมตร ไปกลับได้ภายในวันเดียว มีถนนหนทางสะดวกสบาย ทั้งแบบธรรมดาหรือแบบจ่ายเงิน (มอเตอร์เวย์และบูรพาวิถี) รวมถึงว่าอีกไม่กี่ปีจะมีรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อระหว่าสนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินดอนเมือง และสนามบินอู่ตะเภา อำเภอสัตหีบ จังหวัดชนบุรี
บางแสนเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่คนรู้จักไปพร้อม ๆ กับข้าวหลามหนองมนมาตั้งแต่สมัยคุณปู่คุณย่าจนมาถึงรุ่นหลานเหลนในปัจจุบัน และคนที่มาเที่ยวบางแสนโดยเฉพาะเด็ก ๆ จะชอบไปพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยบูรพา ก่อนจะไปเล่นน้ำที่ชายหาดบางแสนซึ่งน้ำใสให้เล่นได้เพียง 4-5 เดือน ระหว่างตุลาคม ถึงกุมภาพันธุ์ เท่านั้น นอกจากนั้นแล้วน้ำจะไม่ค่อยสะอาด มีเศษขยะหรือมีเหตุการณ์น้ำทะเลเรืองแสง ตามช่วงฤดูกาล
แหลมแท่น บางแสน เมื่อแสงจะลับขอบฟ้า
.. มีเรื่องเล่าว่า นานมาแล้วบริเวณแถบนี้เป็นที่อยู่ของผู้คนที่มีอาชีพทำประมง เช่นเดียวกับครอบครัวของหญิงสาวชื่อว่า "สามมุข" ต่อมาเมื่อพ่อกับแม่จากไปในวัยที่ไม่มากนัก เธอจึงย้ายมาอยู่กับยาย จนต่อมาวันหนึ่งได้ไปเจอว่าวตกอยู่ จึงได้เก็บไว้ด้วยคิดว่าคงขาดมาเพราะลมแรง เจ้าของคงตามหาและมาเอาคืน ซึ่งต่อมาก็ได้มีชายหนุ่มมาตามหาว่าวจริง ๆ พอได้พบว่าวก็ไม่ได้นำกลับไปแต่ได้มอบเป็นของที่ระลึกแก่หญิงสาว ด้วยความสิเนหา
นับตั้งแต่นั้นมา "หนุ่มแสน" ได้ติดต่อ พบปะกับสามมุขมาโดยตลอดภายใต้การเฝ้ามองของบิดาด้วยอารณ์ที่ไม่ชอบใจนัก แต่ความรักของหนุ่มสาวนับวันก็ยิ่งเพิ่มทวี จนถึงมั่นหมายจะเป็นคู่สามีภรรยาไปชั่วชีวิต และได้สาบานร่วมกันว่าหากใครทรยศต่อความรัก หรือมีอะไรที่ทำให้รักนี้ไม่สมหวัง จะกระโดดหน้าผาให้ชีพนี้ตกตายไปเสีย
เมื่อวันเวลาผ่านไปจนเห็นว่าความรักสุกงอม หนุ่มแสนได้ร้องขอให้พ่อมาสู่ขอสามมุขเพื่อตกแต่งเป็นภรรยาตามประเพณี แต่นั่นเหมือนราดน้ำมันลงบนกองไฟ ความไม่พอใจของพ่อระเบิดออกมาเป็นความผิดหวังในตัวลูกชาย จึงบอกว่าได้เลือกหญิงสาวคนหนึ่งไว้ให้แล้วและจะจัดงานแต่งให้ในเร็ววันนี้ ... จนเมื่อวันงานมาถึง มีแขกหรื่อมาร่วมอวยพรคู่บ่าวสาวอย่างล้นหลาม หนึ่งในนั้นมีสามมุขร่วมอยู่ด้วย หญิงสาวรดน้ำอวยพรเสร็จพลันวิ่งหุนหันฝ่าฝูงออกไป
ท่าทางของสามมุข กระตุกความรู้สึกของแสนจนทำให้นึกขึ้นได้ต้องรีบวิ่งตามไป แต่ก็สายเกินที่จะแก้ไข เพราะสิ่งที่พบคือร่างไร้วิญญาณของสามมุขที่กระโดดหน้าผาลงมานั่นเอง และทันใดนั้นชายหนุ่มก็ปีนขึ้นเขา ไปกระโดดลงมาปลิดชีวิตตัวเองตามสัญญาที่ให้ไว้กับคนรักเช่นกัน
ศาลเดิมของเจ้าแม่สามมุข
ชายหาดที่เรียกว่า "บางแสน" มีศาลของปู่แสนตั้งอยู่ และชายทะเลนี้ทอดยาวไปเกือบ 3 กิโลเมตรจนเชื่อมกับเนินเขาที่ชื่อว่า "สามมุข" บนเขามีลิงอยู่มากที่คนส่วนหนึ่งเชื่อว่าเป็นบริวารของย่าสามมุข มีศาลเล็ก ๆ ดั้งเดิมตั้งอยู่บนทางลาดลงเขา แต่ต่อมาได้สร้างศาลใหม่ ใหญ่โตขึัน เปิดให้คนมาไหว้พระขอพร มีสิ่งสะดุดตาคือว่าวหลากสีสวยงาม พริ้วไหวยามต้องลมเป็นของแก้บนยืนยันความศักดิ์สิทธ์ของเจ้าของสถานที่แห่งนี้ ชั้นบนสุดมีรูปปั้นของเจ้าแม่กวนอิมตั้งหันหน้าไปยังทะเลอันเวิ้งว้าง
ว่าวบนศาลหลังใหม่
ถึงตอนนี้ หลายคนคงได้ทราบเรื่องราวของดินแดนที่เรียกว่าบางแสนมากขึ้น เมื่อมีโอกาสมาเที่ยวแล้ว นอกเหนือจากการเล่นน้ำทะเล การกินอาหารนานาชนิดที่มีให้เลือกแทบจะครบทุกภาคของไทยแล้ว สิ่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดเลยคือการไปไหว้พระขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ให้ชีวิตราบรื่น แคล้วคลาดปลอดภัย ประสบความสำเร็จสมปรารถนา พร้อม ๆ กันไปรำลึกถึงปู่แสนย่าสามมุข ผู้บูชาความรักจนยอมตาย..
วันนี้เปลี่ยนแนวเล็กน้อย แต่หวังว่าเพื่อน ๆ จะได้พลังบวกจากเรื่องนี้ครับ..
(เครดิตภาพ: ชีวิตคิดบวก)
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
